พิมพ์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
1 ชั่วโมง 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

[waanbotan_]

บางครั้งเมื่อต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว หรือลงทุนซื้อบ้านหลังแรก แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าตนเองมี หนี้เสีย ติดบัญชีดำของธนาคาร ขอสินเชื่อไปก็ถูกปฏิเสธ จึงส่งผลต่อแผนชีวิตของใครหลายคน เรามาทำความรู้จักกันว่า หนี้เสีย หรือ npl คือ อะไร เพื่อไม่ให้หนี้สินสร้างความเดือดร้อนให้คุณในภายหลัง

โดยปกติแล้วการกู้เงินมาประกอบอาชีพ ลงทุนซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ขายต่อ หรือปล่อยเช่า ล้วนเป็นหนี้ที่สร้างรายได้ในอนาคตทั้งนั้น นั่นเรียกว่า “หนี้ดี” แตกต่างจาก “หนี้เสีย” ซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ เช่น การใช้จ่ายเกินตัว ซื้อสินค้าของใช้ฟุ่มเฟือย จนกลายเป็นหนี้สินวนเวียนต่อไปไม่รู้จบ

คำว่าหนี้เสีย หรือ NPL (non-performing loan) คือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วันแล้วไม่จ่ายคืนตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากธนาคารแล้วชำระคืนไม่ทันตามกำหนด หรือใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงินแล้วติดหนี้หนักมากจนจ่ายคืนไม่ไหว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ได้ขอสินเชื่อไว้นั้นจะรายงานข้อมูลว่าคุณมีหนี้เสียกับ “เครดิตบูโร” ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ส่งผลให้คุณมีประวัติไม่ดีที่ส่งผลต่อการยื่นกู้สินเชื่อในอนาคต

ขึ้นชื่อว่าหนี้เสียก็มีแต่คำว่าเสียหาย ทั้งสูญเสียความน่าเชื่อถือ ทั้งเสียโอกาสกู้เงินเพื่อทำตามความปรารถนาหรือความฝัน แน่นอนว่าถ้าคุณมีประวัติไม่ดี ขยันสร้างหนี้ที่ไม่ทำให้เกิดรายได้หรือใช้จ่ายเงินเกินตัวและปลดหนี้ไม่ได้จนกลายเป็น หนี้เสีย และติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโรไม่จบไม่สิ้น หลังจากนั้นถึงแม้จะชำระหนี้เสียไปเรียบร้อยแล้ว แต่ประวัติหนี้เสียก็ยังติดอยู่ในประวัติเครดิตยูโรอีกระยะหนึ่ง ทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ต้องรอการอัปเดตข้อมูลใหม่รายเดือนก่อนจึงจะยื่นกู้ผ่านฉลุย แต่ก็ถือว่าเสียเวลาไปพอสมควร อาจส่งผลให้ยื่นกู้ไม่ผ่านหรือโอนเงินไม่ทันภายในกำหนด ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของการลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว การจัดการหนี้เสียล่าช้าก็จะส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจด้วย

บริหารจัดการหนี้เสียอย่างไร
หนี้เสีย npl คือ หนี้ที่ไม่สามารถจ่ายตามกำหนดเวลาชำระ หากต้องการปลดภาระหนี้เสีย สิ่งแรกที่ต้องปรับคือการสร้างวินัยในการจัดการเงินระยะยาว โดยกำหนดว่าเราเป็นหนี้ไม่เกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันโดยไม่สร้างหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก พร้อมทั้งควบคุมนิสัยการใช้เงิน วางงบประมาณการใช้จ่ายอย่างชัดเจนและทำตามอย่างมีวินัย เมื่อเกิดความคุ้นเคยกับลดค่าใช้จ่าย แก้นิสัยใช้เงินมือเติบได้แล้ว ค่อยหาทางออกในการปลดหนี้สินและปันเงินส่วนหนึ่งเก็บออมไว้ทำตามความฝันต่อไป

สรุปแล้ว การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป ยอมเป็นหนี้กู้
เงิน สินเชื่อดอกเบี้ยถูกมาลงทุนเพื่อสร้างรายได้เสริมสภาพคล่องก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทั้งยังช่วยสร้างความมั่งคั่งในอนาคตด้วย สิ่งสำคัญที่ควรทำคือมีงานมั่นคงรายได้แน่นอนและมีความพร้อมจ่ายหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หากบริหารจัดการหนี้ได้ดีก็จะช่วยสร้างความมั่งคั่ง มีเงินเหลือใช้และเก็บออมเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตได้