อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่เจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ ให้ผลผลิตเร็วให้ผลผลิตดก มีความหลากหลายของพันธุ์ ทำให้มีผลผลิตกระจายครอบคลุมตลอดทั้งปี เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงให้ค่าพลังงานสูงแต่มีปริมาณน้ำตาลต่ำจึงเป็นที่นิยม มีปริมาณความต้องการสูงทั้งตลาดภายในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี
ปัจจุบันตลาดภายในประเทศมีความต้องการสูง โดยในปี พ.ศ. 2561 มีการนำเข้ามากถึง 762 ตัน มูลค่า 154,399,344 บาท สำหรับการส่งออกประเทศไทยสามารถส่งออกเพียง 19 ตัน มูลค่า 763,607 บาท ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการสูงมาก เช่น ในปี พ.ศ. 2560 ประเทศสหรัฐอเมริกามีการนำเข้า คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นต้น จึงนับเป็นโอกาสของเกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโด
ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ดำเนินการวิจัยพัฒนาและส่งเสริมให้อะโวคาโดเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่พร้อมผลักดันให้อะโวคาโด เป็นพันธุ์พืขบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ของจังหวัดตาก ผ่านศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูง)
สำหรับในเขตอำเภอพบพระจังหวัดตาก มีเกษตรกรให้ความสนใจและปลูกอะโวคาโดกันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งมีพื้นที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 1,369 ไร่ มีผลผลิตประมาณ 800-1,200 ตันต่อปีสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกคิดเป้นมูลค่า 12-18 ล้านบาท ซึ่งผลผลิตที่ได้นี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และที่สำคัญอีกประการ เกษตรกรประสบกับปัญหาผลผลิตมีคุณภาพต่ำเนื่องจากการผลิตและการเก็บเกี่ยวที่ไม่ถูกต้องและพื้นที่ส่งเสริมให้ปลูกหลักอยู่ในเขตอุทยานต้นน้ำชั้นที่หนึ่ง ไม่สามารถขยายพื้นผลิตที่ได้
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ เกษตรกรจังหวัดตาก กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการขับเคลื่อนผ่านสำนักงานเกษตรจังหวัดตาก จัดตั้งทีมบูรณาการโครงการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่เพื่อผลิตอะโวคาโดแบบครบวงจร อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งได้ดำเนินการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิตแบบมืออาชีพแก่เกษตรกรและผู้สนใจกว่า 4,000 ราย รวมถึงการส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนจากพันธุ์พื้นเมืองเป็นพันธุ์ดีร้อยละ 100 ส่งผลให้เพิ่มพันธุ์ดีเป็น 426 ไร่ ประมาณการผลผลิต 20 ตัน มูลค่า 7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของศักยภาพการผลิต ขณะเดียวกันได้จัดทำแปลงสาธิตและรวบรวมพันธุ์อะโวคาโด ในพื้นที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูง) รวม 34 พันธุ์ ประกอบด้วยพันธุ์การค้ามาตรฐาน 20 สายพันธุ์ พันธุ์ทดสอบศักยภาพทางด้านการตลาด 10 สายพันธุ์ พันธุ์เตรียมความพร้อมเป็นสินค้า GI 4 สายพันธุ์ อีกทั้งสร้างแปลงเรียนรู้ต้นแบบและแปลงพ่อแม่พันธุ์ชุมชนเป็นต้น ทั้งนี้เกษตรจังหวัดตากได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสายพันธุ์อะโวคาโดที่แนะนำให้ปลูกว่า ถ้าเป็นในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ พันธุ์บัคคาเนียร์ (Buccaneer) ปีเตอร์สัน (Peterson) รูเฮิลร์ (Ruehle) บูท7 (Booth 7) พิงค์เคอร์ตัน (Pinkerton) แฮสส์ (Hass) และปากช่อง 28 (Parkchong 28) ขณะที่สายพันธุ์อะโวคาโดที่แนะนำให้เพาะเป็นต้นตอ ได้แก่ พันธุ์ดุ๊ก 7 (Duke 7), บูธ 7 (Booth 7), ลูลา (Lula), และโชเควท (Choquette)
“สำหรับแผนการพัฒนาที่จะดำเนินการต่อไปนั้น ประกอบด้วย 4 มาตรการที่สำคัญ คือ 1) การพัฒนาอะโวคาโดจากพืชหัวไร่ปลายนา สู่การเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่และมุ่งเป้าหมายการเป็นพืชเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในจังหวัดตาก 2) มุ่งเป้าให้เกษตรกรผลิตอะโวคาโดสายพันธุ์การค้ามาตรฐาน โดยศูนย์ฯ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเปลี่ยนยอดพันธุ์ดีการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ แกนนำเกษตรกรและเกษตรกรผู้ที่สนใจทั่วไป 3) การผลักดันให้เกิดการก่อตั้งสมาคมผู้ปลูกอะโวคาโดแห่งประเทศไทย และ 4) มุ่งสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการทางวิชาการ เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอะโวคาโดแบบมืออาชีพโดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูง) ตั้งเป้าเป็นศูนย์เรียนรู้ระดับ International บนความพร้อมสูงสุด เช่น การสร้าง l-school, smart box เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านทาง application ที่เกษตรกรรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายรพีทัศน์ กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการปลูกอะโวกาโดแบบมืออาชีพเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูง) เลขที่ 124 หมู่ 11 ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โทรศัพท์ 055806249 หรือติดตามทาง Facebook Fanpage : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตาก-เกษตรที่สูง
ข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมการเกษตร
ที่มา :
https://falconmatt.livejournal.com/2860.html