รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 450 ครั้ง)

mmkmm25255

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด


ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาทำอาหารเพราะส่งกลิ่นหอม ยิ่งไปกว่านี้ ขิงยังใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งหน้าทั้งหลายเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลายประเภทมาอย่างยาวนาน ดังเช่น โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีก๊าซในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก ไม่อยากกินอาหาร
คุณสมบัติของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่อาจช่วยลดอาการอ้วกแล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าส่วนใหญ่คาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารแล้วก็ไส้ และสารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอาเจียนด้วย แต่ว่าข้อสมมติฐานดังกล่าวข้างต้นยังไม่กระจ่างนัก และคุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ปัจจุบันนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลชี้แจงไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่บางทีอาจเห็นผล
อาการอาเจียนอ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์ทุเลาอาการอาเจียนคลื่นไส้ของขิงอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคนี้ที่เอาแต่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการศึกษาผู้ป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านรีโทรไวรัส ตรงเวลาทั้งผอง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอาเจียนภายหลังการผ่าตัด ขิงอาจช่วยทุเลาอาการอ้วกแล้วก็อาเจียนจากการผ่าตัดได้ด้วยเหมือนกัน โดยการเรียนด้านวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งทดลองแบ่งผู้ป่วยจำนวน 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้รับประทานแคปซูลขิง 1 กรัม และอีกกรุ๊ปได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งกระโน้นผ่าตัด ซึ่งผลสรุปพบว่าคนไข้ในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอาเจียนคลื่นไส้น้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้ความสามารถสูงสุดเมื่อรับประทานเป็นประจำแล้วก็เป็นประจำโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของผู้เจ็บป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยราวๆ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งผอง แต่ทว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอ้วกร่วมกับยาลดอ้วกอ้วกนั้นบางทีอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการใช้ขิงกับคนป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอ้วกอ้วกน้อยอยู่แล้วก็อาจไม่ได้ผลเช่นกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ได้แก่ คลื่นไส้ อ้วก หรือเวียนศีรษะ ผลการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณลักษณะนี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุท้องต่ำกว่า 20 สัปดาห์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องแต่ละวันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้จะเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารแล้วก็ตาม ภายหลังกินสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลลัพธ์ได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้คุณประโยชน์ในฐานะการรักษาช่องทางต่ออาการแพ้ท้องได้
นับว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการอาเจียนอาเจียนในหญิงท้องที่มีลักษณะอาการแพ้ท้องได้ แม้กระนั้นการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือให้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้คลื่นไส้ นอกนั้น การเล่าเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดรวมทั้งพบคำตอบที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจไม่ได้มีส่วนช่วยสำหรับการลดอาการแพ้ท้องเหมือนกัน
อาการตาลายศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการอ้วกนี้บางทีอาจบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณค่าจากขิง จากงานค้นคว้าที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก แต่ว่ามิได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้คนป่วยกินสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อเข่าภายหลังการดูแลรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกการค้นคว้าที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าได้ผลลัพธ์สำหรับในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บหลังเดิน และก็อาการข้อติด
ยิ่งไปกว่านี้ มีการเรียนเปรียบเทียบสมรรถนะระหว่างขิงแล้วก็ยาแก้ปวด โดยให้คนป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายแล้วก็ข้อเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มก.ทุกๆวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลบรรเทาอาการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง และก็ยังมีงานศึกษาเรียนรู้ที่เสนอแนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงแล้วก็ส้มบางทีอาจช่วยทุเลาลักษณะของการปวดแล้วก็อ่อนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนไข้ที่มีลักษณะเจ็บเข่าได้ด้วย
ลักษณะของการปวดประจำเดือน นอกเหนือจากลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยทุเลาอาการปวดประจำเดือน อย่างเช่น การทดสอบในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงทีละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีระดูสม่ำเสมอไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีระดู รวมเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดประจำเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเล่าเรียนเปรียบประสิทธิภาพของขิงและยาลดลักษณะของการปวดเมนส์อย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละจำพวกในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู ผลลัพธ์ปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับการค้นคว้าแรก คือ ขิงมีคุณภาพทุเลาความรุนแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนไม่แตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การรักษาที่อาจไม่ได้ผล
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการพูดถึงกันมากมาย แต่ว่าหากแม้ขิงอาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แม้กระนั้นสำหรับในการเวียนหัวอ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางนั้น งานวิจัยส่วนใหญ่ระบุว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง อย่างเช่น การแบ่งกลุ่มให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาการอาเจียนและก็หน้ามืดลดน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับบางส่วนแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการกินผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการเมารถหรือการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวข้องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการระบุคุณภาพ
อาการคลื่นไส้อาเจียนจากกระบวนการทำเคมีบรรเทา อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอ้วกรวมทั้งอ้วก ซึ่งมีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่โต้วาทีกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การศึกษาหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนป่วยกินแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานตลอดตรงเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แม้กระนั้นได้ผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับสำเร็จน้อยกว่า แสดงว่าการรับประทานขิงในจำนวนมากจึงบางทีอาจมิได้ทำให้อาการอาเจียนอย่างที่น่าจะเป็น
แม้กระนั้น มีหลักฐานที่คัดค้านข้อช่วยเหลือดังที่ได้กล่าวมาแล้วซึ่งเป็นงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เผยว่าการรับประทานขิงไม่ได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ดังนี้ ผลการค้นคว้าที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นต่างกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะนำมาใช้คุณประโยชน์ด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือเปล่าอาจควรจะมีการยืนยันเพิ่มต่อไป
โรคเบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้โรคเบาหวานในขณะนี้ยังส่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน การค้นคว้าหนึ่งพบว่าการรับประทานขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บเบาหวานจำพวกที่ 2 และก็บางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางประเภทจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้อื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางการวิจัยพูดว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งผลวิจัยที่ไม่เหมือนกันนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่ผู้เจ็บป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยศึกษาเล่าเรียนประสิทธิภาพของขิงในคนป่วยที่มีลักษณะของกินไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังการงดเว้นของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยของกินรวมทั้งเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ทว่าการกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจเจาะจงได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนเท่าใด
อาการแฮงค์ เชื่อกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการแฮงค์ซึ่งเป็นผลใกล้กันจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยแต่ก่อนที่ชี้แนะว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน และน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในตอนหลัง รวมทั้งอาการอาเจียน อ้วกและท้องเดิน แต่ การเล่าเรียนดังที่กล่าวมาแล้วยังจัดว่าคลุมเครืออยู่มากมายและไม่อาจยืนยันได้ว่ามีต้นเหตุที่เกิดจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนเจ็บที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลลัพธ์กล่าวว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนถึงสามารถประยุกต์ใช้รักษาผู้ป่วยภาวการณ์นี้ได้หรือไม่คงจะจะต้องรอการเล่าเรียนในอนาคตที่กระจ่างกันถัดไป
อาการเจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดรวมทั้งลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือเปล่านั้นยังคงไม่ชัดเจนและเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ด้วยเหมือนกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมโดยตลอดนาน 124 ชั่วโมง พบว่าทั้งขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะของการเจ็บกล้ามจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนกระทั่งระดับมาก
แต่ทว่าอีกงานค้นคว้าหนึ่งกลับเจอผลสรุปตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเหมือนกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงรวมทั้ง 48 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกาย พบว่าไม่ได้ทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการออกกำลังกายต่ำลง แม้กระนั้นผู้วิจัยพบว่าการรับประทานขิงบางทีอาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อเบาๆในทุกๆวัน ถึงแม้บางทีอาจไม่เห็นผลได้โดยทันที
อาการปวดหัวไมเกรน มีการเรียนกับคนป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะปวดหัวไมเกรนเฉียบพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า