ทนายความเชียงใหม่ มีเรื่องที่น่าสนใจ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆและผู้ปกครองหลายๆท่านที่บุตรหลานกำลังจะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย บางคนสอบได้หลายที่ หรือได้ที่เรียนแล้ว แต่ก็ยังลังเลหรือสับสนว่าจะเข้าเรียน มหาวิทยาลัยแห่งนั้นหรือไม่ แล้วได้ชำระ
ค่าบำรุงการศึกษาไปแล้วเพราะบางที่เขามีกำหนดระยะเวลาในการชำระ หากท่านไม่ชำระก็จะถือว่าสละสิทธิ์ จึงต้องชำระไปก่อน เพราะกลัวจะเสียสิทธิ์ในการเข้าศึกษา แต่สุดท้ายกลับสอบติดในคณะหรือมหาวิทยาลัยที่คิดว่าใช่มากกว่าที่แห่งแรก เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น เอ..แล้วเงินที่เราชำระไปให้มหาวิทยาลัยแห่งแรก จะทำไงหละ ไปขอคืนได้มั้ย
เรามีคดีปกครองตัวอย่างมาฝากค่ะ
ข้อเท็จจริง คือ นาย อ. บุตรของผู้ฟ้องคดี อายุ ๑๘ ปี เศษ ได้รับการจัดสรรโควตาให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของผู้ถูก ฟ้องคดี และได้ไปรายงานตัวพร้อมทั้งชำระค่าบำรุงการศึกษา จำนวน ๗,๐๐๐ บาท แต่ต่อมาได้ขอถอนสิทธิการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อเข้าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย น. และได้ขอเงินค่าบำรุงการศึกษาคืน
ผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่า ไม่สามารถคืนเงินค่าบำรุงการศึกษาให้ได้เนื่องจากตามระเบียบของมหาวิทยาลัยนักศึกษาใหม่ที่ชำระค่าบำรุงการศึกษาแล้ว หากไม่เข้ากรณีข้อยกเว้นจะขอถอนคืนเงินดังกล่าวไม่ได้ ทั้งนี้ เพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อการวางแผนจัดการเรียนการสอนและเพื่อไม่ให้เป็นการตัดโอกาสบุคคลอื่นในการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การที่บุตรของผู้ฟ้องคดีได้เข้ารายงานตัวและชำระค่าบำรุงการศึกษาให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมแสดงว่าสมัครใจที่จะเป็นนักศึกษาใหม่ของผู้ถูกฟ้ องคดี การเรียกให้บุตรของผู้ฟ้ องคดีชำระค่าบำรุงการศึกษาก่อนเริ่มเปิดภาคเรียนจึงมิได้เป็นการเอาเปรียบแต่อย่างใด และการกระทำดังกล่าวก็เป็นไปเพื่อยืนยันสิทธิในการเข้าศึกษาอันเป็นมาตรการในการป้ องกันไม่ให้ผู้ได้รับการพิจารณาในระบบโควตารวมทั้งบุตรของผู้ฟ้ องคดีสละสิทธิ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในการวางแผนจัดการเรียนการสอนของผู้ถูกฟ้องคดี และเพื่อไม่ให้เป็นการตัดโอกาสผู้สมัครรายอื่นที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของผู้ถูกฟ้ องคดี ประกอบกับในกรณีดังกล่าวนี้ไม่มีเหตุใด ๆ ตามที่กำหนดในระเบียบของมหาวิทยาลัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่จะต้องคืนเงินบำรุงการศึกษา เช่น ไม่สำเร็จการศึกษาจากสถานศึกษาเดิม ถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร ป่วยจนไม่สามารถเรียนได้ หรือเสียชีวิต เป็นต้น
ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีจึงไม่สามารถเรียกเงินค่าบำรุงการศึกษาคืนได้ และผู้ถูกฟ้ องคดีก็ไม่ต้องคืนเงินค่าบำรุงการศึกษาให้แก่ผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด
ที่มา ศาลปกครอง ,(คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 502/2557)
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ทนายเชียงใหม่ที่มา :
https://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/Tags : ทนายเชียงใหม่