1. สาย RG59 เป็นสายนำสัญญาณภาพเหมือนกันกับสาย RG6 แต่สาย RG59 จะมีขนาดที่เล็กกว่าสาย RG6 และมีความยืดยุ่นสูงกว่า โดยข้อความสายเส้นเล็กกว่า แต่สาย RG59 กล้องวงจรปิดนครนายก
จะนำสัญญาณภาพได้ในระยะที่สั้นกว่าสาย กว่าคือสาย RG59 นำเครื่องแสดงภาพได้ไกลไม่เกิน 200 เมตร เพราะสาย มีการลดทอนของสัญญาณภาพ เพราะสายมีขนาดแอสุด นั่้นเอง สาย RG59 สัญญาณกันขโมยนครนายก
จะเหมาะกับใช้งานภายในอาคาร ในลิฟท์ เพราะมีสายมีขนาดเล็กและมีความยืดยุ่นได้ดี ไม่แบบสำหรับช่างกล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดนครนายก ร้านกล้องวงจรปิดนครนายก
2. สาย RG6 สายแบบนี้เป็นสายนำสัญญาณภาพ การตั้งกฎเกณฑ์นำมาใช้งานในหมู่ นำสัญญาณภาพแบบต่างๆ TV, เคเบิ้ล, จานดาวเทียม, กล้องวงจรปิด และ ระบบ Audio/Video กล้องวงจรปิดนครนายก
นิยม นำมาใช้งานกับระบบกล้องวงจรปิด CCTV มากที่สุดอีกด้วย ซึ่งสาย RG6 ในปัจจุบันนำสัญญาณภาพได้ไกลไม่เกิน 400-700 เมตรมีอยู่เกรดด้วยกัน แต่สาย RG6
ที่ควรนำมาใช้งานใน กล้องวงจรปิด นั้นควรจะเป็นสาย RG6 ที่มีคุณภาพสูง มี Shield ป้องกันสัญญาณสูง 95% เพราะหากนำสายที่มีคุณภาพต่ำ มี Shield แค่ 60%-80% สัญญาณกันขโมยนครนายก
มาใช้งานอาจจะทำให้ได้คุณภาพของภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาไม่ดี เมื่อใช้งานไปนานๆแล้ว อาจจะทำให้เกิดสัญญาณภาพไม่ดี สาย RG6 จะมีทั้งแบบที่เป็น Shield
ทองแดง และ อลูมิเนียม ทั้งนี้ขึ้นอยู่สถานที่และต่ำแหน่งกล้องวงจรปิดที่จะใช้ในการติดตั้ง ว่ามีอยู่ ณ จุดใด หากเป็นจุดที่เดินสายในระยะไกลประมาณ 700 เมตรขึ้นไปก็ควรจะใช้สายที่เป็น
ทองแดง แต่ถ้าหากกล้องวงจรปิด ในจุดนั้นเดินสายไกลไม่เกิน 400 เมตร ก็ใช้สายที่เป็น Shield ร้านกล้องวงจรปิดนครนายก
อะลูมิเนียมได้ สาย RG6จะมีทั้งสีดำ และ สีขาว ซึ่งสาย สีขาวจะแบบใช้งานภายในอาคาร เพราะสายสีขาวไม่ชั่วกาลนานต่อแสงแดง สาย RG6
สีขาวส่วนใหญ่จะเป็นสายเกรดต่ำ ฉนวนหุ้มสายที่เป็นสีขาวนั้นยุ่ย-ขาดได้ง่าย ส่วนสีดำนั้น จะเป็นสายที่มีเกรดสูงกว่าสายสีขาว ทนทานต่อแสงแดดได้ดี ร้าน
กล้องวงจรปิดนครนายกไม่เปื่อย-ขาดง่าย ทนทานต่อความร้อนได้ แต่ก็จะมีราคาแพงกว่าสายสีขาว สายที่นิยมมาใช้ในระบบกล้องวงจรปิดนั้นจะใช้สายสีดำมีชีวิต ทั้งภายในและภายนอกอาคาร สัญญาณกันขโมยนครนายก
เนื่องจากมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และ ทนทานมากกว่าสาย RG6 สีขาวและปัจจุบัน มีสายไฟฟ้าเลี้ยงกล้องเลยซึ่งนิยิมาก กว่าสายธรรมดาที่ไม่มีสายไฟเลี้ยง งายสำหรับช่าง กล้องวงจรปิด
จังหวัดนครนายก
เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย มากตั้งขึ้นครั้งล่าสุดโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครนายก พุทธศักราช 2489 ซึ่งมีผลใช้บีบตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489
ด้านอุตุนิยมวิทยาจัดอยู่ในภาคตะวันออก
จังหวัดนี้ตั้งอยู่ที่ละติจูดที่ 14 องศาเหนือ และลองจิจูดที่ 101 องศาตะวันออก มีระยะทางจากจากกรุงเทพมหานครตามถนนรังสิต-นครนายก (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305) ผ่านอำเภอองครักษ์ถึงจังหวัดนครนายก ระยะทาง 105 กิโลเมตร
มีเนื้อที่ประมาณ 2,122 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 1,326,250 ไร่
สันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองสมัยทวารวดี มีหลักฐานแนวกำแพงเนินดินและสันคูอยู่ที่ตำบลดงละคร แต่นครนายกนั้นปรากฏหลักฐานในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2437 รัชกาลที่ 5
ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็นมณฑล นครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรีจนเมื่อปี พ.ศ. 2445 ทรงเลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมืองและให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นแทน ในช่วง พ.ศ. 2486-2489
นครนายกได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรีและสระบุรี หลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระ
บันทึกจากอดีต
จังหวัดนครนายก ระหว่างปี พ.ศ. 2382 - 2386 ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างประเทศคือ บาทหลวงปาเลอกัวซ์ และ ดาเวนพอร์ท เดินทางมาถึงเมืองนครนายก และได้บันทึกว่า
เมืองนครนายกมีพลเมืองประมาณ 5,000 คน ส่วนมากเป็นชาวลาว และมีชาวสยามอยู่ด้วย ราษฎรประกอบอาชีพในการปลูกข้าวและหาของป่าส่งไปขายที่กรุงเทพ
การปกครองแบ่งออกเป็น 4 อำเภอ 41 ตำบล 403 หมู่บ้าน
อำเภอเมืองนครนายก
อำเภอปากพลี
อำเภอบ้านนา
อำเภอองครักษ์
ที่มาของชื่อ
ที่มาของชื่อนครนายกนั้นไม่ชัดเจนทางประวัติศาสตร์ แนวคิดหลักของที่มาของชื่อมีดังนี้
จังหวัดนครนายกเดิมชื่อบ้านนาแต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดนครนายก ในสมัยกรุงศรีอยุธยาดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่ดอนทำนา หรือทำการเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผล
มีไข้ป่าชุกชุมผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่นจนกลายเป็นเมืองร้าง
ต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมืองจึงโปรดให้ยกเลิกภาษีค่านา เพื่อจูงใจให้ชาวเมืองอยู่ที่เดิมทำให้มีคนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นชุมชนใหญ่ และเรียกเมืองนี้จนติดปากว่า
เมืองนา-ยก ภายหลังจึงกลายเป็นนครนายกจนทุกวันนี้
สมัยก่อนรัชกาลที่ 5 การปกครองส่วนภูมิภาคถูกแบ่งเป็นสมุหนายกและสมุหกลาโหม โดยสมุหกลาโหมปกครองทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารในหัวเมืองด้านใต้
และสมุหนายกปกครองทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารในหัวเมืองด้านเหนือ พื้นที่เดิมของจังหวัดนครานายกนั้นเป็น
พื้นที่ที่เคยอยู่สังกัดกับสมุหกลาโหมแต่ถายหลังถูกโอนให้อยู่ภายใต้การดูแลของสมุหนายก พื้นที่ตรงนี้จึงได้ชื่อว่านครนายกนับแต่นั้นเป็นต้นมา