รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 488 ครั้ง)

asf24a8xcv4

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • ดูรายละเอียด


ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ข้างนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาประกอบอาหารด้วยเหตุว่าส่งกลิ่นหอม นอกจากนี้ ขิงยังใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และก็เครื่องแต่งหน้าทั้งหลายเหมือนกัน ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน ดังเช่น โรคเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อาเจียน เบื่ออาหาร
คุณสมบัติของขิงมั่นใจว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอาเจียนและก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าโดยมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารแล้วก็ลำไส้ แล้วก็สารนี้อาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอาเจียนด้วย แต่การสันนิษฐานดังที่กล่าวถึงแล้วยังไม่กระจ่างนัก รวมทั้งคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงต่อร่างกายที่พวกเราเชื่อกันนั้น บัดนี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังนี้
การรักษาที่บางทีอาจสำเร็จ
อาการอ้วกคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาต้านทานไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์ทุเลาอาการอ้วกอาเจียนของขิงอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้เจ็บป่วยโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเล่าเรียนผู้เจ็บป่วยจำนวน 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านทานรีโทรไวรัส ตรงเวลาทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกที่เกิดจากการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอาเจียนอ้วกภายหลังจากการผ่าตัด ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการอาเจียนแล้วก็อ้วกจากการผ่าตัดได้อย่างเดียวกัน โดยการเล่าเรียนทางวิทยาศาสตร์ส่วนมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งทดลองแบ่งผู้เจ็บป่วยปริมาณ 122 คนที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแต่ว่าแบ่งให้ 2 คราวก่อนผ่าตัด ซึ่งผลสรุปพบว่าคนไข้ในกลุ่มหลังมีอาการคลื่นไส้คลื่นไส้น้อยครั้งและก็มีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกินเป็นประจำและบ่อยโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดลองทาน้ำมันขิงรอบๆข้อมือของคนเจ็บก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการอาเจียนในคนป่วยโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมด แต่การใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกอ้วกนั้นบางทีอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับคนเจ็บที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอ้วกอ้วกน้อยอยู่และก็อาจไม่เป็นผลเหมือนกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ยกตัวอย่างเช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนหัว ผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุท้องต่ำยิ่งกว่า 20 อาทิตย์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องวันแล้ววันเล่านานอย่างน้อย 1 อาทิตย์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้ว่าจะเปลี่ยนการทานอาหารและตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลลัพธ์ได้ทำให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้ผลดีในฐานะการดูแลรักษาหนทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการคลื่นไส้อ้วกในหญิงมีครรภ์ที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ แม้กระนั้นการใช้ขิงสำหรับคุณค่าด้านนี้อาจเห็นการรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้อาเจียนคลื่นไส้ ยิ่งกว่านั้น การเรียนเกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดและพบผลลัพธ์ที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องเหมือนกัน
อาการหน้ามืดศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมด้วยการคลื่นไส้นี้บางทีอาจบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากการค้นคว้าที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการเวียนหัวหัวได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แม้กระนั้นไม่ได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนรู้บางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยรับประทานสารสกัดจากขิง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อเข่าภายหลังจากการดูแลและรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับเพื่อการช่วยลดลักษณะการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเดิน และอาการข้อติด
นอกจากนั้น มีการเล่าเรียนเปรียบเทียบสมรรถนะระหว่างขิงรวมทั้งยาพารา โดยให้คนเจ็บโรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกแล้วก็ข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกเมื่อเชื่อวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลบรรเทาลักษณะของการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง แล้วก็ยังมีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดและก็เหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดเมนส์ เว้นเสียแต่อาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยทุเลาอาการปวดประจำเดือน ดังเช่นว่า การทดลองในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีระดูสม่ำเสมอไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีรอบเดือน รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดเมนส์ได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการศึกษาเปรียบเทียบสมรรถนะของขิงและยาลดลักษณะของการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละประเภทในปริมาณ 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู ผลปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาเรียนรู้วิจัยแรกเป็นขิงมีคุณภาพบรรเทาความรุนแรงของลักษณะของการปวดระดูไม่มีความแตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่บางทีอาจไม่ได้ผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการเอ๋ยถึงกันมากมาย แต่ว่าหากแม้ขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แต่ว่าในการเวียนหัวคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการเดินทางนั้น งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยโดยมากกล่าวว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง เช่น การแบ่งกรุ๊ปให้ผู้เรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่กินขิงนั้นมีอาการอาเจียนรวมทั้งตาลายลดลงจริงแต่อยู่ในระดับน้อยเท่านั้น หรือในอีกงานวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยในการคุ้มครองอาการเมารถหรือการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวข้องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลและรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการระบุสมรรถนะ
อาการอ้วกอาเจียนจากการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งคุณประโยชน์คือลดอาการอ้วกและอ้วก ซึ่งมีการศึกษาเล่าเรียนทางวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนป่วยที่รับเคมีบำบัดนั้นยังเป็นที่คัดค้านกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยรับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดนานตลอดตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นภายหลังการดูแลและรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่มิได้กินแคปซูลขิง แต่ได้ผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับได้ผลน้อยกว่า แปลว่าการกินขิงในจำนวนมากจึงบางทีอาจไม่ได้ทำให้อาการอ้วกดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่โต้วาทีข้อสนับสนุนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วซึ่งเป็นงานค้นคว้าวิจัยที่เปิดเผยว่าการกินขิงมิได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ทั้งนี้ ผลวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีมูลเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นแตกต่างกัน รวมถึงช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลหรือเปล่าอาจจะจะต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกถัดไป
โรคเบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนเจ็บโรคเบาหวานในขณะนี้ยังมีผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน งานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด แล้วก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 และก็บางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางจำพวกจากโรคเบาหวานได้ ในเวลาเดียวกัน มีงานศึกษาเรียนรู้อื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่กลับไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยบอกว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ซึ่งผลการค้นคว้าที่ต่างกันนั้นอาจมาจากปริมาณขิงหรือช่วงเวลาที่คนเจ็บได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดลองนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการวิจัยศึกษาคุณภาพของขิงในผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการอาหารไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการเลิกอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยของกินแล้วก็มีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ทว่าการรับประทานขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวพันกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้ร่วมการทดลองนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจกำหนดได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่ๆแค่ไหน
อาการเมาค้าง เชื่อกันว่าการกินน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการแฮงค์ซึ่งสำเร็จข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับประโยชน์ข้อนี้มีการค้นคว้าเมื่อนานมาแล้วที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในตอนหลัง รวมถึงอาการอ้วก อ้วกและท้องเดิน แต่ การศึกษาดังที่กล่าวถึงมาแล้วยังถือว่าคลุมเครืออยู่มากและไม่บางทีอาจรับรองได้ว่าเกิดขึ้นจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลลัพธ์บอกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีจนกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้รักษาคนเจ็บภาวการณ์นี้ได้ไหมอาจจะต้องรอการศึกษาเล่าเรียนในอนาคตที่ชัดแจ้งกันถัดไป
ลักษณะการเจ็บกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดและก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงไม่ชัดแจ้งและก็เป็นที่คัดค้านกันอยู่เช่นกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 124 ชั่วโมง พบว่าขิงสดและขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมาก
แต่ว่าอีกการค้นคว้าวิจัยหนึ่งกลับพบผลในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงและ 48 ชั่วโมงภายหลังจากการออกกำลังกาย พบว่าไม่ได้ส่งผลให้อาการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายลดลง แต่นักวิจัยพบว่าการกินขิงอาจช่วยทำให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเบาๆในแต่ละวัน ถึงแม้บางทีอาจไม่เห็นผลประโยชน์โดยทันที
อาการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนกับผู้ป่วย 100 คน ที่เคยมีอาการปวดศีรษะไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง
บันทึกการเข้า