รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?  (อ่าน 21987 ครั้ง)

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #165 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 03:17:46 AM »

**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #166 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 03:40:19 AM »

**ปลูกมะม่วงเบา**

มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานสด ใส่ยำ ใส่น้ำพริก หรือทำเป็นมะม่วงเบาแช่อิ่ม มะม่วงเบามีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของประเทศไทย ปลูกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น

**การเตรียมพื้นที่ปลูก**

การเตรียมพื้นที่ปลูกมะม่วงเบา มีดังนี้

* เลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
* ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน
* ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน
* ทำร่องหรือหลุมสำหรับปลูกมะม่วงเบา ระยะห่างระหว่างต้น 5-6 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว 6-7 เมตร

**การเลือกพันธุ์มะม่วงเบา**

พันธุ์มะม่วงเบาที่นิยมปลูก ได้แก่

* พันธุ์เบาปราณบุรี
* พันธุ์เบานครปฐม
* พันธุ์เบาสุราษฎร์ธานี
* พันธุ์เบาสงขลา

**วิธีการปลูกมะม่วงเบา**

การปลูกมะม่วงเบามี 2 วิธี คือ

* **การปลูกมะม่วงเบาด้วยเมล็ด**

นำเมล็ดมะม่วงเบาที่แก่จัดมาเพาะในถุงเพาะชำ ใช้เวลาเพาะประมาณ 3-4 เดือน เมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร จึงย้ายปลูกลงแปลง

* **การปลูกมะม่วงเบาด้วยต้นกล้า**

เลือกต้นกล้ามะม่วงเบาที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน ต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลูกลงแปลงตามระยะห่างที่กำหนด

**การดูแลรักษามะม่วงเบา**

การดูแลรักษามะม่วงเบา มีดังนี้

* **การให้น้ำ**

รดน้ำมะม่วงเบาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

* **การให้ปุ๋ย**

ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน

* **การตัดแต่งกิ่ง**

ตัดแต่งกิ่งมะม่วงเบาปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว

* **การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช**

หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

**การเก็บเกี่ยวมะม่วงเบา**

มะม่วงเบาจะเริ่มออกดอกในช่วงฤดูหนาว ผลมะม่วงเบาจะสุกในช่วงฤดูร้อน มะม่วงเบาสุกจะมีเปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว ผลมะม่วงเบาจะรับประทานได้สดหรือนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้

**เคล็ดลับการปลูกมะม่วงเบาให้ได้ผลดี**

* เลือกพันธุ์มะม่วงเบาที่ทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช

* ใส่ปุ๋ยบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ

* รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่ารดน้ำมากเกินไป

* ตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ

* หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

การปลูกมะม่วงเบาเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ไม่ยาก มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และรับประทานได้หลากหลาย การปลูกมะม่วงเบานอกจากจะได้มะม่วงเบาที่รับประทานสดแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างรายได้อีกด้วย
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #167 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 04:15:20 AM »

แผ่นพื้นเหล็ก Metal Deck ดีอย่างไร
แผ่นพื้นเหล็กประกอบ หรือที่เรียกทับศัพท์กันว่า แผ่นพื้น Metal Deck ที่หลายคนเคยเห็นตามไซต์งานก่อสร้าง อาคารต่างๆ แผ่นพื้นนี้อาจจะมีหน้าตาเป็นลอนคล้ายแผ่นมุงหลังคา Metal Sheet แต่หารู้ไม่ว่ามันทำหน้าที่กันคนละอย่างเลย เพราะแผ่นพื้น Metal Deck ที่ทางเราจำหน่ายเป็นแผ่นพื้นเหล็ก ประกอบ ซึ่งทำหน้าที่ในส่วนงานพื้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง มีความสามารถในการรับน้ำหนัก และมีข้อดีต่างๆ ดังนี้

ข้อดีของแผ่นพื้น Metal Deck
แผ่นพื้น Metal Deck มีลักษณะเป็นลอนตลอดแผ่น ซึ่งลอนพวกนี้ช่วยลดปริมาณคอนกรีตที่ใช้ อย่างที่ทราบกันว่างานพื้นประกอบ (Composite Floor) จะต้องมีแผ่นพื้นเหล็ก ประกอบร่วมกับการเทคอนกรีตทับหน้า ลอนที่สูงขึ้นมาทำให้ใช้คอนกรีตน้อยลงเมื่อเทียบกับแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดท้องเรียบ
แผ่นพื้น Metal Deck สามารถรับแรงดึงได้ดีช่วยให้คอนกรีตไม่แตกร้าว ช่วยทำหน้าที่รับแรงดึงเหมือนกับเหล็กเสริมคอนกรีตทั่วไป
แผ่นพื้น Metal Deck มีจุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือน้ำหนักเบากว่าแผ่นพื้นคอนกรีตทั่วไป แต่ยังสามารถรับกำลังได้ดี มีส่วนช่วยให้น้ำหนักโครงสร้างโดยรวมลดลง จึงทำให้ลดต้นทุนในการก่อสร้างได้ถึง 20%
การวางซ้อนกันของแผ่นพื้น Metal Deck ช่วยป้องกันพื้นรั่วซึมได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดท้องเรียบที่เมื่อวางต่อกันอาจมีช่องว่างเล็กๆที่ทำให้เกิดการรั่วซึมในภายหลัง
ไม่ต้องมีไม้แบบในงานก่อสร้าง เพราะแผ่นพื้น Metal Deck เป็นแบบสำหรับหล่อพื้นได้ด้วยตัวเอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าไม้แบบและการรื้อถอนได้
ลดปัญหาเศษวัสดุเหลือหน้างาน เพราะแผ่นพื้น Metal Deck สามารถสั่งตัดได้ตามความยาวสูงสุด 12 เมตร และช่วยลดขยะหน้างานที่เกี่ยวกับเศษไม้แบบได้
แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐานพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
เมื่อทราบข้อดีของแผ่นพื้น Metal Deck แล้วต้องการใช้กับงานก่อสร้างของคุณ สามารถติดต่อทางบริษัท คอนเทล โฮม เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกคน

สามารถดูตัวอย่างการติดตั้งได้ที่นี่

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck
LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #168 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 06:34:17 AM »

แผ่น Metal Deck หรือ Steel Deck คืออะไร
มาทำความรู้จักกับแผ่นพื้นเหล็กที่ใช้สำหรับงานพื้นกัน หลายคนอาจเคยได้ยิน Metal Deck, Steel Deck หรือบางทีใช้คำว่า Composite Steel Deck ถ้าเป็นคำไทยก็อาจจะเรียกว่าแผ่นสำเร็จรูปพื้นลอนเหล็ก ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม ความหมายก็คือแผ่นที่ใช้สำหรับงานพื้นโดยเฉพาะ


งานพื้น หรือพื้นที่เรากำลังยืนหรือนั่งอยู่ตอนนี้ คือ หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของอาคาร ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักบรรทุกที่เกิดขึ้นภายในอาคาร (น้ำหนักบรรทุกจร และน้ำหนักบรรทุกคงที่) พื้นเป็นโครงสร้างตามแนวราบของอาคาร ซึ่งรับน้ำหนักโดยตรง จากนั้นจึงถ่ายน้ำหนักไปสู่คานหรือเสา ซึ่งพื้นมีหลายประเภท ได้แก่ งานพื้นคอนกรีตหล่อในที่ แผ่นพื้นกึ่งสำเร็จรูป แผ่นพื้นเหล็ก และงานพื้นแบบคอมโพสิท (Composite Slab) เป็นต้น

แผ่น Metal Deck คือส่วนหนึ่งของงานพื้นแบบคอมโพสิท (Composite Slab) ที่ประกอบไปด้วยแผ่น Metal Deck และการเทคอนกรีตทับหน้า เมื่อคอนกรีตเซ็ทตัวก็จะได้งานระบบพื้นที่หน้าตาไม่ต่างจากแบบอื่น แต่ย่นระยะเวลาในการก่อสร้างได้มากกว่า ซึ่งแผ่น Metal Deck ผลิตจากเหล็กชุบสังกะสีรีดขึ้นรูป และมีปุ่มนูน (Embossment) กระจายอยู่ตามสันของแผ่น ปุ่มนูนเหล่านี้ เป็นเหมือนตัวยึดเกาะไม่ให้แผ่นพื้นเหล็กกับคอนกรีตไถลตัวออกจากกัน ซึ่งตัวแผ่น Metal Deck นั้นเป็นทั้งแบบและเหล็กเสริมไปในตัว จึงลดการใช้เหล็กเสริมมากกว่างานพื้นแบบอื่น โดยแผ่น Metal Deck หรือ Steel Deck สามารถใช้กับโครงสร้างเหล็ก และโครงสร้างปูน หากใช้กับโครงสร้างเหล็กจะใช้กับ Stud ในการติดตั้ง ขณะที่ใช้แผ่นนี้กับโครงสร้างปูนจะติดตั้งกับเหล็กหนวดกุ้ง เหล็กที่ยื่นออกมาจากโครงสร้างเพื่อยึดชิ้นส่วนโครงสร้างที่หล่อหน้างาน สามารถใช้ได้ทั้งเหล็กข้ออ้อย/เหล็กกลม ขึ้นอยู่การรับแรง (สามารถดูข้อมูลตารางออกแบบน้ำหนักบรรทุกจร ที่นี่)

ปัจจุบันงานพื้นที่ใช้แผ่น Metal Deck ได้รับความนิยมแพร่หลายในการก่อสร้างหลายประเภท เพราะเป็นงานระบบพื้นที่สร้างได้อย่างรวดเร็ว แข็งแรง ประหยัดในเรื่องของไม้แบบและเหล็กเสริม เหมาะสำหรับอาคารทั่วไป โรงงาน ตึกสูง บ้านพักอาศัย และอื่นๆอีกมากมาย

ให้แผ่น Metal Deck เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในงานระบบพื้น สามารถสอบถามข้อมูลและปรึกษาเรื่องแบบกับทีมงาน ConTel Metal Deck ได้ที่ 083 699 6697 เรายินดีให้คำปรึกษาและพร้อมนำเสนอข้อมูลสินค้าที่เป็นประโยชน์งานก่อสร้างของคุณ

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck

LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #169 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 07:01:18 AM »

งานพื้นแบบต่างๆ


โครงสร้างพื้น เป็นส่วนที่มีบริเวณกว้างของอาคาร จำเป็นต้องมีความแข็งแรง ทนทานพอที่จะรับน้ำหนักผู้คน และสิ่งของต่างๆภายในอาคาร รวมไปถึงต้องแข็งแรงพอที่จะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างภัยพิบัติ แผ่นดินไหวที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งวิศวกรจะต้องมีการคำนวณและออกแบบให้ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนภายในอาคาร สามารถเลือกใช้พื้นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้

งานพื้นแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

งานแผ่นพื้นกึ่งสำเร็จ
เป็นวิธีการนำแผ่นพื้นที่ผลิตจากโรงงานมาติดตั้งหน้างาน พาดบนคาน ผูกเหล็กเสริม และเทคอนกรีตทับหน้า สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดแผ่นเรียบ ชนิดกลวง

งานแผ่นพื้นประกอบ
การใช้วัสดุแผ่นพื้นเหล็กรีดลอน หรือแผ่น Metal Deck ร่วมกับคอนกรีตทับหน้า แผ่นพื้นเหล็กสามารถทำหน้าที่เป็นแบบไปในตัว และไม่ต้องใช้ค้ำยันเยอะ ทำให้ประหยัดต้นทุนของการก่อสร้าง

งานพื้นหล่อในที่
เป็นงานพื้นแบบดั้งเดิม ต้องมีการตั้งแบบ ผูกเหล็กเสริม ก่อนจะเทคอนกรีตหล่อลงไป ต้องใช้ค้ำยันรับน้ำหนักจำนวนมาก รอเวลาคอนกรีตเซ็ทตัวค่อนข้างนาน ถึงจะรับน้ำหนักได้

อาคารแต่ละประเภทสามารถเลือกใช้งานระบบพื้นแบบตามความเหมาะ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของสถาปนิก ความสวยงาม และความเป็นไปได้ในเชิงวิศวกรรม ความแข็งแรง การรับน้ำหนัก เป็นต้น งานก่อสร้างที่ดีจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อาศัยในภายหลัง ดังนั้นควรหาข้อมูลความรู้ก่อนตัดสินใจเพื่อเลือกงานระบบพื้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

(รวมข้อดีของแผ่น Metal Deck ที่คนจะสร้างบ้านควรรู้)
Metal Deck Metal Deck Metal Deck
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #170 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 07:27:39 AM »

โฉนดที่ดิน “3 ข้อ เข้าใจง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายที่ดิน”


>โฉนดที่ดิน ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างเสริมมูลค่าได้ตลอดเวลา ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะซื้อ-ขายโฉนดที่ดินเพื่อเก็งกำไร แต่ก่อนที่เราจะซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน เราต้องรู้ก่อนว่าโฉนดที่ดินแบบใดซื้อ-ขายได้บ้าง และโฉนดมีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไรบ้าง? เพื่อป้องกันข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องกันในภายหลัง วันนี้เรารวบรวม 3 ข้อง่ายๆมาให้ทำความเข้าใจกันแล้ว…

โฉนดที่ดินมีกี่แบบ?



โฉนดที่ดินทั่วไปสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท คือ โฉนดที่ดิน (นส. 4) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในลักษณะการถือครอง การใช้ประโยชน์ และการซื้อขาย ซึ่งจะแยกย่อยลงไปอีกและมีลักษณะแตกต่างกัน

โฉนดที่ดินแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?


โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4
หนังสือที่ทางราชการหรือกรมที่ดินออกให้ตามประมวลกฎหมายเพื่อเป็นการแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ที่เป็นเจ้าของ มีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน และมีหมุดแสดงพื้นที่ชัดเจน หากผู้ใดมีโฉนดไว้ในครอบครองก็ถือได้ว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นอย่างสมบูรณ์

โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เป็นหนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อรับรองว่าเจ้าของสามารถทำประโยชน์ในพื้นที่นั้นๆได้ โดยที่ดินจะมีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ครอบครองต้องทำให้ที่ดินนั้นเกิดประโยชน์ต่างจาก นส.4 ที่สามารถปล่อยพื้นที่ทิ้งว่างได้

โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เหมือนกันกับ นส. 3 ก แต่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ไม่มีการวัดพื้นที่โดยละเอียด ลักษณะเป็นรูปแผนที่ลอยๆ อาจะใช้การอ้างอิงวัตถุ หรือต้นไม้ในบริเวณนั้นๆเพื่อเขียนร่างแผนที่ ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ดินแน่นอน หรือบางกรณีใช้ออกในพื้นที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ซึ่ง นส. 3 เป็นเอกสารที่นายอำเภอท้องที่เป็นผู้ออกให้ และนส. 3 ข เป็นหนังสือที่เจ้าหน้าที่ที่ดินเป็นออกออกให้แต่ยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ

โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01
เอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดิน หรือเอกสารที่ออกให้เจ้าของมีสิทธิในการทำเกษตรกรรม และการจัดที่อยู่อาศัยเพื่อเกษตรกรรม เจ้าของมีเพียงสิทธิในการครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ในการเกษตรเท่านั้น ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ใบจอง หรือ นส.2
หนังสือที่ทางราชการออกให้ประชาชนเพื่ออนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ที่มีใบจองต้องทำประโยชน์ในพื้นที่ดินมากกว่า 75% ของที่ดิน ภายใน 6 เดือนหลังได้รับใบจองและจะต้องทำประโยชน์แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี

สิทธิทำกิน หรือ สทก.
หนังสือที่ราชการออกให้เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในพื้นที่เขตป่าไม้ ซึ่งทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้ออกให้ โดยผู้ถือสิทธิ์จะต้องทำประโยชน์ โดยกรมป่าไม้สามารถยึดคืนพื้นที่ดินได้ทันทีหากปล่อยรกร้างติดต่อกันเกิน 2 ปี

ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5
ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ของผู้ที่อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาแต่เดิม ไม่ใช่เอกสารสิทธิแสดงการครอบครองที่ดิน ที่ดินลักษณะนี้มักเป็นที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆทั้งสิ้น เป็นลักษณะของการอยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์สืบทอดกันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น แต่จะไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน เจ้าของที่ดินตัวจริงคือ รัฐ

ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5
หนังสือที่แสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดินและให้จดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรมในใบไต่สวนได้ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ แต่สามารถจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดิน และโอนให้กันได้ถ้าที่ดินมีใบไต่สวนและมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเป็นการจดทะเบียนโอนมรดก

โฉนดที่ดินแบบใดสามารถซื้อ-ขายได้?
โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายได้

โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4 :
สามารถซื้อ ขาย โอน จำนอง หรือค้ำประกันได้ทั้งหมด ทำให้นิยมซื้อขายมากที่สุด และมีมูลค่าด้านราคาสูงที่สุด ราคาของโฉนด นส.4 มีราคาสูงเมื่อเทียบกับเอกสารชนิดอื่นๆ โดยหากมีการซื้อขาย ผู้ซื้อ-ผู้ขายจะต้องไปทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินเท่านั้น มิฉะนั้นจะถือ เป็นโมฆะ

โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก :
สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ โดยเมื่อมีการสอบเขตแล้ว เจ้าของสามารถนำหลักฐานไปขออกโนดได้ทันทีไม่ต้องรอรังวัดติดประกาศ 30 วัน

โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข :
สามารถซื้อ ขาย โอนได้ โดยการซื้อ-ขายจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้ามาทำการรังวัดและติดประกาศเป็นระยะเวลา 30 วัน ถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องขอคัดค้าน จึงจะสามารถทำเรื่องขอออกโฉนดได้

โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายไม่ได้

โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01 :
ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้ โดยทายาทจะต้องทำเกษตรกรรมเท่านั้น หรือให้เช่าเพื่อการเกษตรได้

ใบจอง หรือ นส.2 :
ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

สิทธิทำกิน หรือ สทก. :
ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 :
ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5 :
ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการทำความเข้าใจ 3 ข้อง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน สำหรับใครที่ถือโฉนดที่ดินไว้อย่าลืมเช็คว่าตัวเองถือเอกสารลักษณะใด เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เต็มที่ หรือใครที่กำลังจะมองหาซื้อที่ดินก็อย่าลืมเช็คกันนะว่าที่ดินนั้นสามารถซื้อ-ขายได้หรือไม่เพื่อให้เรามีกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโดยปราศจากข้อพิพาทอีกด้วย หลังซื้อแล้ว ควรทำรั้วให้ชัดเจนเพื่อแสดงอาณาเขตบุกรุกที่ดิน

 

ที่มา kasetphan
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #171 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 08:09:34 AM »

เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป “SmartLands” หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู “บอกดิน” และกดปุ่ม “แจ้งตำแหน่งที่ดิน”
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก “อื่นๆ” และกดปุ่ม “ส่ง”
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SmartLands”
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #172 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2024, 08:44:35 AM »

4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรง สร้างรายได้งาม



เพื่อน ๆ รู้หรือไม่? หลังโควิด-19 เทรนด์สัตว์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะราคาตลาดของเนื้อสัตว์ที่เราบริโภคกันปกติ อย่างหมู ไก่ เนื้อวัว มีราคาสูงขึ้นจากการระบาดของโรคอหิวาต์ แอฟริกา ใน สุกร หรือ African Swine Fever(AFS) ที่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ตลาดต้องการเนื้อไก่ และเนื้อวัวจำนวนมากทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

 

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการให้มาเลี้ยงสุกรที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ควรรู้! ยังมีสัตว์เศรษฐกิจมาแรงอื่นๆ ในปี 2023 ที่สร้างรายได้มากกว่าสุกร มีอะไรบ้าง? เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ครับ

ปูนา สัตว์เศรษฐกิจคู่บ้านคู่เมืองไทย เลี้ยงได้ทุกภาค
 
ทำไมปูนาถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ปูนา เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองคนไทยมาอย่างยาว และพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของไทย มักอาศัยอยู่ตามคันนา แต่ปัจจุบันปริมาณของปูนาลดลง จากการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ทำให้ปูนาขาดแคลนและมีราคาสูงอยู่ช่วงหนึ่ง จนต้องมีการทำฟาร์มไว้เพื่อจำหน่ายและกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของไทย

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงปูนา
โดยปกติทั่วไป ปูนาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง จะเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการหักแขน หักขาตัวเองทิ้ง การเลี้ยงปูนาจึงต้องเลี้ยงในบ่อดินที่คล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมเดิม เพื่อคลายความเครียด และในบ่อดินยังมีแร่ธาตุช่วยให้ปูแข็งแรง สามารถฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเอาใจใส่ และสังเกตพฤติกรรมปูนาบ่อยๆ เพื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อาหาร อารมณ์ เพื่อให้ปูนาเจริญเติบโตได้ดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับอาหาร ซึ่งสามารถใช้อาหารเม็ดปลาดุก อาหารกบ หรือข้าวสวยเป็นอาหารมื้อหลัก งดให้อาหารที่มันๆ เพราะจะทำให้น้ำเสียงาน และเสริมด้วยอาหารเสริม เช่น แหนแดง จอก และสาหร่าย เป็นต้น

ราคาขายของปูนา
กิโลกรัมละ 120 บาทโดยประมาณ


กวางรูซ่า สัตว์เศรษฐกิจประโยชน์หลากหลาย
 
ทำไมกวางรูซ่าถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
กวางรูซ่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์หลากหลาย และสามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งเนื้อที่แสนอร่อยแถมยังไขมันต่ำ หนังที่เหมาะกับการทำเครื่องหนังและเครื่องประดับ เขากวางอ่อนที่เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารเสริมได้ ทำให้กวางรูซ่ากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงของไทย เกษตรกรบางท่านสามารถสร้างรายได้สูงสุด 6,000,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงกวางรูซ่า
กวางรูซ่า เป็นสัตว์กินหญ้าเช่นเดียวกับวัว แต่ต่างกันตรงที่ กวางรูซ่าตัวเล็ก ใช้พื้นที่การเลี้ยงน้อยกว่า ต้านทานโรคได้ดี ไม่ป่วยง่าย และกินน้อยเพียงแค่ตัดหญ้าขนให้ทานก็สามารถเลี้ยงให้โตได้ เสริมด้วยแร่ธาตุ อาหารเสริมแบบเดียวกับวัวก็เพียงพอแล้ว งดการเสริมอาหารสำเร็จรูปเพราะจะทำให้กวางตัวอ้วนจนเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการผสมพันธ์ุ เพียงแค่ปลูกหญ้าขนที่เจริญเติบโตง่ายและขึ้นโดยทั่วไปก็ให้โปรตีนที่เพียงพอต่อกวางได้แล้ว

ราคาขายของกวางรูซ่า
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 200-500 บาทโดยประมาณ, เขากวางอ่อน ราคา 5,000-10,000 บาทโดยประมาณ


จระเข้ สัตว์เศรษฐกิจสายแฟชั่น
 

ทำไมจระเข้ถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ทุกคนคนคุ้นชินกันอยู่นานหลายปีแล้วว่า จระเข้ เป็นสัตว์ที่กินได้ และหนังของมันก็เอาไปทำกระเป๋าได้ แต่ปี 2023 นี้ เนื้อจระเข้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่า ไขมันน้อย รสชาติดี และมีเนื้อสัมผัสคล้ายๆ กับอกไก่ ทำให้เนื้อจระเข้เป็นที่แนะนำและน่าสนใจเป็นพิเศษ อีกทั้ง ส่วนของหนังจระเข้ก็สามารถนำไปทำเครื่องหนังส่งออกต่างประเทศได้อย่างดี โดยจระเข้ที่นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ จระเข้น้ำจืดหรือจระเข้พันธุ์ไทย และจระเข้น้ำเค็ม

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงจระเข้
การเลี้ยงจระเข้แน่นอนว่าควรจะมีบ่อเลี้ยงที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการหลุดลอดของจระเข้ออกสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีความอันตรายสูง โดยพื้นที่รอบบ่อควรจะมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ไม่พลุกพล่านจนเกินไป มีแสงแดดส่องถึง และมีอาหารที่เพียงพอต่อจระเข้ตลอดเวลา การให้อาหารจระเข้ควรให้ 2-3 วันต่อครั้งด้วยเนื้อไก่สดติดกระดูกสำหรับจระเข้อายุไม่เกิน 1 ปี แต่หากเป็นสัตว์ชนิดอื่นควรให้สำหรับจระเข้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีไปแล้ว

การเตรียมบ่อจระเข้ควรเป็นบ่อแถวคู่ลักษณะ บกครึ่งหนึ่ง และน้ำครึ่งหนึ่ง ความยาวประมาณ 1.80 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1.50 เมตร และส่วนที่เป็นบกสูง 50 เมตร พร้อมขัดมันพื้นบ่อและรอบบ่อเพื่อป้องกันลูกจระเข้ปีน และวางท่อระบายน้ำสองอัน สำหรับใต้น้ำควรใช้ท่อพีวีซี่ 2.5 – 3 นิ้ว และท่อบนน้ำใช้ควบคุมประมาณน้ำไม่ให้มากเกินไป ป้องกันน้ำท่วมนั่นเอง

การเลี้ยงจระเข้นั้น แน่นอนว่ามีต้นทุนสูงเพราะเนื้อไก่สดมีราคาสูง แต่เกษตรกรที่ต้องการประหยัดต้นทุนสามารถเลี้ยงลูกกบไว้สำหรับเป็นอาหารจระเข้เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร และหากมีพื้นที่ก็ควรจะเลี้ยงกบเพาะพันธุ์ควบคู่ไว้เพื่อเป็นอาหารให้จระเข้ได้อีกด้วย

ราคาขายของจระเข้
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 180 บาทโดยประมาณ,  ส่วนบ้องตัน ราคา 240  บาทโดยประมาณ, จระเข้ทั้งตัวราคาอยู่ที่ 900-1,500 บาทโดยประมาณ

สรุป
ในปี 2023 นี้ สัตวเศรษฐกิจหลายชนิดไม่คุ้นหูคุ้นตาเรามาก่อน หรือบางตัวก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่เรียกได้เลยว่า 4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรงที่เรานะนำมาในวันนี้ ทั้งปูนา กวางรูซ่า จระเข้ และกระต่าย ต่างสร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรได้อย่างแน่นอน หลายๆ ท่านคงได้ไอเดียในการทำปศุสัตว์ที่ตอบโจทย์ตลาด แต่อย่าลืมที่จะศึกษาเทรนด์ตลาด และอัพเดตข่าวสารความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอนะครับ

ที่มา
https://vinemanfence.com/4-popular-livestocks-good-income/
https://www.technologychaoban.com/livestock-technology/article_247855
https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=317&s=tblheight
https://www.palangkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2-1/
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_242362
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #173 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2024, 02:29:25 AM »

**สัตว์เหมาะแก่การหาเงิน**

สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อประโยชน์หลายประการ เช่น เป็นแหล่งอาหาร เป็นเพื่อนคู่ใจ หรือเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ในปัจจุบัน ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่สามารถนำมาเป็นอาชีพได้ หรือที่เรียกว่า "สัตว์เศรษฐกิจ" ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้อย่างดี

**ปัจจัยในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจ**

ในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังนี้

* **ความต้องการของตลาด** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความต้องการสูงในตลาด เพื่อที่จะขายผลผลิตได้ง่ายและได้ราคาดี
* **สภาพพื้นที่และภูมิประเทศ** จะต้องเลือกสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ
* **ความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยง** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงอยู่บ้าง เพื่อที่จะดูแลสัตว์ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง

**ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจ**

ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่

* **สัตว์เลี้ยงสวยงาม** เช่น ปลาสวยงาม นกสวยงาม สัตว์เลื้อยคลานสวยงาม เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจเนื้อ** เช่น วัว หมู ไก่ เป็ด เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจนม** เช่น วัว แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจไข่** เช่น ไก่ เป็ด เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจปีก** เช่น เป็ด ห่าน เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจขน** เช่น แกะ แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจหนัง** เช่น วัว หมู แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจน้ำ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ**

ในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ** ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนั้น ๆ อย่างละเอียด รวมถึงความต้องการของตลาดและสภาพพื้นที่ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเลี้ยง
* **ดูแลสัตว์อย่างเอาใจใส่** สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เจริญเติบโตและแข็งแรง
* **ป้องกันโรคระบาด** โรคระบาดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการเลี้ยงสัตว์ ควรป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สัตว์ป่วยหรือตาย

สัตว์เศรษฐกิจเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี หากศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ ก็สามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจและสร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืน

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม
ตาข่ายถักรั้วตาข่าย
รั้วแรงดึง
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #174 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2024, 03:15:23 AM »

**ทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถนำเอาประโยชน์จากพืชและสัตว์มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพืชจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดินและเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ ส่วนสัตว์จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและช่วยดูแลสวนอีกด้วย

**ประโยชน์ของการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร** สัตว์จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
* **ลดต้นทุนการผลิต** สัตว์จะช่วยกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้สารเคมีหรือแรงงานในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต
* **เพิ่มรายได้เสริม** เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม มูลสัตว์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
* **สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน** การทำสวนเลี้ยงสัตว์จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยสัตว์จะช่วยเพิ่มวงจรชีวิตของพืชและช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ

**ขั้นตอนในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์สามารถทำได้โดยเริ่มจากการศึกษาข้อมูลและวางแผนการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **สภาพพื้นที่** ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย มีแหล่งน้ำเพียงพอ และมีแสงแดดส่องถึงเพียงพอ
* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงว่าต้องการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **พันธุ์พืชและสัตว์** ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง

**ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์ เช่น การทำสวนผักและเลี้ยงไก่ไข่ การทำสวนผลไม้และเลี้ยงเป็ด การทำสวนไม้ดอกไม้ประดับและเลี้ยงปลา เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ**
* **ควรดูแลสัตว์ให้อยู่ในความสะอาดและปลอดภัย**
* **ควรหมั่นดูแลรักษาสวนและสัตว์อย่างสม่ำเสมอ**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรได้อย่างมากมาย หากเกษตรกรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ การทำสวนเลี้ยงสัตว์ก็สามารถประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #175 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2024, 02:15:26 AM »

**เลี้ยงปลากัด ปลาสวยงามที่เลี้ยงง่าย เลี้ยงสนุก**

ปลากัดเป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพอากาศ และมีความดุดัน ทำให้ปลากัดเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาสวยงามและกลุ่มผู้เลี้ยงปลากัดเพื่อแข่งขัน

**วิธีการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

* **การเตรียมอุปกรณ์**

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

    * โหลแก้วหรือตู้ปลา
    * หินกรวดหรือวัสดุรองพื้น
    * ปั๊มน้ำ
    * เครื่องกรองน้ำ
    * เครื่องปรับอุณหภูมิ (หากต้องการ)

* **การเตรียมน้ำ**

น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส ควรเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน

* **การให้อาหาร**

ปลากัดเป็นปลากินเนื้อ ควรให้อาหารปลากัดเป็นอาหารสด เช่น ลูกน้ำ ไรแดง หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับปลากัด

* **การดูแลรักษา**

ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติควรรีบรักษาทันที

**ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด**

ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

* **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
* **อาหาร** ควรให้อาหารปลากัดอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
* **สภาพแวดล้อม** ควรวางโหลแก้วหรือตู้ปลาไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง
* **โรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

**ข้อดีของการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย**
* **เป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์**
* **เป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้เสริม**

**สรุป**

การเลี้ยงปลากัดเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลากัดเพิ่มเติม เพื่อนำไปเลี้ยงปลากัดให้สวยงามและแข็งแรง
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม
ตาข่ายถักรั้วตาข่าย
รั้วแรงดึง
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #176 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2024, 02:42:45 AM »

**เลี้ยงปลานิล ปลาเศรษฐกิจที่เลี้ยงง่าย รายได้งาม**

ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 200,000-250,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าทางการผลิตกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มสัตว์น้ำจืดทั้งหมด ปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ จึงเหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

**วิธีการเลี้ยงปลานิล**

การเลี้ยงปลานิลสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การเลี้ยงในบ่อดิน** เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด สามารถทำได้ในพื้นที่ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก บ่อดินที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 1 เมตร และลึกอย่างน้อย 2 เมตร บ่อดินควรระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันการสะสมของตะกอน
* **การเลี้ยงในกระชัง** เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดพื้นที่ สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อน้ำธรรมชาติและบ่อน้ำขุด กระชังที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 2 เมตร และลึกอย่างน้อย 1 เมตร
* **การเลี้ยงในระบบปิด** เป็นวิธีที่ทันสมัยและสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ง่าย ระบบปิดที่ใช้เลี้ยงปลานิล ได้แก่ ระบบบ่อกรอง ระบบบ่อวนน้ำ ระบบบ่อไหลเวียน เป็นต้น

**ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล**

ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล ได้แก่

* **พันธุ์ปลา** ควรเลือกพันธุ์ปลานิลที่แข็งแรง ทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ
* **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรสะอาด มีปริมาณออกซิเจนเพียงพอ
* **อาหาร** ควรให้อาหารปลานิลอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
* **การจัดการโรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลาเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

**การเก็บเกี่ยวปลานิล**

ปลานิลสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 6-7 เดือน หรือเมื่อมีน้ำหนักประมาณ 500-700 กรัม ปลานิลสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ปลานิลทอด ปลานิลผัดฉ่า ปลานิลต้มยำ เป็นต้น

**ข้อดีของการเลี้ยงปลานิล**

การเลี้ยงปลานิลมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดี**
* **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก**
* **เป็นอาชีพที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว**
* **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก**

**สรุป**

การเลี้ยงปลานิลเป็นอาชีพที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลานิลเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #177 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2024, 03:20:33 AM »

**พันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

การเลี้ยงปลาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และยังสามารถเป็นแหล่งอาหารที่ดีอีกด้วย การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **ขนาดของสระเลี้ยง** หากเลี้ยงในสระขนาดใหญ่ ก็สามารถเลี้ยงปลาที่มีขนาดใหญ่ได้ หากเลี้ยงในสระขนาดเล็ก ควรเลี้ยงปลาที่มีขนาดเล็ก
* **อุณหภูมิของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน
* **ปริมาณออกซิเจนในน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการปริมาณออกซิเจนในน้ำที่แตกต่างกัน
* **ความเค็มของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน
* **พฤติกรรมของปลา** ปลาแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เช่น ปลาบางชนิดชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาบางชนิดชอบอยู่ตามลำพัง

**พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยง**

พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมีมากมาย ดังนี้

* **ปลาสวยงาม** เช่น ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาหมอสี ปลากัด เป็นต้น
* **ปลาเศรษฐกิจ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาช่อน เป็นต้น
* **ปลาอื่น ๆ** เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหมอทะเล เป็นต้น

**ตัวอย่างพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

* **ปลาทอง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหางนกยูง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาสอด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหมอสี** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดใหญ่
* **ปลากัด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็ก

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลา**

* ควรหมั่นทำความสะอาดสระเลี้ยงปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคในปลา
* ควรให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
* ควรสังเกตพฤติกรรมของปลา หากพบปลาที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกเลี้ยงและรักษา

การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลา หากเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง จะช่วยให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #178 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2024, 04:30:19 AM »

แผ่นพื้นเหล็ก Metal Deck ดีอย่างไร
แผ่นพื้นเหล็กประกอบ หรือที่เรียกทับศัพท์กันว่า แผ่นพื้น Metal Deck ที่หลายคนเคยเห็นตามไซต์งานก่อสร้าง อาคารต่างๆ แผ่นพื้นนี้อาจจะมีหน้าตาเป็นลอนคล้ายแผ่นมุงหลังคา Metal Sheet แต่หารู้ไม่ว่ามันทำหน้าที่กันคนละอย่างเลย เพราะแผ่นพื้น Metal Deck ที่ทางเราจำหน่ายเป็นแผ่นพื้นเหล็ก ประกอบ ซึ่งทำหน้าที่ในส่วนงานพื้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง มีความสามารถในการรับน้ำหนัก และมีข้อดีต่างๆ ดังนี้

ข้อดีของแผ่นพื้น Metal Deck
แผ่นพื้น Metal Deck มีลักษณะเป็นลอนตลอดแผ่น ซึ่งลอนพวกนี้ช่วยลดปริมาณคอนกรีตที่ใช้ อย่างที่ทราบกันว่างานพื้นประกอบ (Composite Floor) จะต้องมีแผ่นพื้นเหล็ก ประกอบร่วมกับการเทคอนกรีตทับหน้า ลอนที่สูงขึ้นมาทำให้ใช้คอนกรีตน้อยลงเมื่อเทียบกับแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดท้องเรียบ
แผ่นพื้น Metal Deck สามารถรับแรงดึงได้ดีช่วยให้คอนกรีตไม่แตกร้าว ช่วยทำหน้าที่รับแรงดึงเหมือนกับเหล็กเสริมคอนกรีตทั่วไป
แผ่นพื้น Metal Deck มีจุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือน้ำหนักเบากว่าแผ่นพื้นคอนกรีตทั่วไป แต่ยังสามารถรับกำลังได้ดี มีส่วนช่วยให้น้ำหนักโครงสร้างโดยรวมลดลง จึงทำให้ลดต้นทุนในการก่อสร้างได้ถึง 20%
การวางซ้อนกันของแผ่นพื้น Metal Deck ช่วยป้องกันพื้นรั่วซึมได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดท้องเรียบที่เมื่อวางต่อกันอาจมีช่องว่างเล็กๆที่ทำให้เกิดการรั่วซึมในภายหลัง
ไม่ต้องมีไม้แบบในงานก่อสร้าง เพราะแผ่นพื้น Metal Deck เป็นแบบสำหรับหล่อพื้นได้ด้วยตัวเอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าไม้แบบและการรื้อถอนได้
ลดปัญหาเศษวัสดุเหลือหน้างาน เพราะแผ่นพื้น Metal Deck สามารถสั่งตัดได้ตามความยาวสูงสุด 12 เมตร และช่วยลดขยะหน้างานที่เกี่ยวกับเศษไม้แบบได้
แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐานพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
เมื่อทราบข้อดีของแผ่นพื้น Metal Deck แล้วต้องการใช้กับงานก่อสร้างของคุณ สามารถติดต่อทางบริษัท คอนเทล โฮม เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกคน

สามารถดูตัวอย่างการติดตั้งได้ที่นี่

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck
LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697
บันทึกการเข้า

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1009
    • ดูรายละเอียด
    • พระเครื่อง
Re: ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
« ตอบกลับ #179 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2024, 09:52:05 AM »

แผ่น Metal Deck หรือ Steel Deck คืออะไร
มาทำความรู้จักกับแผ่นพื้นเหล็กที่ใช้สำหรับงานพื้นกัน หลายคนอาจเคยได้ยิน Metal Deck, Steel Deck หรือบางทีใช้คำว่า Composite Steel Deck ถ้าเป็นคำไทยก็อาจจะเรียกว่าแผ่นสำเร็จรูปพื้นลอนเหล็ก ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม ความหมายก็คือแผ่นที่ใช้สำหรับงานพื้นโดยเฉพาะ


งานพื้น หรือพื้นที่เรากำลังยืนหรือนั่งอยู่ตอนนี้ คือ หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของอาคาร ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักบรรทุกที่เกิดขึ้นภายในอาคาร (น้ำหนักบรรทุกจร และน้ำหนักบรรทุกคงที่) พื้นเป็นโครงสร้างตามแนวราบของอาคาร ซึ่งรับน้ำหนักโดยตรง จากนั้นจึงถ่ายน้ำหนักไปสู่คานหรือเสา ซึ่งพื้นมีหลายประเภท ได้แก่ งานพื้นคอนกรีตหล่อในที่ แผ่นพื้นกึ่งสำเร็จรูป แผ่นพื้นเหล็ก และงานพื้นแบบคอมโพสิท (Composite Slab) เป็นต้น

แผ่น Metal Deck คือส่วนหนึ่งของงานพื้นแบบคอมโพสิท (Composite Slab) ที่ประกอบไปด้วยแผ่น Metal Deck และการเทคอนกรีตทับหน้า เมื่อคอนกรีตเซ็ทตัวก็จะได้งานระบบพื้นที่หน้าตาไม่ต่างจากแบบอื่น แต่ย่นระยะเวลาในการก่อสร้างได้มากกว่า ซึ่งแผ่น Metal Deck ผลิตจากเหล็กชุบสังกะสีรีดขึ้นรูป และมีปุ่มนูน (Embossment) กระจายอยู่ตามสันของแผ่น ปุ่มนูนเหล่านี้ เป็นเหมือนตัวยึดเกาะไม่ให้แผ่นพื้นเหล็กกับคอนกรีตไถลตัวออกจากกัน ซึ่งตัวแผ่น Metal Deck นั้นเป็นทั้งแบบและเหล็กเสริมไปในตัว จึงลดการใช้เหล็กเสริมมากกว่างานพื้นแบบอื่น โดยแผ่น Metal Deck หรือ Steel Deck สามารถใช้กับโครงสร้างเหล็ก และโครงสร้างปูน หากใช้กับโครงสร้างเหล็กจะใช้กับ Stud ในการติดตั้ง ขณะที่ใช้แผ่นนี้กับโครงสร้างปูนจะติดตั้งกับเหล็กหนวดกุ้ง เหล็กที่ยื่นออกมาจากโครงสร้างเพื่อยึดชิ้นส่วนโครงสร้างที่หล่อหน้างาน สามารถใช้ได้ทั้งเหล็กข้ออ้อย/เหล็กกลม ขึ้นอยู่การรับแรง (สามารถดูข้อมูลตารางออกแบบน้ำหนักบรรทุกจร ที่นี่)

ปัจจุบันงานพื้นที่ใช้แผ่น Metal Deck ได้รับความนิยมแพร่หลายในการก่อสร้างหลายประเภท เพราะเป็นงานระบบพื้นที่สร้างได้อย่างรวดเร็ว แข็งแรง ประหยัดในเรื่องของไม้แบบและเหล็กเสริม เหมาะสำหรับอาคารทั่วไป โรงงาน ตึกสูง บ้านพักอาศัย และอื่นๆอีกมากมาย

ให้แผ่น Metal Deck เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในงานระบบพื้น สามารถสอบถามข้อมูลและปรึกษาเรื่องแบบกับทีมงาน ConTel Metal Deck ได้ที่ 083 699 6697 เรายินดีให้คำปรึกษาและพร้อมนำเสนอข้อมูลสินค้าที่เป็นประโยชน์งานก่อสร้างของคุณ

ช่องทางการติดต่อ ConTel Metal Deck

LINE : @contelmetaldeck

Tel. 083 699 6697
บันทึกการเข้า