รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ  (อ่าน 500 ครั้ง)

qq111111

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด


บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังสงครามอยู่หรอ เปล่านะครับ บุกในที่นี้มิได้ถึงข้าศึกบุก แต่หมายความว่าหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก แล้วก็ที่จำเป็นต้องหนี ไม่ใช่คนใดกันแน่ที่ไหน แต่เป็นโรคฮอตฮิตในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่ต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นเป็น หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็ไม่ได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับทุกๆวันนี้เพราะจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชท้องถิ่นอยู่ดี  คนในแคว้นก็นำบุกมาประกอบอาหาร ราวกับเผือก เสมือนมันทั่วไปเพียงพอเริ่มมีคนมาวิจัย   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยเปลี่ยนเป็นพืชสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยม มีการแปรรูปเป็นรูปแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก รวมทั้งอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกคนมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบลึกซึ้งมารู้จะบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นภูตผีปิศาจ  น่ากลัวนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อสกุล    ARACEAE
ชื่อตามท้องถิ่น  :  บุกระอุงคก (จังหวัดชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
พวกเราพบบุกถึงที่เหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่เจอทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นกับตาม ป่าเขา รวมทั้งบางครั้งบางคราวก็เจอตามพื้นที่ ปลูกข้าว ยกตัวอย่างเช่นที่ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ฯลฯ บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิด แม้กระนั้นจะเจริญวัยได้ดิบได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินซึ่งร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
ลักษณะของต้นบุก
ลักษณะของต้น บุก ชี้ให้เห็นส่วนประกอบเป็นใบบุก และก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ลักษณะเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่โดยประมาณ 25 ซม. (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แม้กระนั้นบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางจำพวกมีก้านใย เป็นลวดลายบางประเภทมีหนามอ่อนๆ หรือบางครั้งบางคราวบุกบางชนิดก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่มากมายมากมาย  แม้กระนั้นที่เด่นๆดูง่ายว่าเป็บุกคือ จะมีก้านตรงจากกึ่งกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นด้านบนราวกับหงายร่ม ดังนั้นลักษณะของใบบุก มีหลายแบบอย่างขึ้นกับชนิดของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าโค แต่ละจำพวกมีขนาด สี และก็รูป ทรงต่างกัน บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยยิ่งไปกว่านั้นบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเสมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกลางหัวบุก เหมือนกันกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่ว่าบุกสามารถมีดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับการแก่เต็มกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็แตกต่างกัน
 ผลบุก (อย่างงมากกับหัวบุกนะ ) ภายหลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเกิดผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง พอเพียงอายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกัน แม้กระนั้นเม็ดข้างในแตกต่าง พบว่าโดยมากมีเม็ดเป็นทรงอูมยาว  บุกบางชนิดก็มีเม็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม

บุกกับการนำมาทำกับข้าว
เป็นพืชของกินประจำถิ่นซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงแก้ไขตามแต่ละภูมิภาค อย่างเช่นทางภาคอีสาน มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะชาวดอย มักนำมา ปิ้งรับประทาน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งและหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปทำเป็นของว่าง
*บุกมีหลายชนิดหลายชนิด อาจขมแล้วก็เป็นพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งที่ก้านใบแล้วก็หัว ซึ่งอาจจะก่อให้คัน ก่อนนำมาทำอาหารต้องต้มเสียก่อน ไม่อย่างนั้นรับประทานเข้าไปทำให้คันปากแล้วก็ลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง ในลักษณะของเส้นบุก ซึ่งคือสินค้าแปรรูปจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าผู้ใดเคยไปรับประทานเนื้อย่างคงจะเคยพบบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆแต่ก่อนเป็นเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าหากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาด้วยนะครับ)
คุณประโยชน์ของบุก
จากการเรียนพบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 2 ชนิด คือ ดี-กลูโคส (D-glucose) และ (D-mannose) เป็นสารที่มีสาระต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ว่าร่างกายเสื่อมสภาพได้ยาก ซึมซับได้ช้า จึงให้พลังงานและก็สารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายปฏิบัติงานดี ผู้ที่อยากได้ลดหุ่นนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก ตัวอย่างเช่น วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก ด้วยเหตุว่ารับประทานอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ว่าไม่ทำให้อ้วน
นอกเหนือจากนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความรั้ง ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส ด้วยเหตุนั้น กลูวัวแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามากมาย เดี๋ยวนี้จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน และก็สำหรับคนป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับเป็นประโยชน์จากบุก ลองหามาทานกันครับ มีคุณประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว แนะนำมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับ ยืนยันอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/

Tags : สมุรไพรบุก
บันทึกการเข้า