รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 595 ครั้ง)

pussy22

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
    • ดูรายละเอียด


กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเช่นเดียวกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงเข้าครัว กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างจะไม่เหมือนกับพืชทั่วไป เนื่องจากอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ยิ่งกว่านั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ได้แก่ อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสภาพร่างกาย
กระเทียม
ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิซินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดีขึ้น โดยที่หลายท่านมั่นใจว่าการกินกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและก็หลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ดังนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ ผลดี แล้วก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันเลือดสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในเส้นโลหิตแล้วก็ส่งผลให้เส้นโลหิตขยายตัวแล้วก็ทำให้ระดับความดันโลหิตลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้ผู้ป่วยที่มีระดับความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยที่กินยาหลอก จึงอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับในการรักษาคนป่วยความดันโลหิตสูงได้ดีมากยิ่งกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่บ่งบอกถึงถึงสมรรถนะของกระเทียมสำหรับในการลดระดับความดันโลหิตได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ยาหลอก แต่ว่าเพราะว่าผลการทดสอบบางทีอาจยังไม่แม่นยำพอเพียงที่จะสรุปคุณภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและก็เส้นเลือดในคนไข้ความดันเลือดสูง จึงยังควรต้องเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อยืนยันสมรรถนะที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมและการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังคลุมเครือรวมทั้งยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งเพศชายรวมทั้งเพศหญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารปริมาณกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบตรงเวลา 5 ปี แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาค้นคว้าอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้ใจถึงที่เหมาะจะช่วยส่งเสริมความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วก็มีหลักฐานที่ค่อนข้างจะจำกัดที่สนับสนุนว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งหลอดของกิน โรคมะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในช่องปาก หรือมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้บอกว่ากระเทียมเป็นผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณลักษณะต้านมะเร็ง แต่ว่ายังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆเป็นต้นว่า รูปแบบของสินค้าที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจก่อให้พิสูจน์ถึงสมรรถนะของกระเทียมได้ยาก รวมทั้งเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ความสามารถของกระเทียมหมดลงไปได้เช่นเดียวกัน
แก้หวัด ผู้คนจำนวนมากมั่นใจว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์รวมทั้งเชื้อไวรัส และก็มีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองแล้วก็บรรเทาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมรูปแบบเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง อีกทั้งยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความไม่เหมือนกันเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดลองทางคลินิกยังไม่เพียงพอและควรต้องเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อรับรองคุณภาพของกระเทียมให้แจ้งชัดเพิ่มขึ้น
ลดความอ้วนรวมทั้งมวลไขมัน ในคนไข้ภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ว่ามักเกิดจากโรคอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจไม่พอ หากไม่ดูแลเรื่องการทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยบางทีอาจเป็นโอกาสหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติปกป้องสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้วิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้นศชายแล้วก็ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งปวง 110 คน กินกระเทียมผงจำพวกแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่ว่ารับประทานกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดสอบชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักรวมทั้งมวลร่างกายต่ำลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก จึงอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับและก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดสภาวะไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นการเล่าเรียนในอนาคตยังต้องดีไซน์การทดสอบให้ดีขึ้นและควรเพิ่มช่วงเวลาสำหรับการทดลองเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับความสามารถของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบและก็การเรียนรู้โดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่เกี่ยวพันปริมาณ 29 ชิ้น ได้ทำให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้บางส่วน แต่ว่าไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร ก็เลยยังควรต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อหาข้อสรุปรวมทั้งรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างจะไม่เป็นอันตรายถ้าหากกินในปริมาณที่เหมาะสม แต่ว่าอาจจะส่งผลให้เป็นผลข้างๆได้ ตัวอย่างเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก ท้องเฟ้อ อ้วก อาเจียน หรือท้องร่วง อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด อีกทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและเคืองได้
ข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการรับประทานกระเทียมโดยยิ่งไปกว่านั้นบุคคลในกลุ่มต่อแต่นี้ไป
คนที่กำลังมีท้องหรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการมีครรภ์ค่อนข้างจะไม่มีอันตรายหากกินเป็นของกินหรือในปริมาณที่สมควร แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยถ้ากินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้วางใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งท้องหรือให้นมบุตร
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่สมควรและก็ในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนและก็เคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจก่อให้มีการเคืองที่ทางเดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันเลือดลดลดลงมากกว่าธรรมดา
ผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดกินกระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์ด้วยเหตุว่าอาจทำให้เลือดออกมากและมีผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และผู้ที่มีสภาวะเลือดออกแตกต่างจากปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด เพราะเหตุว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ดังเช่น ไอโซไนอะสิด เพราะกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและมีผลต่อความสามารถแนวทางการทำงานของยา รวมถึงไม่ควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคเอดส์
ยาคุม
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม
บันทึกการเข้า