รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกทานอาหารเสริมวัยทองให้ถูกต้อง และได้ผลลัพธ์ดีที่สุด  (อ่าน 1691 ครั้ง)

nanasee

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
    • ดูรายละเอียด


          พออายุเริ่มเข้าเลข 4 ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่การผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนในรังไข่ลดลง ทำให้ไม่มีประจำเดือน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น อาการร้อนวูบวาบที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ่อย รู้สึกร้อนอย่างกะทันหันทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและช่วงอก,การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หงุดหงิดง่ายและมีอารมณ์แปรปรวน บางครั้งอาจรู้สึกเศร้าหรือวิตกกังวล,นอนไม่ค่อยหลับ ระบบการทำงานของร่างกายลดลง ดังนั้นวัยทองจึงเป็นช่วงวัยที่ต้องดูแลตนเองให้ดี ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีวิตามินและอาหารเสริมวัยทองให้ได้เลือกทานมากมายดังนี้

วิตามิน และอาหารเสริมสำหรับวัยทอง
วิตามินที่วัยทองควรทาน
1.   วิตามินบี6
วิตามินบี6 เป็นวิตามินที่ช่วยสร้างสารเซโรโทนิน หรือสารสื่อประสาทที่มีความสำคัญในการทำงานของสมองและระบบประสาท ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่วัยทอง สารเซโรโทนินก็จะลดต่ำลงไปด้วย จึงส่งผลให้เกิดอารมณ์แปรปรวนได้ แถมยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย ดังนั้นจึงแนะนำให้กินวิตามินบี6 เพื่อป้องกันอาการต่างๆ ที่เกิดจากการที่ระดับสารเซโรโทนินต่ำลงนั่นเอง
2.   วิตามินบี12
วิตามินบี12 เป็นวิตามินที่ส่งผลดีต่อกระดูก ต่อการทำงานของระบบประสาท และมีส่วนช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งเมื่อเข้าสู่วัยทอง ร่างกายจะเริ่มสูญเสียความสามารถในการดูดซึมวิตามินบี12 ดังนั้นจึงควรกินวิตามินบี12 เพื่อลดความเสี่ยงในการที่ร่างกายอาจขาดวิตามินชนิดนี้ไปจนส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ร่างกายอ่อนแอ เบื่ออาหาร เกิดอาการท้องผูกง่าย มีภาวะโลหิตจาง สับสน ซึมเศร้า ชาที่มือและที่เท้า รวมทั้งมีอาการสมองเสื่อมด้วย
3.   วิตามินดี
โดยปกติแล้วเมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น หรือเริ่มเข้าสู่วัยทอง มักจะไม่ค่อยมีความรู้สึกอยากออกไปนอกบ้าน หลายคนชื่นชอบการอยู่ติดบ้าน นั่นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดวิตามินดี สำหรับภาวะที่เกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินดีนั้นก็คือ มันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการที่กระดูกจะหักง่าย และยังทำให้เกิดอาการปวดกระดูกและเป็นโรคกระดูกพรุนได้จนในที่สุด ดังนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือเข้าสู่วัยทอง แนะนำให้กินวิตามินดี จะช่วยลดอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้ได้เป็นอย่างดี
4.   วิตามินอี
วิตามินอี คือวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีหน้าที่ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย โดยความเครียดที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงวัยทองนั้นก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลายลงได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ตลอดจนเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ โดยอาการเหล่านี้มักพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยทองหรือช่วงวัยหมดประจำเดือน ดังนั้นการลดความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้จึงทำได้ด้วยการเติมวิตามินอี ให้กับร่างกายอย่างเพียงพอ

อาหารเสริมสำหรับวัยทอง
1.   ไอโซฟลาโวน
เป็นสารที่มีแหล่งที่มาจากถั่วเหลือง หรือสกัดมาจากถั่วเหลือง เมื่อร่างกายรับเข้าไป จะถูกเปลี่ยนเป็นสารสกัดจากพืชที่ออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมน เอสโตรเจน จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบตามตัว หงุดหงิดง่าย ป้องกันไม่ให้ผิวพรรณแห้งจนเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการเกิดโรคกระดูกบาง, กระดูกพรุนได้ หากรับประทานอย่างต่อเนื่อง
2.   แบล็คโคฮอช (Black Cohosh)
เป็นสมุนไพรที่นำส่วนของรากมาใช้สกัดเป็นสารออกฤทธิ์ ช่วยในเรื่องลดอาการปวดศีรษะบ่อยๆ ใจสั่น นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก และอารมณ์แปรปรวน
3.   แคลเซียม (Calcium)
มีอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นม แต่ถ้ามีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน ไขมันในเลือดสูง ควรทานเป็นประเภทงา งาดำ ถั่วต่างๆ แทนก็ได้ เพราะได้แคลเซียมเช่นเดียวกัน
4.   Red yeast rice
ข้าวยีสต์แดง เป็นข้าวที่หมักกับยีสต์สีแดง ลดไขมันในเลือด ช่วยลดไขมันในเลือดได้ทั้ง LDL คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ และลดการอักเสบในร่างกาย
5.   Anti-oxidant
วิตามินในกลุ่มนี้ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี สารกลุ่มแคโรทีน ไลโคพีน โคเอมไซม์ คิวเท็น สารสกัดเมล็ดองุ่น สารสกัดเปลือกสนฝรั่งเศส แอสต้าแซนทิน และ เรสเวอลาทอร์ เป็นสารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยมากในการป้องกันการเกิดโรค ทั้งโรคหลอดเลือดอุดตันหัวใจและสมอง ลดการสร้างสารเบต้าอะไมลอยด์ในสมอง ที่เป็นต้นเหตุของโรคความจำเสื่อม เสริมภูมิต้านทาน ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง

          นอกจากการเลือกทานอาหารเสริมวัยทองแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตบางอย่างควบคู่ไปด้วย อย่างเช่น ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เพราะจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกให้กับเราได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีความเครียดควรจัดการกับความเครียดด้วยการเล่นโยคะ หรือทำสมาธิ และต้องไม่ลืมที่จะไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ

บันทึกการเข้า