รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 622 ครั้ง)

n0menskyiii01

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
    • ดูรายละเอียด


กระเทียม
กระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำกับข้าว กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างแตกต่างจากพืชทั่วๆไป เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก นอกจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกจากจะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่หลายๆคนเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวพันกับหัวใจและก็หลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ทั้งนี้สิ่งพิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ คุณประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยในการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในเส้นเลือดแล้วก็ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันเลือดลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม เป็นเวลา 12 อาทิตย์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่กินยาหลอก จึงอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการรักษาคนไข้ความดันเลือดสูงได้ดีมากว่ายาหลอก
ถึงแม้ว่าจะมีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงสมรรถนะของกระเทียมสำหรับในการลดระดับความดันเลือดได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องด้วยผลของการทดสอบบางทีอาจยังไม่ถูกต้องเพียงพอที่จะสรุปประสิทธิภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิตในผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูง ก็เลยยังจึงควรเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อรับรองประสิทธิภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมแล้วก็การเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังคลุมเครือรวมทั้งยังคงเป็นที่คัดค้านกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งสิ้นศชายแล้วก็ผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี และก็เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารลดลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แม้กระนั้น มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือถึงที่กะไว้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งอก มะเร็งปอด หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจะจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นพืชผักประเภทหนึ่งที่อาจมีคุณลักษณะต้านมะเร็ง แต่ยังมีต้นเหตุอื่นๆดังเช่น รูปแบบของสินค้าที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะทำให้พิสูจน์ถึงความสามารถของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ความสามารถของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด หลายๆคนเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส และก็มีการนำมาใช้เพื่อคุ้มครองรวมทั้งทุเลาอาการหวัดมาอย่างนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กลุ่มมีความไม่เหมือนกันเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แม้ผลของการทดลองข้างต้นจะบอกให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดสอบทางคลินิกยังน้อยเกินไปและจึงควรเรียนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้กระจ่างเพิ่มขึ้น
ลดน้ำหนักและก็มวลไขมัน ในผู้เจ็บป่วยภาวะไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีสาเหตุจากโรคอ้วน โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ความดันเลือดสูง และก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจไม่เพียงพอ ถ้าเกิดไม่ดูแลหัวข้อการทานอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมจึงบางทีอาจเป็นลู่ทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์รวมทั้งสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะปกป้องภาวการณ์อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดศชายและก็ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งมวล 110 คน กินกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่รับประทานกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับและคุ้มครองปกป้องหรือชะลอการเกิดภาวการณ์ไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการเล่าเรียนในอนาคตยังต้องวางแบบการทดสอบให้ดีขึ้นและควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับในการทดลองเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้แจ้งชัดยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงมีความขัดแย้ง จึงทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบและก็การเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวเนื่องปริมาณ 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้เล็กน้อย แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือเปล่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงอะไร ก็เลยยังจำต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเพื่อหาข้อสรุปรวมทั้งรับรองสมรรถนะของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่กระจ่างยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างจะปลอดภัยถ้ากินในปริมาณที่สมควร แต่อาจจะเป็นผลให้เกิดผลใกล้กันได้ ยกตัวอย่างเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก ท้องขึ้น อ้วก อาเจียน หรือท้องเดิน อาการเหล่านี้บางทีอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด อีกทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนและเคืองได้
ข้อควรระวังในการกินกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมบุตร การรับประทานกระเทียมในตอนการมีครรภ์ค่อนข้างจะปลอดภัยแม้กินเป็นอาหารหรือในจำนวนที่เหมาะสม แต่ว่าบางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้าเกิดรับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการมีท้องหรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการแสบร้อนและก็ระคาย
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจจะทำให้มีการเคืองที่ทางเดินอาหารได้
คนที่มีความดันเลือดต่ำ การกินกระเทียมอาจก่อให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลงมากกว่าธรรมดา
ผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนที่จะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์ด้วยเหตุว่าอาจส่งผลให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และก็คนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ปกติไม่ควรกินกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด ด้วยเหตุว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะเหตุว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและส่งผลต่อความสามารถการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุมกำเนิด
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า