รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สมุนไพรมะระจีน สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 544 ครั้ง)

wef7172

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
สมุนไพรมะระจีน สรรพคุณเเละประโยชน์
« เมื่อ: ธันวาคม 08, 2018, 03:08:24 AM »


มะระจีน
ชื่อสมุนไพร  มะระจีน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะระ (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Momordica charantia Linn. var. maxima Williums & Ng
ชื่อสามัญ  Bitter Gourd ,Balsam apple, Leprosy Gourd,   Bitter melon
วงศ์ CUCURBITACEAE
ถิ่นกำเนิด
 มะระจีนมีบ้านเกิดในเขตร้อนทวีปเอเชีย รวมทั้งทวีปแอฟริกา เป็นพืชที่มีการปลูกไว้ในแถบประเทศเขตร้อนอย่างมากมาย โดยมีการปลูกกันในหลายประเทศ ดังเช่นว่าจีนประเทศอินเดีย , เมียนมาร์ , ไทย , เวียดนาม ฯลฯ ส่วนในประเทศไทยปลูกมากมายในภาคเหนือ ซึ่งมีการปลูกหลายสายพันธุ์
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีลักษณะเหลี่ยม เถาเลื้อยมีสีเขียว มีขนเล็กๆจะมีมือเกาะบนเถา อยู่บริเวณใต้ข้อต่อของใบ
• ใบ เป็นใบลำพัง ออกเรียงสลับกันคนละข้างตามเถา มีลักษณะเป็นแฉกเว้าลึก 5 แฉก โคนใบมีลักษณะกลม มีก้านใบยาว ใบมีสีเขียว มีขนสากเล็กๆมีมือเกาะยื่นออกมาจากที่ข้อ
• ราก เป็นระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลม แทงลึกลงดิน มีรากแขนงและก็รากฝอยเล็กๆแทงออกตามรอบๆมีสีน้ำตาล
• มือเกาะ มีลักษณะกลม เป็นเส้นเล็กๆเหมือนหนวดขนาดเล็กๆแตกออกบริเวณข้อใต้ใบของเถา ปริมาณมือเกาะ 1 เส้นต่อข้อ ส่วนปลายมีขนาดเล็กสุดม้วนงอ จะม้วนงอเข้ายึดเกาะรอบข้าง ยึดลำต้นเพื่อเลื้อยแผ่ขึ้นที่สูง ใช้มือเกาะใช้ปลายหนวดม้วนใช้ยึดของ เป็นเกลียวพันรอบเหมือนสปริง
• ดอก ดอกเป็นดอกผู้เดียว มีลักษณะรูประฆัง กลีบดอกไม้จะมีเหลือง ก้านดอกยาว ออกตามซอกใบ
• ผล มีลักษณะทรงยาวรี เปลือกบาง ผิวตะปุ่มตะป่ำมีร่องลึกตามยาว ผลใหญ่เนื้อหนา ผลดิบจะมีสีเขียวอ่อน ใช้กิน เมื่อผลสุกจะมีสีแดง แต่ว่ากินไม่ได้ ด้านในผลจะมีหลายเมล็ด มีเนื้อฉ่ำน้ำ มีรสชาติขม
• เมล็ด จะอยู่ด้านในผล จะมีเม็ดเล็กๆจำนวนหลายชิ้น เรียงอยู่ข้างในผล เมล็ดมีลักษณะกลมแบนรี ผิวเรียบ เปลือกเม็ดแข็ง สีน้ำตาล
การขยายพันธุ์
มะระจีนเป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากมายในประเทศไทย โดยมะระจีนเป็นพืชปีเดียว สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล แล้วก็ปลูกขึ้นได้ดิบได้ดีกับดินดูเหมือนจะทุกจำพวก แต่ว่าดินควรมีความชื้นสูงบ่อย และควรได้รับแสงแดดสุดกำลังตลอดวัน มะระจีนที่ปลูกลงในประเทศโดยมากมีอายุเก็บเกี่ยวราวๆ 45-50 วัน การเก็บมะระควรที่จะเก็บวันเว้นวัน เลือกผลที่โตได้ขนาด มีสีเขียวยังไม่แก่เหลือเกิน ถ้าหากเริ่มมีสีขาวและเริ่มแตกถือว่าแก่เกินไป
สำหรับวิธีการขยายพันธุ์สามารถเพาะพันธุ์โดยขั้นตอนการหยอดเมล็ดหรือปลูกจากต้นกล้าแค่นั้น โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
การเตรียมดิน กระทำการไถลูกพรวนดิน พร้อมกำจัดวัชพืช แล้วก็ผึ่งแดดราวๆ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดดิน แล้วทำแนวปลูกด้วยการขึงเชือกหรือกะระยะ ในระยะระหว่างแถว 1-1.5 เมตร แล้วกระทำไถตามจุดของแนวปลูกตามแนวยาวของแปลงให้เป็นร่องลึกประมาณ 30 เซนติเมตรต่อจากนั้นหว่านโรยปุ๋ยธรรมชาติหรือมูลโค จำนวน 1000 กิโลกรัม/ไร่ และก็ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 30 กก./ไร่ แล้วทำการไถกลบหรือกลบแนวร่อง ตากดิน 2-3 วัน
การเตรียมกล้า กระทำเพาะกล้าในกระบะเพาะกล้า โดยใส่ดินผสมมูลสัตว์หรือสิ่งของอื่นๆเป็นต้นว่า เถ้าถ่าน กากมะพร้าว แล้วรดน้ำให้เปียก วันละ 1-2 ครั้ง ยามเช้า-เย็น แม้กล้าเริ่มแตกใบ 4-6 ใบ หรือ 15-20 วัน สามารถนำมาปลูกได้
ขั้นตอนการปลูก การปลูกด้วยกล้ามะระ ให้ปลูกภายในระยะห่างของหลุม 1.5-2 เมตร แต่ถ้าเป็น การปลูกด้วยการหยอดเมล็ด ให้หยอดเมล็ด 1-2 เม็ด/หลุม ในระยะห่างของหลุมอย่างเดียวกัน หลังการปลูกหรือหยอดเมล็ดเสร็จ จะต้องรดน้ำหลุมปลูกให้เปียก
องค์ประกอบทางเคมี
ส่วนประกอบทางเคมีและก็สารออกฤทธิ์ จากส่วนต่างๆของมะระจีน ตัวอย่างเช่น ผล เม็ด ใบ ลำต้น เอนโดสเปิร์ม และก็แคลลัส มีสารสำคัญมากถึง 228 ชนิด ที่อาจจะออกฤทธิ์แบบลำพังๆหรือ ออกฤทธิ์แบบร่วมกัน charantin, polypeptide-p, vicine, momordin และสารอนุพันธ์ที่คล้ายกัน ตัวอย่างเช่น momordinol, momordicilin, momorcharin, momordicin , Gallic acid , Caffeic acid รวมทั้ง Catechin ฯลฯส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะระจีน (100 กรัม) ประกอบด้วย ใยอาหาร2.8 กรัม ขี้เถ้า 1.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.7 กรัม ไขมัน 0.17 กรัม พลังงาน 17 กิโลแคลอรี วิตามิน A 380 มิลลิกรัม วิตามิน B1 0.04

มก. วิตามิน B2 0.4 มก. วิตามิน B3 0.4 มก. วิตามิน B5 0.212 มก. วิตามิน B6 0.043 มก. วิตามิน C 84 มิลลิกรัม สังกะสี 0.8 มิลลิกรัม แคลเซียม 19 มก. ทองแดง 0.034 ไมโครกรัม เหล็ก 0.43 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.089 มก. ฟอสฟอรัส 31 มก. โพแทสเซียม 296 ไมโครกรัม โซเดียม 5 มก.
ผลดี/คุณประโยชน์
มะระจีนนิยมเอามาทำเป็นอาหาร ดังเช่นว่า ต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือแกงจืดยัดไส้หมูสับบ้างพลิกแพลง นำมะระมาหั่นเป็นแว่นบางๆชุบไข่ทอด แบบชะอมหรือมะเขือยาว หรือจะใช้ฝานเป็นแว่นบางๆจิ้มกับน้ำพริก หรือจะทำมะระผัดไข่ก็นิยมรับประทานกันมาก ซึ่งมะระจีนถือเป็นผักที่นิยมรับประทานมากมายสำหรับผู้ที่มีอาการป่วยเป็นเบาหวาน เนื่องจากว่ามีสารประกอบหลายแบบ อาทิเช่น แคแรนทิน (charantin), โพลีเปปไทด์ พี (p-insulin) และวิซิน (vicine) ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนสรรพคุณทางยาตามตำรายาไทยกล่าวว่า ราก แก้พิษ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ฝาดสมาน ยาบำรุง เถา บำรุงน้ำดี ยาระบายอ่อนๆเจริญอาหาร ใบ แก้ไข้ ดับพิษร้อน ขับพยาธิ ขับลม ดอก แก้พิษ แก้บิด ผล ขับลม ดับพิษร้อนแก้พิษฝี แก้ฟกบวม แก้อักเสบ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ เจริญอาหาร บรรเทาเบาหวาน และก็เมล็ด แก้พิษ บำรุงธาตุนอกจากนั้นตำรายาแผนโบราณในต่างถิ่นได้มีการใช้มะระแก้เบาหวาน เช่นกัน อย่างเช่น อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา แอฟริกาตะวันตก ประเทศฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งอังกฤษ เป็นต้น สำหรับการหมอแผนปัจจุบันได้มีการทำการค้นคว้ากล่าวว่า มะระจีนมีฤทธิ์ต้านโรคเบาหวาน ช่วยระบายรวมทั้งทำลายเชื้อ โดยทางการแพทย์แผนไทยใช้เข้าตำรับยาแก้ไข้ที่มีลักษณะติดโรคต่างๆสารต้านทานเบาหวานในมะระจีนอาทิเช่นสารชาแรนทิน ซึ่งมี ฤทธิ์ต่อต้านเบาหวานได้ดีมากยิ่งกว่ายา tolbutamide ยิ่งกว่านั้น พบ สารไวซีน (vicine) โพลีเพปไทด์-พีและก็สารออกฤทธิ์อื่นที่ กำลังเรียนกันอยู่ โพลีเพปไทด์-พี ออกฤทธิ์ลดน้ำตาลใน เลือดเมื่อฉีดแบบอินซูลินให้กับผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานจำพวก ฤทธิ์ต้านโรคเบาหวานของมะระจีนได้ถูกเรียนรู้อย่างมาก ทั้งโดยการเพาะเลี้ยงเซลล์ การเล่าเรียนในสัตว์ทดลอง และการเล่าเรียนทางสถานพยาบาล สารจากมะระจีนให้ผลทั้งยังในทางการควบคุมจำนวนการหลั่งอินซูลินแล้วก็เปลี่ยนเมแทบอลิซึมของเดกซ์โทรส การแพทย์หนทางของสหรัฐอเมริกาแนะนำการใช้น้ำคั้นผลมะระจีน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดคนเจ็บโรคเบาหวาน
แบบอย่าง / ขนาดวิธีการใช้
• แก้ลักษณะการป่วยไข้ ให้นำมะระจีนอีกทั้ง 5 คือ ดอก ผล ใบ ราก และเถาอย่างละ 1 กำมือใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มจนกระทั่งเดือด รับประทานทีละ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหาร วันละ 3 - 4 ครั้งติดต่อกันเพียงแค่ 3-4 วันก็จะหายไข้
• แก้อาการคอแหบ เสียงไม่มี เหตุเพราะหวัด นำผลมะระจีนต้มรับประทาน หรือใช้ประกอบเป็นอาหารช่วยรักษาให้ดีขึ้นกว่าเดิมจนถึงหายขาดได้
• ให้นำมะระจีนใกล้สุก มาหั่นทั้งเนื้อแล้วก็เม็ดและจากนั้นจึงนำไปตากแดดให้แห้ง คั่วจนหอมแล้วตำอย่างละเอียดผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอนขนาดนิ้วโป้งกินครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน แก้ท้องผูก
• บำรุงสายตา ให้นำผลมะระจีนแล้วก็ยอดอ่อนมาทำกับข้าวตามที่ใจต้องการ ควรรับประทานวันเว้นวันสม่ำเสมอ สายตาจะดียิ่งขึ้น
• บำรุงเลือด
• บำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถนะทางเพศ ให้นำเม็ดมะระจีนแก่จัดมาตากแห้งแล้วแกะเปลือกนอกออก ใช้เนื้อในบดจนถึงละเอียดละลายน้ำร้อนกินทีละ 1 ช้อนตักกาแฟวันละ 1 ครั้งที่แล้วนอน ติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้น 2 อาทิตย์ รับประทานอีก 2 อาทิตย์ จะมีผลให้เจริญอาหารมีพละกำลังขึ้น ยาขนานนี้ยังช่วยขับพยาธิตัวเล็กได้อีกด้วย
• ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากเปื่อย แก้ตับม้ามทุพพลภาพ แก้อักเสบ บวมช้ำบวม ใช้ทาภายนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคายเคือง อักเสบ
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา มีการศึกษาเล่าเรียนถึงผลของมะระจีนในมนุษย์หลายการศึกษาเล่าเรียนอีกทั้งในคนที่มีสุขภาพดีและก็ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดต่างๆพบว่า มีหลายการศึกษาเรียนรู้ที่กล่าวว่าสารสกัดหรือน้ำจากผลมะระมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้โดยการเรียนเจอฤทธิ์รักษาโรคเบาหวานของมะระจีนเริ่มตั้งแต่ปี 1942 โดยพบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกระต่าย รวมทั้งเสริมฤทธิ์ยาลดน้ำตาลในกระต่ายที่เป็นเบาหวาน จึงได้มีผู้เล่าเรียนฤทธิ์ของมะระในสัตว์ทดสอบต่างๆดังเช่นกระต่าย หนูขาว หนูถีบจักร แมว gerbils ลิง ตลอดจนการทดลองทางสถานพยาบาล ซึ่งสำหรับการทดลองได้ใช้มะระจันทั้งในรูปสารสกัดด้วยอัลกอฮอล์ สารสกัดด้วยอะซีโตนสารสกัดด้วย้ำในรูปผลแห้งและน้ำคั้น และได้มีผู้ทดลองสกัดแยกสารซึ่งมีฤทธิ์ลดเบาหวาน ดังเช่น charantin , polypeptide , polypeptide P และ purified proteinสำหรับกลไกการออกฤทธิ์ พบว่ามะระจีนมีฤทธิ์ราวกับอินซูลินรวมทั้งกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ เพิ่มการใช้น้ำตาลกลูโคสในเนื้อเยื่อต่างๆโดยไปเพิ่ม tissue respiration เมื่อให้น้ำคั้นผลมะระจีนก่อนให้น้ำตาลเดกซ์โทรส พบว่ามีการนำเดกซ์โทรสไปใช้จึงมีการสะสมของglycogen ในตับรวมทั้งกล้าม ซึ่งบางทีอาจเนื่องจากว่าไปรีบการหลั่งอินซูลิน แล้วก็เร่งการดูดซึมของเดกซ์โทรสก็ได้ ยิ่งกว่านั้นน้ำคั้นยังมีผลต่อ gluconegensis ในไตคล้ายกับสาร hypoglycin ซึ่งลดน้ำตาลเนื่องมาจากโรคเบาหวาน แล้วก็พบว่าการทดลองให้หนูที่รั้งนำด้วย strepotozotocin ให้เป็นเบาหวาน มะระจีนไม่ได้ผล อาจด้วยเหตุว่าเบต้าเซลล์ถูกทำลายไปแล้วไม่เพียงแค่มีการทดลองโดยใช้ผลมะระจีนแค่นั้น ยังมีการทดสอบผลของเมล็ดมะระจีนอีกด้วย
จากการเรียนของนักค้นคว้าในประเทศฮ่องกง
พบว่าในเมล็ดมีสารซึ่งมีฤทธิ์เหมือนกับอินซูลินซึ่งถัดมาได้พบว่า คือ α-momorcharin, β-momorcharin , α-trichosantin และเลคติน ในเวลาใกล้ๆกัน ได้มีหัวหน้าเมล็ดมะระมาสกัดด้วย 50% เมทานอล และ 0.9% น้ำเกลือ เมื่อนำสารสกัดไปทดลองในหนูซึ่งอดอาหาร พบว่าจำนวนน้ำตาลในเลือดน้อยลง และก็สารสกัดเมทานอลและน้ำเกลือยังคุ้มครองป้องกันไม่ให้ adrenaline ไปเหนี่ยวนำให้กำเนิดโรคเบาหวานโดยมีกล่าวว่า สารสกัดมะระจีนยั้ง glucose optake ใน cell Ehrlich ascites tumor cell ซึ่งใช้เป็นการตรวจตราพื้นฐานของพืชที่ยับยั้งโรคเบาหวาน มีการศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของตำรับยาซึ่งมีมะระจีนเป็นส่วนประกอบ (ไม่กำหนดชนิดของสารสกัด) โดยฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาด 0.1 ก./กิโลกรัม พบว่าลดน้ำตาลในเลือด เมื่อทดลองฉีดสารสกัดอินซูลินจากมะระจีนเข้าทางท้องหรือให้ทางปากหนูขาวปกติ รวมทั้งหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวาน ด้วย alloxan หรือ streptozotocin พบว่าน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ต่อมามีการเรียนผลของสารสกัดเมทานอล:น้ำ ของดอกแห้งรวมทั้งใบมะระจีนขนาด 10 รวมทั้ง 30 มิลลิกรัม/กก. เมื่อกรอกเข้าทางกระเพาะหนูขาว พบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด รวมทั้งสารสกัด 95% เอทานอลของผลสด ขนาด 200 มก./กก. กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารของหนูขาวที่ใช้ streptozotocin รั้งนำให้เกิดเบาหวาน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดลง 22% และน้ำคั้นผลดิบสดของมะระจีน(ไม่กำหนดขนาด) กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารหนูขาว มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
นอกนั้นเมื่อให้น้ำสกัดผลมะระจีน 2 มิลลิลิตรเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในหนูขาวที่ถูกรั้งนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลงจาก 220 มิลลิกรัม% เป็น 105 มก.%คิดเป็น 54% ซึ่งมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้มากกว่าผงแห้ง ซึ่งต่ำลง 25%
การศึกษาฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกรั้งนำโดย alloxan ตรวจสอบและลองใช้สารสกัดเอทานอลขนาด 250 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทดสอบเป็นเวลา 2 อาทิตย์ พบว่ามะระมีฤทธิ์อย่างแรงในการลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดมะระ 3 ตัวอย่างคือ สารสกัด A ได้ผลแห้งมะระ 0.5 กก. ในเมทานอล (1:10) สารสกัด B เป็นผลแห้งมะระ 0.5 กก. ในคลอโรฟอร์ม (1:10) สารสกัด C สำเร็จสดมะระ 0.5 กก. ในน้ำ (10:25) ในขนาด 20 มก/กก มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวานด้วย alloxan เมื่อทดลองใช้ตรงเวลา 4 สัปดาห์ไม่เจอความเป็นพิษต่อตับและก็ไต และก็ทดลองใช้ในขนาดสูงไม่เจอพิษต่อตับรวมทั้งไตด้วยเหมือนกัน โดยดูจากค่า SGOT , SGPT และ lipid profile
การค้นคว้าที่
ประเทศแอฟริกาใต้ ปี พ.ศ.2549 ถึงฤทธิ์ของการใช้สารสกัดมะระจีนอีกทั้ง5เพื่อลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของหนูที่ทำให้เป็นโรคเบาหวานโดยใช้สารสเตรปโทโซโทสิน พบว่าจำนวนน้ำตาลในเลือดหนูลดน้อยลงทั้งยังหนูธรรมดารวมทั้งหนูที่เป็นโรคเบาหวาน ผลของการลดจำนวนน้ำตาลผันตามจำนวนสารสกัดที่ได้รับ
ส่วนการทดสอบให้สารสกัดมะระจีนอีกทั้ง 5 โดยการฉีดเข้าเส้นเลือดกับหนูธรรมดารวมทั้งหนูที่ถูกทำให้มีความดันสูง (hypertensive Dahl salt-sensitive rats) พบว่าลดความดันช่วงบนแล้วก็อัตราการเต้นของหัวใจของหนูทั้งๆที่ปกติและมีอาการความดันสูงอย่างเปลี่ยนแปลงกับจำนวนสารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การให้สารอะโทรพีนต่อหนูไม่มีผลต่อการลดความดันเลือดสำหรับเพื่อการทดสอบนี้ จึง เชื่อว่าผลการลดความดันดังที่กล่าวถึงแล้วไม่ได้เกิดจากกลไกวัวลิเนอร์จิก
ส่วนการค้นคว้าที่ญี่ปุ่น ปีพุทธศักราช2549 พบว่าไทรเทอร์พีนอะไกลโคนจากสารสกัดแอลกอฮอล์ของผลมะระจีนแห้งปริมาณ 2 จำพวก แสดงผลลัพธ์ลดจำนวนน้ำตาลในเลือดหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวาน (หนูเบาหวานเพศผู้ จำพวก ddY) สารดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นคือ epoxydihydroxycucurbitadiene แล้วก็ trihydroxycucurbitadien-al
การทดลองทางสถานพยาบาลในคนธรรมดาพบว่า เมื่อกินผลมะระจีนสด (ไม่ระบุขนาด) มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด มีการเรียนโดยใช้ใบมะระจีนพบว่า มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (postpandrial glucose level) อีกทั้งในคนปกติแล้วก็ผู้ป่วนปั่นเบาหวานประเภทที่ 2 และใบมะระจีน ลดน้ำตาลในเลือดคนป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ 60% อย่างเป็นจริงเป็นจังเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับเดกซ์โทรส75 ก. (97%) แม้กระนั้นระดับอินซูลินและกลูโคสในเลือดไม่ได้แตกต่างกัน
นอกเหนือจากนั้นจากผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังพบว่าทั้งมะระจีนมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV โดยออกฤทธิ์สำหรับเพื่อการกระตุ้นภูมิต้านทาน มีรายงานค้นคว้าทำการวิจัยว่าชาวประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโรคได้ใช้สารสกัดจากมะระจีนนาน 4 ปี พบว่ามีจำนวน T lymphocytes เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแพทย์ชาวจีนแถลงการณ์ว่ามีผู้ใช้มะระจีนนาน 4 เดือน ถึง 3 ปี พบว่ามีปริมาณ T lymphocytes มากขึ้น ทำให้เห็นว่ามะระจีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิต้านทาน
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษ เมื่อฉีดสารสกัดพืชทั้งต้นด้วยเอทานอล(50%) เข้าใต้ผิวหนังในขนาด 20 กรัม/กก. หรือให้หนูถีบจักรกินในขนาด 10 กรัม/กก. ไม่พบพิษ สารสกัดส่วนเหนือดินและไม่ระบุส่วนที่ใช้ด้วยเอทานอล (50%) เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งเดียว (LD50) มีค่าพอๆกับ 681 มิลลิกรัม/กก. และก็มีค่าสูงกว่า 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แอลค้างลอยด์ที่แยกได้จากมะระจีน เมื่อให้กระต่ายรับประทานขนาด 56 มก./ตัว หรือฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร 14 มก./กก. ไม่เจอพิษ ฉีดน้ำคั้นจากผลเข้าช่องท้องหนูขาวขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม หรือ 40 ซีซี/กก. พบว่าทำให้สัตว์ทดสอบตายข้างใน 18 ช.ม.และเมื่อฉีดน้ำคั้นผลเข้าช่องท้องของกระต่ายในขนาด 15 ซีซี/กิโลกรัม พบว่าทำให้กระต่ายตายข้างใน 18 ช.ม. แม้กระนั้นเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของกระต่ายในขนาด 6 ซีซี/กก. พบว่ากระต่ายตายภายหลังได้รับสารสกัดอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 23 วัน
ส่วนน้ำต้มผลสดฉีดเข้าช่องท้อง หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูถีบจักร ค่า LD50 พอๆกับ 16 มคกรัม/ซีซี และก็ 270 มคก./ซีซี เป็นลำดับ เมื่อฉีดสารสกัดผลด้วยเอทานอล (50%) เข้าท้องหนูถีบจักรพบว่าLD50 เท่ากับ 681 มก./กิโลกรัม ให้หนู gerbil กินสารสกัดผลขาดเอทานอล (95%) ขนาด 1.1 กรัม/กิโลกรัม นานติดต่อกัน 30 วัน รวมทั้งสารสกัด (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้) ด้วยเอทานอล (95%) เมื่อผสมอาหารในขนาด 50 มคกรัม/ตัว ในหนูถีบจักรกิน พบว่าไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดพิษ เมื่อฉีดสารสกัดเม็ดด้วยน้ำเข้าช่องท้องหนูขาวพบว่า LD50 เท่ากับ 25 มก./กิโลกรัมสารสกัดผลด้วยคลอโรฟอร์ม เมื่อฉีดเข้าทางท้องหนูถีบจักรในขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ทำให้สัตว์ทดลองอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แล้วก็ตายข้างหลังได้รับสารสกัดตรงเวลา 24 ช.ม.
พิษต่อระบบสืบพันธุ์ เมื่อให้น้ำคั้นจากผล ขนาด 6 ซีซี/กิโลกรัม ในกระต่ายที่ตั้งท้อง ทำให้มีเลือดออกจากมดลูกและมีกระต่ายตายจากการตกเลือด เมื่อฉีดสารสกัดผลซึ่งมีสาร charantin รวมทั้งเมล็ดซึ่งมีสาร vicine เข้าทางท้องของสุนัขในขนาด 1.75 กรัม/ตัว พบว่าฤทธิ์ยั้งกระบวนการสร้างน้ำเชื้อรวมทั้งในหนูถีบจักรเพศเมีย เมื่อได้รับสารสกัด (ไม่กำหนดประเภท) พบว่ามีผลยั้งการผสมพันธุ์เมื่อให้ใบและเปลือกลำต้น (ไม่กำหนดขนาด) เข้าทางกระเพาะในหนูขาวที่ตั้งท้อง พบว่ามีเลือดไหลผิดปกติจากมดลูก น้ำคั้นผลสดเมื่อให้ในหนูถีบจักรเพศภรรยามีฤทธิ์ยั้งการเจริญวัย และก็น้ำคั้นผลสดเมื่อให้เข้าทางกระเพาะของหนูขาว เมื่อให้น้ำคั้นจากผล (ไม่เจาะจงขนาด)
สารสกัดด้วยน้ำ (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้) ในขนาด 200 มิลลิกรัม/กก. เมื่อให้หนูขาวที่ท้องกินไม่พบว่าเป็นพิษต่อตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง และก็สารสกัดด้วยเอทานอลในขนาดที่เท่ากับ ก็ไม่พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อนหรือทำให้แท้ง น้ำต้มจากใบเมื่อให้หนูขาวเพศเมียกินในขนาด 500 มก./กก พบว่าไม่มีฤทธิ์ยับยั้งการฝังของตัวอ่อน และไม่เป็นพิษต่อตัวอ่อน
ผลต่อเม็ดเลือดขาว น้ำคั้นจากผลในขนาดที่มีผลทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวธรรมดา(lymphocyte) ตายกึ่งหนึ่ง มีค่าพอๆกับ 0.35 มิลลิกรัม/จานเพาะเชื้อ สารสกัดด้วยน้ำเกลือ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้) เมื่อทดลองกับเซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) ในขนาด 40 มคกรัม/จากเพาะเชื้อ พบว่ามีความเป็นพิษต่อยืน (gene) lectin และโปรตีนบางชนิดในเม็ดของมะระ มีผลยั้งบางแนวทางการสังเคราะห์ DNA ของอีกทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติและก็เซลล์ของมะเร็ง ป้อนน้ำคั้นจากผลสดรวมทั้งเม็ดของมะระจีนให้หนูขาวเพศผู้ในขนาด 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 ก. เป็นเวลา 30 วัน พบว่าทำให้ enzyme serum Ƴ-glutamyltransferase แล้วก็ alkaline phosphatase มีความเข้มข้นสูงขึ้นก็เลยคาดว่าน่าจะมีสารที่นำไปสู่ความเป็นพิษต่อตับ
ข้อแนะนำ/ข้อพึงระวัง
1. ใบมะระจีนใช้ ต้มดื่ม แก้ไข้หวัด บำรุงน้ำดี ดับพิษฝี แก้ปากเปื่อย แก้ตับม้ามพิการ แก้อักเสบ ฟกช้ำบวม ใช้ทาด้านนอก แก้ผิวแห้ง ลดอาการระคายเคือง อักเสบ
2. คนที่มีภาวะขาดเอนไซม์จีสิกข์พีดี (G6PD) ไม่ควรรับประทานเมล็ดมะระ เนื่องจากบางทีอาจเกิดผลใกล้กัน ดังเช่น โลหิตจาง ปวดศีรษะ เจ็บท้อง มีไข้ และอาจมีภาวการณ์รุนแรงได้ในบางราย
3. หญิงตั้งครรภ์รวมทั้งอยู่ในตอนให้นมลูก ไม่ควรกินมะระจีน เนื่องด้วยมีการเรียนในสัตว์ทดสอบพบว่า สารเคมีในผลหรือเมล็ดมะระอาจทำให้มีเลือดไหลระหว่างท้อง แล้วก็อาจเป็นต้นเหตุให้แท้งได้
4. คนป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จำต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด อาทิเช่น อินซูลิน ไกลพิไซด์ โทลบูตาไมด์ ไกลเบนคาไมด์ ไพโอกลิตาโซน เป็นต้น ควรระมัดระวังในการรับประทานมะระ เพราะว่ามะระอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลดน้อยลงมากจนเกินไป
เอกสารอ้างอิง

  • เสาวนิตย์ ดาวรัตนชัย.มะระกับเบาหวาน.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่ 21 ฉบับที่ 1 .ตุลาคม .2546.หน้า 12-21
  • รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ.มะระต้านเบาหวาน. คอลัมน์ บทความพิเศษ.นิตยสารหมอขาวบ้าน.เล่มที่ 336.เมษายน 2550
  • นิรามัย ฝางกระโทก.”เบาหวาน” “มะระ”. บทความวิชาการ คณะเทคโนโลยีเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา .หน้า 1-5
  • นันทวัน บุณยะประภัศร อรนุช โชคชัยเจริญพร , บรรณาธิการ . สมุนไพรไม้พื้นบ้าน เล่ม 3.กรุงเทพฯ:ประชาชน จำกัด , 2542.823 หน้า.
  • การปลูกมะระจีน .พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อพืชเกษตรไทย.(ออนไลน์). สอบถามเรื่องมะระ.กระดานถามตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.https://www.disthai.com/
  • Rajurkar NS, Pardeshi BM.Analysis of some herbal plants from lndia used in the control of diabeter mellitus by NAA and AAS techniques. Appl Radiat lsot 1997;48(8):1059-62.
  • Kar A, Choudhary BK, Bandyopadhyay NG. Preliminary studies on the inorganic constituents of some lndigenous hypoglycaemic herbs on oral glucose tolerance test. J Ethnopharmacol 1999;64:179-84.
  • Singh J, Cumming E, Manoharan G, Kalasz H,Adeghate E. 2011. Medicinal chemistry of the anti-diabetic effects of Momordica charantia: Active constituents and modes of actions. Open Medicinal Chemistry Journal.5:70-77
  • Aslam M, Stoclkley IH. Lnteraction between curry ingredient (karela) and drug (chloropamide). Lancet 1979;607.
  • Khanna P. Protein/polypeptide-K obtained from Momordica charantia, a process for the extraction thereof ,and therapeutic uses for diabetes mellitus. PCT lnt Appl Won00 61,619 2000;30pp.
  • Jain SR, Sharma SN. Hypoglycaemic drugd of lndian indigenous origin . Planta Med 1967;15(4):439-42.
  • Ng TB, Wong CM,Li WW,Yeung MW. Lnsulin like molecuies in Momordica charantia seeds. J Ethnopharmacol 1986;15107-17.
  • Murakami C, Myoka K, Kasai R, Ohtani K, Kurokawa T, lshibshi S, Sadahiko D, Fabian P, Willam G, Yamasaki K. Screening of plant constituents for effect on glucose transport activity on Ehrilich escites tumor cells. Chem Pharm Bull 1993;4
บันทึกการเข้า