รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 569 ครั้ง)

jacl598845

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
    • ดูรายละเอียด


เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้ที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้ป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังกล่าวข้างต้นมีส่วนในการยัยยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้มากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แต่ว่ายังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่สนับสนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบการค้นคว้าที่ศึกษาเล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้เจ็บป่วยสนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดรักษาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกจากนี้ จาการทวนงานศึกษาเรียนรู้พบว่ามีงานศึกษาวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของคนป่วยให้ และก็ในขณะเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงอาจจะบอกได้ว่า หลักฐานทางคุณลักษณะแล้วก็ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้เป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแต่การทดสอบในคนป่วยบางกลุ่มเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะจัดการทดลองต่อไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แจ้งชัดและมีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาคนป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบทางเท้าปัสสาวะ
มีขั้นตอนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนเจ็บเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการเยี่ยวขัดข้อง ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 อาทิตย์ คำตอบที่ได้เป็น ผู้ป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับเพื่อการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบปัญหา แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ การทดลองดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างแจ้งเพียงพอ จำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แน่ชัดสำหรับเพื่อการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพอะไรก็ตามที่เกี่ยวพัน
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้ป่วยเบาหวานจำพวก 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะช่วยเหลือผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับเพื่อการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาเรียนรู้วิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงความสามารถของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและก็การดูแลและรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจต่อไป รวมถึงให้ได้ความแน่ชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงแล้วเยอะขึ้น อันเป็นผลดีต่อขั้นตอนการรักษาคุ้มครองโรคเส้นโลหิตหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องถัดไปในอนาคต
จำนวนที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งเด่นชัด เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนั้น ผู้บริโภค ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนการบริโรค เนื่องจากว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างอาจส่งผลใกล้กันที่เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้เหมือนกัน

โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันเป็นต้นว่า
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นผู้ใช้ก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และหารือแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรระมัดระวังในด้านจำนวนแล้วก็รูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะบางทีอาจเป็นผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในวันหลัง
โดยข้อพึงระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือได้แก่
ลูกค้าทั่วไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจส่งผลให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ยกตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์แพร่พันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ต้องระวังสำหรับในการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร หากแม้ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แต่ว่าผู้ที่มีท้องรวมทั้งคนที่กำลังให้นมลูกควรจะเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนรวมทั้งลูกน้อย
คนที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะฉะนั้น เพื่อลดการเสี่ยง คนป่วยควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจทำให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว คนเจ็บภาวการณ์ความดันเลือดต่ำจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุนี้คนไข้ภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกผิดปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ป่วยบางราย โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่มีภาวะเลือกออกผิดปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ
บันทึกการเข้า