รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 589 ครั้ง)

one005464a5

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • ดูรายละเอียด


ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ด้านนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาทำอาหารเนื่องจากว่าส่งกลิ่นหอม ยิ่งไปกว่านี้ ขิงยังคงใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งตัวทั้งหลายแหล่ด้วยเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนาน ดังเช่น โรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก เบื่ออาหาร
คุณสมบัติของขิงมั่นใจว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอ้วกรวมทั้งลดการอักเสบ โดยนักวิจัยส่วนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะรวมทั้งไส้ แล้วก็สารนี้บางทีอาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แต่ข้อสันนิษฐานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังกำกวมนัก รวมทั้งคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ช่วงนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่บางทีอาจเห็นผล
อาการอาเจียนอาเจียนที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง สรรพคุณบรรเทาอาการอาเจียนอ้วกของขิงอาจมีคุณประโยชน์ต่อคนเจ็บโรคนี้ที่อยากได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเล่าเรียนผู้เจ็บป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งหมดทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอาเจียนที่เกิดขึ้นจากการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอ้วกภายหลังการผ่าตัด ขิงอาจช่วยทุเลาอาการอาเจียนและก็อาเจียนจากการผ่าตัดได้อย่างเดียวกัน โดยการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกคลื่นไส้ที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าหนึ่งทดลองแบ่งผู้เจ็บป่วยจำนวน 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้รับประทานแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่ว่าแบ่งให้ 2 ครั้งก่อนผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์พบว่าคนไข้ในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอาเจียนอาเจียนน้อยครั้งรวมทั้งมีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้ความสามารถสูงสุดเมื่อกินเป็นประจำและก็เป็นประจำโดยแบ่งปริมาณการใช้
นอกจากนี้ การทดลองทาน้ำมันขิงรอบๆข้อมือของคนเจ็บก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองป้องกันอาการอ้วกในคนไข้ราวๆ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งสิ้น ทว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอาเจียนอาเจียนร่วมกับยาลดคลื่นไส้อาเจียนนั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการใช้ขิงกับคนเจ็บที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอาเจียนคลื่นไส้น้อยอยู่รวมทั้งบางทีอาจไม่ได้เรื่องเหมือนกัน
อาการแพ้ท้อง การกินขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง เป็นต้นว่า คลื่นไส้ คลื่นไส้ หรือเวียนหัว ผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณลักษณะนี้เป็นการทดสอบในหญิงที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 20 อาทิตย์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกวันนานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้จะเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารแล้วก็ตาม หลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเสมอกันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้แสดงให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้ผลดีในฐานะการดูแลและรักษาหนทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการอาเจียนอาเจียนในหญิงท้องที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ แม้กระนั้นการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้อาเจียนอ้วก ยิ่งกว่านั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดแล้วก็พบผลที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจไม่ได้มีส่วนช่วยสำหรับการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการหน้ามืดศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการอาเจียนนี้บางทีอาจทุเลาให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานศึกษาวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะบ้านหมุน และตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการเวียนหัวหัวได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก แต่ว่าไม่ได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีคุณประโยชน์ลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้คนเจ็บรับประทานสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อหัวเข่าภายหลังการดูแลรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บข้างหลังเดิน รวมทั้งอาการข้อติด
ยิ่งไปกว่านี้ มีการเรียนรู้เทียบคุณภาพระหว่างขิงรวมทั้งยาแก้ปวด โดยให้คนไข้โรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกและก็ข้อหัวเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มก.วันแล้ววันเล่า วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลทุเลาอาการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง และก็ยังมีงานค้นคว้าวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มอาจช่วยบรรเทาอาการปวดแล้วก็อ่อนเพลียที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนไข้ที่มีลักษณะอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดระดู นอกจากลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยทุเลาลักษณะของการปวดประจำเดือน ยกตัวอย่างเช่น การทดลองในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงทีละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีประจำเดือนสม่ำเสมอไปจนถึง 3 วันแรกของการมีเมนส์ รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของอาการปวดระดูได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนรู้เทียบสมรรถนะของขิงและยาลดอาการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มิลลิกรัม ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละชนิดในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู ผลสรุปปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานค้นคว้าแรกหมายถึงขิงมีคุณภาพบรรเทาความร้ายแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนไม่มีความต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การรักษาที่อาจไม่ได้ผล
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการเอ๋ยถึงกันมากมาย ทว่าแม้ขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการตาลายได้ แต่ว่าสำหรับเพื่อการหน้ามืดอ้วกที่เกิดจากการเดินทางนั้น งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยโดยมากบอกว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง อาทิเช่น การแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอ้วกและวิงเวียนลดลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับเล็กน้อยเท่านั้น หรือในอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับในการคุ้มครองป้องกันอาการเมารถหรือหลักการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวเนื่องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลและรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานพอเพียงต่อการเจาะจงความสามารถ
อาการอ้วกคลื่นไส้จากกระบวนการทำเคมีบรรเทา อีกหนึ่งคุณประโยชน์เป็นลดอาการคลื่นไส้แล้วก็อาเจียน ซึ่งมีการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ แม้กระนั้นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้ป่วยรับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดรักษานานต่อเนื่องตรงเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการดูแลและรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่มิได้กินแคปซูลขิง แต่ได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่กินแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า มีความหมายว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากก็เลยบางทีอาจมิได้ทำให้อาการคลื่นไส้ดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ดี มีหลักฐานที่ถกเถียงข้อเกื้อหนุนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นซึ่งเป็นงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่เผยว่าการกินขิงไม่ได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อาเจียน ทั้งนี้ ผลการค้นคว้าที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นสายปลายเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นแตกต่างกัน รวมทั้งขณะที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลหรือไม่คงจะควรมีการรับรองเพิ่มอีกต่อไป
โรคเบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนป่วยโรคเบาหวานในตอนนี้ยังส่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน การวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และก็อาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางจำพวกจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยอื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาวิจัยพูดว่าขิงส่งผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลง ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่แตกต่างนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือระยะเวลาที่คนป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการวิจัยเรียนสมรรถนะของขิงในคนเจ็บที่มีลักษณะอาการของกินไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้กินแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังการละของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารและก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่การกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจเจาะจงได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่นอนเพียงใด
อาการแฮงค์ เช้าใจกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการแฮงค์ซึ่งได้ผลสำเร็จข้างๆจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีการค้นคว้าเมื่อก่อนที่ชี้แนะว่าการผสมขิงกับเปลือกภายในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในคราวหลัง รวมถึงอาการอาเจียน อ้วกและท้องร่วง อย่างไรก็แล้วแต่ การเรียนรู้ดังที่กล่าวมาข้างต้นยังนับว่ากำกวมอยู่มากมายและไม่อาจรับประกันได้ว่ามีต้นเหตุมาจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ทีละ 1 กรัม คำตอบบอกว่าเมื่อเทียบกับคนป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาคนป่วยสภาวะนี้ได้หรือเปล่าคงจะจำต้องรอคอยการศึกษาในอนาคตที่เด่นชัดกันต่อไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยหรือเปล่านั้นยังคงกำกวมและเป็นที่โต้วาทีกันอยู่เหมือนกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมโดยตลอดนาน 11 วัน พบว่าอีกทั้งขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนกระทั่งระดับมากมาย
แต่ว่าอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งกลับพบผลลัพธ์ตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในช่วง 1 วันและ 48 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกาย พบว่ามิได้ทำให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดจากการบริหารร่างกายลดลง แต่นักวิจัยพบว่าการรับประทานขิงบางทีอาจช่วยให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อค่อยๆดียิ่งขึ้นในทุกๆวัน หากแม้อาจมองไม่เห็นผลตอบแทนโดยทันที
อาการปวดหัวไมเกรน มีการเรียนกับคนเจ็บ 100 คน ที่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนกระทันหันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า