รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: หอมเเดง มีสรรพคุณเเละประโยชน์ที่น่าทึ่งมากๆ  (อ่าน 569 ครั้ง)

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด


หอมแดง
ชื่อสมุนไพร  หอมแดง
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น หอมไทย,หอมเล็ก,หอมหัว หอมแดง(ภาคกลาง), หอมปั่ว ,หมอแดง (ภาคเหนือ) , หัวหอมแดง (ภาคใต้) , ฝักบั่ว (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) , ปะเซ้ส่า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ปะเซอก่อ (กะเหรี่ยง-ตาก) , ซัง , ตังซัง (จีน)
ชื่อสามัญ  Shallot
ชื่อวิทยาศาสตร์  Allium ascalonicum Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Allium carneum Willd., Allium fissile Gray, Allium hierochuntinum Boiss., Porrum ascalonicum (L.) Rchb.
ตระกูล             Amaryllidaceae
บ้านเกิดเมืองนอน หอมแดง เป็นพืชขนาดเล็กที่ปลูกไว้เพื่อบริโภคส่วนของหัวหรือบัลบ์ นิยมใช้สำหรับการทำกับข้าว และเป็นสมุนไพร ทั้งนี้หอมแดง มีถิ่นเกิดเริ่มแรกในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่าอยู่ในแถบประเทศทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน รวมทั้งประเทศอิหร่าน โดยเชื่อกันว่าหอมแดงกลายพันธุ์ตามธรรมชาติมาจากหอมหัวใหญ่และมีการคัดเลือกประเภทเพื่อนำมาปลูกเป็นพืชของกิน ในจีนรวมทั้งอินเดียและมีการกระจายจำพวกไปทั่วโลก ซึ่งได้มีการเขียนบันทึกไว้ ในช่วงคริสตวรรษที่ 12 ปัจจุบันนี้การปลูกหอมแดงได้แพร่หลายไปทั้งโลก แต่ว่าก็ยังมีการบริโภคน้อยกว่าหอมหัวใหญ่อยู่  หอมแดง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในแถบเอเซียอาคเนย์ โดยในประเทศไทยพบว่ามีการปลูกมากมายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและก็ทางภาคเหนือ แต่หอมแดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีก็ได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ
ลักษณะทั่วไป
ใบ ใบแทงออกมาจากลำต้นหรือหัว มีลักษณะเป็นหลอดกลม ภายในกลวง มีสารสีนวลเป็นไขฉาบผิวใบ ใบมีลักษณะตั้งชันสูงราว 15-50 เซนติเมตร แตกออกเป็นชั้นถี่ 5-8 ใบ ใบอ่อนสดของหอมแดงใช้สำหรับการบริโภค
ส่วนหัวหรือบัลบ์ หัวหรือบัลบ์เป็นส่วนของกาบใบที่เรียงทับกันแน่นจากข้างในของหัวออกมา เป็นแหล่งสะสมอาหาร แล้วก็น้ำ มีลักษณะเป็นกระเปาะ เรียกว่า Bulbs มีลำต้นด้านใน มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆสีขาว ซึ่งเป็นที่เกิดของหัวหอม หัวหอมจะแตกใหม่ออกมาจากหัวเดิม โดยเฉลี่ย 2 - 20 หัวต่อกอ เส้นผ่านศูนย์กลางของหัวราวๆ 1.5-3.5 ซม.
ต้น ต้นที่เห็นเหนือดินเป็นส่วนที่อยู่ต่อจากบัลบ์ จัดเป็นลำต้นเทียมที่เกิดขึ้นจากกาบใบเรียงอัดกันแน่น ถัดมาก็เลยเป็นส่วนของใบ
ราก รากหอมแดงเป็นระบบรากฝอยเยอะๆ งอกออกมาจากข้างล่างของต้น มีลักษณะเป็นกลุ่มรวมกันที่ตูดหัว และก็แพร่ลงดินลึกในระดับตื้นโดยประมาณ 10-15 เซนติเมตรรวมทั้งแผ่รอยต้นราว 5-10 เซนติเมตร
การขยายพันธุ์ หอมแดงสามารถแพร่พันธุ์ได้ 2 วิธี คือ การใช้ส่วนหัวพันธุ์ (sets) และการใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds) การใช้หัวพันธุ์ (sets) เป็นวิธีของเกษตรกรที่นิยมปฏิบัติกันมานาน หัวหอมแดงที่จะปลูกจำเป็นต้องผ่านการพักตัวมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน จึงจะปลูกได้  การใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds)  เป็นแนวทางที่ลดต้นทุนในการผลิตสำหรับในการซื้อหัวจำพวกที่ราคาแพงแพง สำหรับวิธีการปลูกหอมแดงนั้นมีดังนี้
การเตรียมแปลงปลูก หอมแดงเป็นพืชที่มีระบบรากสั้น มีขอบเขตรากลึกราวๆ 10-15 เซนติเมตร โดยเหตุนั้น ในระดับความลึกนี้ หอมแดงก็เลยต้องการหน้าดินซึ่งร่วนซุย และมีความชุ่มชื้นบ่อย มีการระบายน้ำ รวมทั้งอากาศดี ไม่อยากดินแน่น โดยเฉพาะระยะที่มีการแตกหัวใหม่ การเตรียมดินให้ร่วนซุยจะช่วยให้หอมแดงเติบโตก้าวหน้า ด้วยการไถพรวนดินคราวแรก ลึก 20 ซม. พร้อมกำจัดวัชพืช ผึ่งแดดทิ้งไว้ 7-15 วัน หลังจากนั้น ไถลูกพรวนดินให้ร่วนด้วยหน้าผานที่เล็กลง ลึก 20-30 ซม. และก็ตากดินก่อนปลูก 3-7 วัน ก่อนไถพรวนครั้งที่ให้หว่านปุ๋ยมูลสัตว์ อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20-30 กิโลกรัม/ไร่ ในช่วงฤดูฝนแปลงปลูกหอมแดงจะต้องชูร่องกว้างราว 1-1.2 เมตร ความยาวขึ้นกับพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกเพื่อให้น้ำฝนระบายออกได้ ระยะห่างระหว่างแปลงจะเว้นไว้ประมาณ 30-50 ซม. เพื่อเป็นทางเท้าสำหรับการให้น้ำหรือกำจัดวัชพืช
ก่อนปลูก 1-3 วัน ควรจะให้น้ำในแปลงให้เปียกแฉะก่อน กรรมวิธีปลูก นำหัวพันธุ์ที่พักตัวการแล้วหรือหัวประเภทที่เก็บไว้นาน 2-4 เดือนหลังจากเก็บเกี่ยว มาตัดรากแห้งออก แยกหัวออกจากกันให้เป็นหัวเดี่ยวๆแล้วฝังหัวลงไปในดินให้ปลายของหัวอยู่เสมอผิวดิน ระยะปลูกที่ 15 x 15 ซม. ปิดฟางดกประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อหอมแดงผลิออกได้ราว 15 วัน ก็เลยหว่านปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 21% อัตรา 10 กิโลกรัม/ไร่ แล้วให้น้ำเช้าเย็นหรือวันละครั้ง สุดแต่สภาพความชื้นของผิวดิน  หอมแดงที่ปลูกจากหัวเก็บเกี่ยวเมื่ออายุประมาณ 60 วัน หอมแดงที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวจำเป็นต้องแก่จัด มีใบแห้งตามธรรมชาติ โดยห้ามใช้สารกำจัดวัชพืชพ่นบังคับให้ใบแห้ง เนื่องจากหัวหอมอาจเน่าเหม็นหายหรือแก่เก็บไว้บริโภคสั้น ก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 10-15 วัน ต้องงดเว้นให้น้ำ รวมทั้งให้น้ำอีหนก่อนเก็บเกี่ยว 24 ชั่วโมง เพื่อหอมแดงถอนได้ง่าย การเก็บเกี่ยวจะใช้แนวทางการมือถอนหรือใช้จอบหรือเสียมขุดร่วมด้วย ข้างหลังการเก็บเกี่ยว หอมแดงจะเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน หลังจากเก็บเกี่ยวบนแปลง ถ้าเกิดเกิน 6 เดือน หัวหอมแดงจะฝ่อไม่สามารถที่จะรับประทานและไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้
                ดังนี้หอมแดงสามารถผสมข้ามพันธุ์ได้ กับหอมหัวใหญ่ ลูกผสมที่เกิดขึ้นมีลักษณะรูปร่างจัดเข้าอยู่ในกลุ่มของหอมหัวใหญ่ (A.cepa)  ส่วนจำพวกหอมแดงที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 3  ชนิด ซึ่งลักษณะก็จะคล้ายกดกันมากมาย
ประเภทศรีสะเกษ เปลือกหัวนอกดก มีสีม่วงแดง หัวมีลักษณะกลมป้อม มีกลิ่นแรง ให้รสหวาน ใบเขียวเข้มมรกต มีนวลจับนิดหน่อย
จำพวกบางช้าง มีลักษณะคล้ายกับชนิดศรีสะเกษ แต่ว่าสีเปลือกจางกว่า หัวมีลักษณะกลมป้อม ใบสีเขียวเข้ม มีนวลจับบางส่วน เป็นประเภทที่ได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าทุกจำพวก
ประเภทเชียงใหม่ มีเปลือกบาง สีส้มอ่อน หัวมีลักษณะกลมรี  กลิ่นไม่ฉุนราวกับจำพวกอื่น ให้รสหวาน หัวจะแบ่งเป็นกลีบแน่ชัด ไม่มีเปลือกหุ้ม ใบสีเขียวมีนวลจับ
องค์ประกอบทางเคมี   หัวหอมมีน้ำมันระเหยง่ายที่มีกำมะถัน diallyl disulphide เป็นส่วนประกอบร่วมกับสารอื่นๆอีกอย่างเช่น Ethanol, Acetonc, methyl Ethyl, Methyl Disulfide, Methyl, Methyl Trisulfide, Methyl I-propyl Trisulfide, I-propyl Trisulfide, Ketone, I-propanol, 2 – propanol, Methanol, I-butanol, Hydrogen Sulfidc, I-propanethiol, I-propyl Disulfide , Thioalkanal-S-oxide, di-n- propyl Disulfide, n- propyl-allyl Disulfide,  Dithiocarbonate และ Thiuram Sulfidc ,Linoleic , flavonoid Glycoside , pectin , alliin ส่วนสารที่ก่อให้เกิดกลิ่นในหัวหอมมีอยู่ 3 จำพวก คือ dipropyl trisulfide, methylpropyl disulfide , methylpropyl disulfide และก็ methylpropyl trisulfide  ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหอมแดงนั้นมีดังนี้

ค่าทางโภชนาการของหอมแดงดิบต่อ 100 กรัม

  • หอมแดงพลังงาน 72 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 16.8 กรัม
  • น้ำตาล 7.87 กรัม
  • เส้นใย 3.2 กรัม
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • โปรตีน 2.5 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.06 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.02 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 0.2 มก.
  • วิตามินบี 5 0.29 มก.
  • วิตามินบี 6 0.345 มก.
  • วิตามินบี 9 34 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 8 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 37 มก.
  • ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมกนีเซียม 21 มก.
  • ธาตุแมงกานีส 0.292 มก.
  • ธาตุฟอสฟอรัส 60 มก.
  • ธาตุโพแทสเซียม 334 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 0.4 มก.


คุณประโยชน์/คุณประโยชน์  สำหรับเพื่อการใช้ประโยชน์จากหอมแดงนั้นส่วนมากกว่า 80% มักจะนิยมนำไปทำครัวทั้งยังอาหารคาว รวมทั้งขนมหวาน รวมถึงนำไปเป็นของเคียง ของอาหารต่างๆอาทิเช่น ข้าวตรอก สเต๊ อื่นๆอีกมากมาย รวมถึง หัวหอม ใบรวมทั้งช่อดอกอ่อน กินเป็นผักสดและก็ปรุงเป็นของกิน หอมทั้งยังหัวแล้วก็ใบ ดอกเปรี้ยวกินเป็นผักจิ้ม
ส่วนสำหรับเพื่อการใช้หัวหอมในด้านสรรพคุณรักษาโรคนั้นมีดังนี้ ตามคุณประโยชน์โบราณของไทยบอกว่า ใบมีรสเค็มหวาน เป็นเมือก ใช้แก้หวัดและก็เลือดกำเดาออก หัวหอมรสเผ็ดร้อน แก้ไข้มีเสลด ใช้ในปริมาณน้อย บำรุงรักษาผมให้เจริญงอกงาม ทำให้ผิวหนังแจ่มใส แก้ไข้ เช็ดทาผิวหนังทำให้ร้อน ขับเสมหะ แก้โรคในปาก บำรุงธาตุ ใช้ข้างนอก
การเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ป้องกันตับและก็ไต       การเล่าเรียนความสามารถสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันความเสื่อมโทรมของตับรวมทั้งไตจากการต่อว่าดเชื้อมาลาเรีย โดยจัดเตรียมสารสกัดหอมแดงอย่างหยาบด้วยน้ำ ต่อจากนั้นนำไปทดสอบฤทธิ์ในหนูถีบจักร สายพันธุ์ ICR ที่ติดเชื้อมาลาเรีย Plasmodium berghei  ANKA ปริมาณ 6x106เซลล์ ต่อหนูทดลอง โดยให้หนูทดลองได้รับสารสกัดทางหลอดอาหารวันละครั้ง ตรงเวลา 4 วันติดต่อกัน รวมทั้งทำการตรวจวัดค่าระบุความทรุดโทรม เป็นต้นว่า ระดับเอนไซม์ตับ aspartate aminotransferase (AST), alanine aminotransferase (ALT) และก็ตัวบ่งชี้รูปแบบการทำงานของไต ได้แก่ blood urea nitrogen (BUN) รวมทั้ง creatinine โดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูป ผลการทดสอบพบว่าความเข้มข้นสูงสุดของสารสกัดหอมแดงที่ไม่ก่อเกิดความเป็นพิษเป็น3,000 มก.ต่อกิโล รวมทั้งในตอนที่มีการติดโรคมาลาเรียนั้นจะเจอความเสื่อมโทรมของตับ และไตเกิดขึ้นในวันที่ 10 หลังจากติดโรคโดยดูได้จากระดับของ AST, ALT, BUN แล้วก็ creatinine ที่สูงที่สุด แต่ว่าสารสกัดหอมแดงที่ขนาด 3,000 มก.ต่อกิโลกรัม สามารถคุ้มครองป้องกันความย่ำแย่ของตับรวมทั้งไต จากการต่อว่าดเชื้อไข้จับสั่นได้โดยมองจากตัวบ่งชี้ที่มีระดับปกติ จากผลการศึกษาเรียนรู้สามารถสรุปได้ว่าสารสกัดหอมแดงมีฤทธิ์คุ้มครองความเสื่อมโทรมของตับและก็ไตจากการติดเชื้อไข้จับสั่นในหนูทดลองได้
ฤทธิ์ต้านอักเสบ       ทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบของส่วนสกัดหัวหอมแดงในเอทานอลในหลอดทดสอบ กระทำทดลองความมีชีวิตรอดของเซลล์ด้วยแนวทาง 3-4,5-dimethylthiazol-2-yl-2,5-dyphenyl tetra-zolium bromide (MTT) ศึกษาผลของส่วนสกัดต่อการแสดงออกของยีนที่เป็นสื่อกลางการอักเสบอาทิเช่น inducible nitric oxide synthase (iNOS), cyclooxygenase (COX)-2, COX-1, tumor necrosis factor (TNF)-α, interleukin (IL)-1β รวมทั้ง IL-6 ในเซลล์เพาะเลี้ยงมาโครฟาจ (RAW 264.7) ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยสาร Lipopolysaccharide (LPS) โดยวัดปริมาณยีนที่แสดงออกด้วยแนวทาง reverse transcription polymerase chain reaction (RT-PCR) พินิจพิจารณาหาจำนวนฟีนอลรวม แล้วก็ฟลาโวนอยด์รวม ของส่วนสกัดโดยใช้ปฏิกิริยาการเกิดสีกับสาร Folin-Ciocalteu และสารอลูมินัมคลอไรด์ เป็นลำดับ ผลการศึกษาวิจัยพบว่าที่ความเข้มข้น 62.5, 125 แล้วก็ 250 ไมโครกรัม/มล. ส่วนสกัดหอมแดงในเอทานอลไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ รวมทั้งมีฤทธิ์ยับยั้งการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวโยงกับการอักเสบยกตัวอย่างเช่น iNOS, TNF-α, IL-1β แล้วก็ IL-6 เพิ่มขึ้นตามความเข้มข้น ส่วนสกัดหอมแดงไม่เป็นผลต่อการแสดงออกของยีน COX-2 แม้กระนั้นยั้งการแสดงออกของยีน COX-1 อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีจำนวนสารฟีนอลรวมคิดเป็น 15.964±0.122 สมมูลกับกรดแกลลิก/กรัม และก็มีปริมาณสารฟลาโวนอยด์รวม 11.742 ±0.012 มก. สมมูลกับสารเคอร์ซิทิน/กรัม
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การทดสอบสารสกัดบิวทานอลจากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มล./แผ่น หรือความเข้มข้นอื่นๆกับ Bacillus subtilis M-45 (Rec-) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ รวมทั้งเมื่อเปลี่ยนมาใช้สารสกัดเอทานอล (95%) จากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มล./แผ่น กับ B. subtilis H-17 (Rec+) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์เช่นกัน นอกจากนั้นการทดลองน้ำสกัดหรือน้ำสุกหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มล./แผ่น กับ B. subtilis M-45 (Rec-) รวมทั้งการทดลอง B. subtilis H-17 (Rec+) ด้วยน้ำสกัดหอมสด ก็พบว่าสารสกัดพวกนี้ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แต่หากใช้ส่วนสกัดจาก chromatography (undiluted) หรือการใช้ oleoresin จากหอม (undiluted) มาทดสอบกับ Salmonella typhimurium TA100 ในจานเพาะเชื้อ พบว่ามีฤทธิ์ แต่เมื่อเอามาทดสอบกับ S. typhimurium TA98 กลับไม่มีฤทธิ์ ใช้สารสกัดเมทานอลทดลองกับ S. typhimurium TA98 พบว่าสารสกัดนี้มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แรง แล้วก็เมื่อศึกษาเล่าเรียนกลไกการเมตา-โบไลท์สารก่อกลายพันธุ์ของหอมภายในร่างกาย พบว่ากลูตาธัยโอน กลูคิวโรนายด์ ไดธัยโอธรีธอล สามารถลดฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมได้ แต่ไวตามินซีไม่เป็นผลต่อฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมอะไร มีการทดลองฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของเครื่องเทศที่ใช้ตระเตรียมน้ำพริกแกง ใน S. typhimurium พบว่าสารสกัดจากหอมมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ถึง 100% ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากสารสำคัญที่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในหอม เมื่อกระทำการแยกและวิเคราะห์สารสำคัญนั้นพบว่า เป็นสารประเภท ฟลาโวนอยด์ เคอร์สิตำหนิน (quercetin) ขึ้นรถสำคัญที่แยกบริสุทธิ์ได้ 1 ตัว พบว่าหมายถึงquercetin-4-0-glycoside สารนี้เป็นสารก่อกลายพันธุ์ฤทธิ์อ่อน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของมันจะสูงมากขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีภายในร่างกาย เมื่อสลายสารนี้ด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี b-glucuronidase ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เจอที่ลำไส้ใหญ่ พบว่าฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้น
พิษต่อเซลล์ ทดลองสารสกัดเมทานอลจากรากหอมสด ความเข้มข้น 200 มคก./มล. กับ macrophage cell line raw 264.7 พบว่าสารสกัดนี้ไม่มีพิษต่อเซลล์ดังกล่าว
ข้อเสนอแนะ/ข้อควรระวัง

  • ตำรายาไทยพูดว่า หัวหอม ไม่ควรกินมากเกินความจำเป็น หรือรับประทานบ่อยๆ เพราะอาจก่อให้ประสาทเสีย ให้หลงลืมได้ง่าย ทำให้มีกลิ่นตัว ฟันเสีย เลือดน้อย รวมทั้งตาฝ้ามัวไม่แจ่มใส
  • สำหรับการเลือกหอมแดงมาใช้ประโยชน์ควรจะเลือกหอมแดงที่แก่เก็บเกี่ยวไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากว่าถ้าเกิดเกิน 6 เดือนไปแล้ว จะได้หัวหอมที่ฝ่อ ไม่อาจจะใช้ประโยชน์ได้หรืออาจมีสารออกฤทธิ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
  • น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากหอมแดง มีรสเผ็ดร้อน ทำให้เคืองตา  แสบจมูก  และก็อาจจะส่งผลให้ผิวหนังปวดแสบปวดร้อน
  • น้ำหอมแดงมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูก รวมทั้งผิวหนังมีลักษณะระคาย จึงไม่สมควรใช้ทาใกล้บริเวณผิวหนังที่เปราะบาง
เอกสารอ้างอิง

  • วรวุฒิ สมศักดิ์, สุกัญญา ชาชิโย, สมเดช ศรีชัยรัตนกูล, ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์. ฤทธิ์ของสารสกัดหอมแดงต่อความเสียหายของตับและไตจากการติดเชื้อมาลาเรีย Plasmodium berghei ในหนูทดลอง. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6, วันที่ 26 มิถุนายน 2558 ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จ.สงขลา.
  • จิรวัฒน์ เวชแพศน์.2526 การศึกษาระยะปลูกของหอมแดง.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.
  • ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.หอมเล็ก.คอลัมน์ สมุนไพรน่ารู้. นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่27.กรกฎาคม 2524 http://www.disthai.com/
  • หอม.ฐานข้อมูลพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • อาทิตย ศุขเกษม. การเปรียบเทียบผลผลิตของหอมแดงที่ปลูกด้วยหัวพันธุ์และเมล็ดพันธุ์.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี.ภาควิชาพืชสวนคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน.13 หน้า
  • Lorenz, O.A. and D.N. Maynard. 1980. Knott’s hand book for vegetable growers. John wily and Sons, Inc. New York. 390 p.
  • หอมแดง สรรพคุณและการปลูกหอมแดง.พืชเกษตรดอทคอม เว็บเพื่อพืชเกษตรไทย
  • พะยอม ตันดีวัฒน์.2530. เครื่องเทศ.119 หน้า.
  • หอมแดง.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • รัตนา พรหมพิชัย. (2542). หอมบั่ว. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ (เล่ม 14, หน้า 7530). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
  • Werawattanachai N, Kaewamatawong R, Junlatat J, Sripanidkulchai B. Anti-Inflammatory potential of ethanolic bulb extract of Allium ascalonicum. Journal of Science & Technology, Ubon ratchathani University. 2015;17(2):63-68.
  • วิศิษย์ ว่องทิพยคงคา.2510. การเปรียบเทียบหาระยะปลูกที่เหมาะสม ของหอมต้นเพื่อเพิ่มผลผลิต ปัญหาพิเศษ ปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.

บันทึกการเข้า