รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 436 ครั้ง)

mmkmm25255

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 02:56:35 PM »


ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) แล้วก็อยู่ในตระกูลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ต้นลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกและชอบเขียนไม่ถูกหรือสะกดไม่ถูกเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) ฯลฯ
คำว่า “ราชพฤกษ์” แสดงว่า “ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานมหกรรมพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าอยู่หัวของพวกเราทรงครอบครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีคำแนะนำแล้วก็สรุปให้มีการระบุสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ และสถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพินิจพิเคราะห์ได้บทสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติเป็น “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น “ศาลาไทย” และในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุมีผลสำหรับเพื่อการคัดดังต่อไปนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดฯลฯไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่คนประเทศไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างล้นหลาม ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเจอได้ทั่วๆไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับจารีตชาวไทยมาอย่างเป็นเวลายาวนาน เพราะว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนามและใช้สำหรับในการประกอบพิธีสำคัญๆต่างๆหลายพิธีการ อาทิเช่น พิธีลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล เป็นต้น
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้อย่างนานาประการ อย่างเช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์ฯลฯไม้ที่มีอายุยืนนานรวมทั้งแข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีรูปทรงและก็พุ่มไม้ที่สวย มีดอกเหลืองแพรวพราวเต็มต้น ดูสวยยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ที่พระพุทธศาสนา แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ยิ่งกว่านั้นตามตำราพืชที่มีความเป็นสิริมงคล 9 จำพวกยังกำหนดไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจบุญบารมี มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคแล้วก็อาการต่างๆโดยส่วนที่นำมาใช้เป็นคุณประโยชน์ทางยานั้น ดังเช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก และเม็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ได้กับเด็ก สตรี รวมไปถึงคนชรา โดยไม่มีอันตรายอะไรก็ตาม
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบทวีปเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนกระทั่งอินเดีย พม่า แล้วก็ประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกึ่งกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาเกลี้ยง มักขึ้นทั่วๆไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกเอาไว้ภายในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกภายในพื้นที่ แต่ในขณะนี้บางทีอาจจะใช้กระบวนการทาบกิ่งและเสียบยอดก็ได้ แม้กระนั้นช่องทางสำเร็จจะน้อยกว่ากระบวนการเพาะเม็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) รูปแบบของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียววาว ช่อหนึ่งยาวโดยประมาณ 2.5 เซนติเมตร แล้วก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างราวๆ 5-7 ซม. และยาวโดยประมาณ 9-15 ซม. โคนใบมนรวมทั้งสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางสะอาด มีเส้นกิ่งก้านสาขาใบถี่และโค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) มีดอกเป็นช่อ ยาวราวๆ 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวโดยประมาณ 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดร่วงได้ง่าย และกลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกโดยประมาณ 2-3 เท่า แล้วก็มีกลีบรูปไข่ปริมาณ 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะเห็นเส้นกลีบชัดแจ้ง ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างปริมาณ 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกชอบบานในตอนมี.ค.ถึงเดือนพฤษภาคม แม้กระนั้นก็มีบางกรณีที่มีดอกนอกฤดูเช่นเดียวกัน เช่น ในช่วงธันวาคมถึงม.ค.
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกสะอาดๆฝักยาวประมาณ 20-60 ซม. แล้วก็วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆติดกันอยู่เป็นช่องๆตามแนวขวางของฝัก และในช่องจะมีเม็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดราวๆ 0.8-0.9 เซนติเมตร
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์
ช่วยบำรุงรักษาโลหิตภายในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นรวมทั้งใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการใช้ใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย มีกลิ่นเหม็นเหม็นเบื่อ เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ (ฝัก)
เปลือกเมล็ดรวมทั้งเปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยทำลายพิษ ทำให้อาเจียน หรือจะใช้เม็ดราว 5-6 เมล็ด เอามาบดเป็นผงแล้วกินก็ได้ (เม็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก และใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และก็หัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย แก้อาการซึมเศร้า หนักหัว หนักตัว ทำให้ชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวยหน้าอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งราว 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำ (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะอาการท้องผูกบ่อยๆและสตรีท้อง เนื่องจากว่ามีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่าหัวแม่มือ (หนักโดยประมาณ 4 กรัม) และน้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือนิดหน่อย ใช้ดื่มก่อนกินอาหารตอนเช้าหรือช่วงก่อนนอนเพียงแค่ครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เม็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา คุณประโยชน์ช่วยแก้ท้องร่วง (เม็ด)
ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะและก็แผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เมล็ด)
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยทำให้กำเนิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เม็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ รวมทั้งน้ำตาล แล้วนำมากิน (เมล็ด)
ฝักรวมทั้งใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสเฝื่อนเมา ช่วยขับรกที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
สรรพคุณของคูน รากใช้แก้โรคโรคกุฏฐัง (ราก)
ใบสามารถประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากนำมาฝนใช้ทารักษาขี้กลากเกลื้อน รวมทั้งใบอ่อนก็ใช้แก้กลากได้เช่นเดียวกัน (ราก, ใบ)
เปลือกและก็ใบนำมาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผื่นผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกและก็ใบเอามาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน สรรพคุณของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ช่วยสมานรอยแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
แขกใช้ใบนำมาตำ นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนและแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำเสียไว้โดยประมาณ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะสามารถที่จะช่วยในการกำจัดแมลงรวมทั้งหนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี Acetylcholinesterase
นอกจากนี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเยอะแยะ อาทิเช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่ต้มมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต แล้วก็ขจัดปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน แล้วก็อบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะมองตามโรคและความปรารถนาเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้แตกต่าง
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผุยผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกบริเวณที่เป็นจะช่วยกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการไหลเวียนของเลือด ทุเลาอาการปวดข้อ รักษาโรคเกาต์ แล้วก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับคนไข้ที่เป็นอัมพาตใบหน้าครึ่งส่วน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาค้าง ทำจากใบคูน สรรพคุณช่วยในด้านสมอง แก้ปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดียิ่งขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาแบบอื่นๆ

ข้อควรตรึกตรอง !
:การทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอควรจึงจะได้ผลดี ถ้าเกิดต้มนานเกินไปหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่ว่าจะมีผลให้ท้องผูกแทน รวมทั้งควรที่จะทำการเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินไป รวมทั้งยาต้มที่ได้หากกินมากเกินไปอาจจะทำให้คลื่นไส้ได้
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากราชพฤกษ์
นิยมนำมาปลูกไว้ฯลฯไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆดังเช่น สถานที่ราชการ รอบๆริมถนนข้างทาง แล้วก็สถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความศรัทธา ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามที่คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยทำให้ทรงเกียรติและก็เกียรติยศ สาเหตุเพราะเหตุว่าคนให้การเห็นด้วยว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงรวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย แล้วก็ยังมั่นใจว่าจะทำให้ผู้อาศัยนั้นรุ่งโรจน์ โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และก็ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะทิศดังกล่าวได้รับแสงอาทิตย์จัดในช่วงช่วงเวลาบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนในบ้านแล้วก็ช่วยประหยัดพลังงาน)
ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลและก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีบูชาต่างๆทางศาสนา อาทิเช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์ในการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก ฯลฯ
เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆได้แก่ ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลสำหรับในการทำเป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์รวมทั้งจุลินทรีย์ขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะพอควร โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บที่ทำการโครงงานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสาเหตุจากความคิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า รวมทั้งพืชพันธุ์, เว็บไซต์ไทยโพส, สำนักงานปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, สำนักงานกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า