รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันการพลู สามารถมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการโรคต่างได้เป็นอย่างดี  (อ่าน 614 ครั้ง)

tawattt005

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • ดูรายละเอียด


น้ำมันกานพลู (Clove Oil)
น้ำมันกานพลูคืออะไร น้ำมันกานพลูเป็นน้ำมันหอมระเหยชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากการกลั่นโดยใช้ละอองน้ำจากพืชที่เราเรียกกันว่าต้นกานพลู ซึ่งประเภทของน้ำมันมีอยู่ 3 จำพวกคือ

  • น้ำมันจากดอกได้มาจากดอกตูมของต้นกานพลู ซึ่งประกอบไปด้วย 60% eugenol, acetyl eugenol, caryophyllene และส่วนประกอบย่อยอื่นๆ
  • น้ำมันจากใบที่ได้มาจากใบของต้นกานพลู มียูจินอล 82-88% ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอะซิเตตน้อยหรือเปล่ามีเลยและยังส่วนประกอบย่อยอื่นๆอีกด้วย
  • น้ำมันจากต้นมาจากกิ่งและเปลือกต้นของต้านทานกานพลู มียูจินอล 90 - 95% แล้วก็องค์ประกอบย่อยอื่นๆ


ส่วนรูปแบบของน้ำมันกานพลูนั้นจะเป็นของเหลว (น้ำมัน) มีกลิ่นเฉพาะบุคคลซึ่งจะฉุนบางส่วนมีสีใสถึงเหลืองอ่อน หรือสีเหลืองปนน้ำตาลอ่อน น้ำมันกานพลูชอบมีการนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยานวด, น้ำหอม แล้วก็ผลิตภัณฑ์อื่นๆรวมถึงใช้เพื่อการแต่งรสของยาเพื่อลดความขมลง แต่ถ้าเป็นสมุนไพรจากส่วนต่างๆของกานพลูนั้น มีการใช้เป็นยาสมุนไพรกันอย่ากว้างใหญ่รวมทั้งนานาประการในด้านสรรพคุณทางยาในพืชชนิดนี้
สูตรทางเคมีแล้วก็สูตรองค์ประกอบ น้ำมันกานพลู (Clove oil) ได้จากการสกัด ดอก, ใบ เปลือกและกิ่ง ของต้นกานพลู โดยการกลั่นโดยใช้ไอน้ำมีน้ำหนักโมเลกุล 205.647 g/mal มีจุดเดือดอยู่ที่ 251 องศาเซลเซียส (Cº) มีจุดวาบไฟที่ > 250 องศาฟาเรนไฮท์ (Fº) มีความไวไฟพอควร
ที่มา/แหล่งที่เจอ น้ำมันกานพลู (Clove oil) เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากกรรมวิธีการกลั่นโดยใช้ละอองน้ำ (Stream distillation) ต่อจากนั้นสกัดแยกน้ำมันกานพลูกับน้ำด้วย dichloromethane แล้วระเหยเอา dichloromethane ออกมา ก็จะได้น้ำมันกานพลู ส่วนรูปแบบของต้นกานพลูที่เป็นที่มาของน้ำมันกานพลูนั้นมีลักษณะดังต่อไปนี้

ชื่อสมุนไพร กานพลู
ชื่อวิทยาศาสตร์ Syzygium aromaticum (L.) Merr. & Perry     
ชื่อตระกูล                        MYRTACEAE
ชื่อพ้อง                   Eugenia caryophyllata Thunb.
                Eugenia caryophyllus (Spreng.) Bullock & Harrison,
                Eugenia aromatica Kuntze
ชื่ออังกฤษ              Clove, Clove tree
ชื่อท้องถิ่น              จันย่าง (ภาคเหนือ)
ลักษณะทั่วไป

  • ลำต้น กานพลูเป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ สูง 5-20 เมตร เรือนยอดทึบ เป็นรูปกรวยคว่ำ แตกกิ่งต่ำ ลำต้นตั้งชัน เปลือกเรียบมีสีน้ำตาลอ่อน มีต่อมน้ามันมาก
  • ใบ ใบกานพลู เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม มีก้านใบเล็กเรียว ยาว 1-3 ซม. รูปใบขอบขนานแกมรูปไข่กลับ กว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 6-13 เซนติเมตร ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม ขอบเรียบ โคนสอบเป็นรูปลิ่ม แผ่นใบข้างบนวาว ตอนล่างของใบมีต่อมมากมาย ใบมีเส้นใบจำนวนไม่น้อย
  • ดอก ดอกกานพลูออกเป็นช่อดอกสั้นๆแทงออกบริเวณปลายยอดหรือง่ามใบรอบๆยอด ดอกแตกแขนงออกเป็นกลุ่ม 3 ช่อ มีจำนวน 6-20 ดอก ดอกมีใบแต่งแต้มรูปสามเหลี่ยม ยาว 2-3 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีเขียวอมเหลือง และก็มีสีแดงเรี่ยราย โคนชิดกันเป็นหลอดยาว 5-7 มิลลิเมตร กลีบดอก 4 กลีบ กลีบดอกมีสามเหลี่ยมปนรูปไข่ ยาว 7-8 มม. มีต่อมน้ำมันมากมาย กลีบดอกไม้มักร่วงง่าย ข้างในมีเกสรเพศผู้ ก้านยกเกสรยาว 3-7 มม. ก้านเกสรเพศเมียยาวราว 4 มิลลิเมตร ยอดเกสรตัวเมียแบ่งเป็น 2 พู มีรังไข่ 2-3 ห้อง แต่ละห้องมีไข่เยอะมาก
  • ผล ผลกานพลู ได้ผลสำเร็จคนเดียว มี 1 เมล็ด มีรูปไข่กลับแกมรูปรี ยาว 2-2.5 ซม. เมื่อแก่จะมีสีแดงเข้มออกคล้ำ


สารสำคัญที่เจอ

  • ดอก – Eugenol 72-90 % – Eugenyl acetate 2-27 % – β-caryophyllene 5-12 % – trans-β-caryophyllene 6.3-12.7 % – Vanillin
  • ใบ – Eugenol 94.4 % – β-caryophyllene 2.9 %


สารอื่นๆตัวอย่างเช่น methyl salicylate, methyl eugenol, benzaldehyde, methyl amyl ketone รวมทั้ง rhamnetin
ประโยชน์/คุณประโยชน์ น้ำมันกานพลูมีคุณประโยชน์ทางยาเป็นน้ำมันกานพลู (Clove oil) เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้ปวดฟัน โดยใช้สำสีชุบนำมาอุดที่ฟัน ระงับการกระตุก ตะคริว ขับผายลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องเฟ้อ ผสมยากลั้วคอ ขับลม แก้ท้องเฟ้อ ท้องเดิน แก้ไอ  ฆ่าเชื้อโรค แก้ชาปลายมือปลายเท้า ทุเลาอาการจากแมลงสัตว์กัดต่อย แก้โรคลมระงับปวด ใช้ผสมกับ เมนทอล เมทิลซาลิไซเลต เป็นยานวดแก้ปวดบวมช้ำ ส่วนคุณประโยช์จากน้ำมันกานพลูมีดังนี้   น้ำมันหอมระเหยจากดอกใช้เป็นส่วนผสมสารกำจัดแมลงไล่ยุง หรือใช้ฉีดพ่นกำจัดแมลงซึ่งตรง โดยมี สารยูจีนอล (Eugenol) เป็นตัวที่ออกฤทธิ์สำคัญสำหรับในการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ทำให้โปรตีนอื่นๆเสียสภาพไป น้ำมันหอมระเหยของกานพลูใช้สำหรับทำให้ปลาสลบ โดยมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญเป็นยูจีนอล (Eugenol) ใช้โดยการหยด  ใช้น้ำมันกานพลูใช้เป็นส่วนประกอบหรือใช้เป็นยาต้านทานเชื้อแบคทีเรียหลายประเภท น้ำมันจากก้านดอก และดอกกานพลูใช้สำหรับการจัดเตรียมสาร eugenol, isoeugenol แล้วก็vanillin รวมทั้งน้ำมันที่เหลือใช้สำหรับในการทำสบู่   น้ำมันหอมระเหยจากกานพลูใช้เป็นส่วนผสมของยาสีฟัน และก็น้ำยาบ้วนปาก น้ำมันหอมระเหยจากกานพลูใช้สำหรับแต่งกลิ่นรสของกิน และก็ใช้เป็นวัตถุกันเสีย

ส่วนคุณประโยชน์แล้วก็คุณประโยชน์ทางยาของส่วนต่างๆของต้นกานพลูนั้นมีดังนี้ 
  แบบเรียนยาไทย ดอก รสเผ็ด กระจัดกระจายเสมหะ แก้เสมหะเหนียว แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ปวดฟัน ดับกลิ่นปาก แก้หืด เป็นยาทำให้ร้อนเมื่อถูกผิวหนังทำให้ชา เป็นยาฆ่าเชื้อ แก้ปวดฟัน แก้โรครำมะนาด แก้ปวดท้อง มวนในไส้ แก้ลม แก้เหน็บชา แก้พิษเลือด พิษน้ำเหลือง ขับน้ำคาวปลา ทำอุจจาระให้ธรรมดา แก้ธาตุทั้ง 4 พิการ แก้เจ็บท้อง แก้ท้องอืด อาหารไม่
ย่อย คลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง ขับผายลม กดลมให้ลงสู่เบื้องต่ำ แก้สะอึก แก้ซางต่างๆขับเมนส์ ใน ”พิกัดตรีพิษจักร” เป็นการจำกัดปริมาณตัวยาที่มีรสซึมซาบไวดังกงจักร  3 อย่าง มี ผลผักชีล้อม ผลจันทน์เทศ รวมทั้งกานพลู สรรพคุณแก้ลม แก้พิษเลือด แก้ธาตุทุพพลภาพ บำรุงเลือด ”พิกัดตรีคันธวาต” เป็นการจำกัดจำนวนตัวยาที่มีกลิ่นหอมสดชื่นแก้ลม  3 อย่าง มี ผลเร่วใหญ่ ผลจันทน์เทศ และก็กานพลู มีคุณประโยชน์ แก้ธาตุพิการ แก้ไข้อันเกิดแต่ดี แก้จุกเสียด บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา มีการใช้กานพลู ในยารักษากรุ๊ปอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏในตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” และก็ตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” โดยมีส่วนประกอบของกานพลูร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการแก้ลมตาลาย แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง ตำรับยารักษากลุ่มอาการทางระบบของกิน มี “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของกานพลูร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณทุเลาอาการท้องอืดเฟ้อ และอาการท้องร่วงที่ไม่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการต่อว่าดเชื้อ และตำรับ “ยาประสะกานพลู” มีกานพลูเป็นองค์ประกอบหลัก และก็มีสมุนไพรชนิดอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย ด้วยเหตุว่าธาตุแตกต่างจากปกติ
การเรียนทางเภสัชวิทยา

  • ฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ กานพลูมีสาร eugenol ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ มีการใช้น้ำมันกานพลูเป็นส่วนประกอบในตำรับยาเพื่อลดอาการปวด  นอกเหนือจากนี้สาร eugenol ในน้ำมันกานพลูยังออกฤทธิ์เป็นยาสลบในปลาอีกหลายอย่าง
  • สารสกัดน้ำจากดอก จากผล  และก็จากเปลือกต้น  และก็น้ำมันกานพลู มีฤทธิ์ลดการอักเสบ โดยไปยับยั้งการสังเคราะห์ prostaglandin โดยยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase-1, cyclooxygenase-2 แล้วก็เพิ่มการสังเคราะห์ nitric oxide
  • ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุอาการแน่นจุกเสียดจากท้องเดิน และก็แผลในกระเพาะอาหาร สารสกัดด้วยเอทานอล สารสกัดด้วยเอทานอล:น้ำ ในอัตราส่วน 3:1  สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ เมทานอลแล้วก็น้ำจากดอก  สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์จากดอกที่กลั่นเอาน้ำมันหอมระเหยออกแล้ว  และก็น้ำมันกานพลู มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของอาการแน่นจุกเสียด ตัวอย่างเช่น  Escherichia coli , Salmonella typhi , S. typhosa, S. enteritidis, S. paratyphi, Shigella, Sh. paradysenteriae, Sh. dysenteriae, Sh. flexneri, Bacillus anthracis, B. subtilis, B. mesentericus, B. cereus, Proteus vulgaris, Rabbit Cholera, Vibrio comma, V. cholerae, V. parahemolyticus, Helicobacter pyroli และ Clostridium botulinum
  • ฤทธ์ต่อต้านการเกิดแผนในกระเพาะ มีการทดลองฤทธิ์สำหรับเพื่อการกระตุ้นรูปแบบการทำงานของลำไส้ในหลอดทดสอบ โดยใช้ลำไส้กระต่าย เทียบกับ acetylcholine 5.5 x 10(-5) M ซึ่งสารสกัดกานพลูด้วยการต้ม ความเข้มข้น 200-6400 μg/ml มีฤทธิ์กระตุ้นแนวทางการทำงานของไส้ได้น้อยกว่า acetylcholine และเมื่อมีการให้สารสกัดกานพลูร่วมกับ atropine sulphate พบว่าจะมีฤทธิ์ในกระตุ้นการเคลื่อนไหวของไส้ได้ลดลง
  • ฤทธิ์ต่อต้านการบีบตัวของลำไส้ การทดสอบฤทธิ์ต้านการบีบตัวของลำไส้สัตว์ทดสอบของน้ำมันกานพลู ทำในหลอดทดสอบ ลำไส้ถูกรั้งนำให้เกิดการบีบตัวโดยใช้สารหลายอย่าง อย่างเช่น acetylcholine (ใช้ลำไส้หนูแรทส่วน duodenum), barium chloride, histamine (ใช้ลำไส้ส่วน ileum ของหนูตะเภา) และ nicotine (ใช้ไส้กระต่ายส่วน jejunum)ซึ่งสามารถยั้งการบีบตัวของสำไส้ได้  20-40%, 40-60%, >60% แล้วก็ >60% ตามลำดับ
  • ฤทธิ์คุ้มครองป้องกันเยื่อบุกระเพาะ น้ำมันกานพลู รวมทั้งสาร eugenol ในกานพลู กระตุ้นให้เยื่อบุเซลล์กระเพาะอาหารมีการหลั่งสารเมือก (mucin) ออกมาเพื่อคุ้มครองเยื่อบุกระเพาะ
  • น้ำมันสกัดจากกานพลูความเข้มข้น 30 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรสามารถยับยั้งการก้าวหน้าของ Lactococcus garvieae ในของกินเลี้ยงเชื้อได้ เมื่อนำอาหารปลาที่ผสมน้ำมันกานพลูในอัตราส่วน 3% (w/w) มาเลี้ยงปลานิล ทำให้จำนวนการตายเนื่องด้วยการตำหนิดเชื้อ L. garvieae ในปลานิลลดน้อยลง
ในส่วนของการเรียนรู้ทางคลินิกมีดังนี้
      ฤทธิ์ทำให้ผิวหนังชา   การเรียนฤทธิ์ทำให้ผิวหนังชาของสารสกัดของกานพลูเทียบกับยาชา benzocaine ในอาสาสมัคร 73 คน โดยอาสาสมัครกรุ๊ปที่ 1ได้รับเจลที่มีส่วนผสมของสารสกัดกานพลู จำนวน 2 กรัม (40% ผงกานพลูผสมกับ 60% glycerine) กรุ๊ปที่ 2 ได้รับเจลที่มีส่วนผสมของ 20% benzocaine ปริมาณ 2 กรัม ทาบนเยื่อบุกระพุ้งแก้ม กรุ๊ปที่ 3 ได้รับยาหลอก เมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที จึงกระทำทดสอบฤทธิ์ โดยการแทงเข็มรอบๆที่ทา แล้ววัดระดับความปวด (pain score) ผลของการเทียบระหว่างสารสกัดกานพลู แล้วก็ benzocaine พบว่าสามารถลดการปวดได้อย่างมีนัยสำคัญ (p=0.005) รวมทั้งให้ผลไม่มีความแตกต่างกัน นอกนั้น
พบว่า สารสกัดกานพลูสามารถที่จะเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะเลือดออกได้ ขณะใช้ร่วมกับยาต้านทานเกล็ดเลือด และก็อาจเพิ่มระดับของยากันชัก phenytoin ในเลือดได้
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
การทดลองพิษกระทันหันของสารสกัดดอกด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. (คิดเป็น 16,667 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) ตรวจไม่พบอาการเป็นพิษ  แต่ว่าเมื่อให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู พบว่าขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายกึ่งหนึ่งเป็น 6.184 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
          การเรียนรู้การเกิดพิษรุนแรงของสารสกัด eugenol  จากดอกกานพลู  ศึกษาวิจัยในหนูแรท สายพันธุ์ Sprague-Dawley แบ่งตัวทดลองออกเป็น 4 กรุ๊ป  กลุ่ม 1,2,3 ได้รับสาร eugenol ความเข้มข้น 2.58, 1.37, 0.77 มก./ล. ตามลำดับ  กรุ๊ปที่ 4 เป็นกรุ๊ปควบคุม  ทำการทดสอบโดยการพ่นสารทดสอบให้ตัวทดลองดมเป็นเวลา 4 ชั่วโมง แล้วติดตามอาการของหนูเป็นเวลา 14 วัน  ผลของการทดสอบไม่พบการเสียชีวิตของหนู ส่วนอาการ และพฤติกรรม พบว่าตัวทดลองมีน้ำลายไหลระดับปานกลาง มีอาการกระวนกระวาย และหายใจลำบาก แม้กระนั้นอาการเหล่านี้หายเองได้ภายในเวลา 1 วัน  แต่เมื่อให้สารนี้ทางหลอดเลือดดำแก่หนูแรท ในขนาดเข้มข้น 6.25 โมล/ลิตร พบว่าหนูทดลองมีลักษณะหายใจล้มเหลวกระทันหัน อุทกภัยปอด และก็เลือดออกที่ปอด
การฉีด eugenol เข้าระบบไหลเวียนของเลือดโดยตรง จะก่อให้ความดันเลือดแล้วก็การเต้นของหัวใจลดน้อยลงชั่วครู่ โดยไม่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลง   eugenol สามารถทำลายโปรตีนในเซลล์ของเนื้อเยื่ออ่อนในปาก การจับกุมตัวของเซลล์ลดน้อยลง บวม แล้วก็เกิดเป็นไต  ชั้นใต้ผิวหนังชั้นนอกบวมรวมทั้งกล้ามเนื้ออ่อนแอ เมื่อป้อนน้ำมันจากใบขนาด 40 มก./กิโล ให้หนูแรทเพศภรรยาที่ตั้งท้องได้ 1-10 วันพบว่ามีฤทธิ์ยั้งการฝังตัวของตัวอ่อนจำนวนร้อยละ 20
ขนาด/จำนวนที่ควรที่จะใช้ เนื่องจากน้ำมันกานพลู (Cove oil) นั้นส่วนมากแล้วนิยมใช้เป็นส่วนประกอบกับภัณฑ์อื่นด้วยเหตุผลดังกล่าวขนาดและจำนวนที่ควรใช้ของน้ำมันกานพลู (Cove oil) ดังต่อไปนี้ สำหรับการใช้ผสมยาสีฟันนั้นควรใช้ราวๆ0.1-0.5% ใช้ผสมยาดม ยาหม่อง ควรที่จะใช้ประมาณ 3-5% ส่วนในการใช้ทำยาสลบปลาควรที่จะใช้ 10-30% (กับเอทิลแอลกอฮอลส์)  ส่วนการใช้กานพลูรักษาลักษณะของการปวดฟันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ให้      กลั่นเอาเฉพาะส่วนน้ำมันใช้ใส่ฟัน หรือใช้ทั้งดอกบดแล้วอมไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวด เพื่อยับยั้งอาการปวดฟัน        ตำกานพลูพอเพียงแหลก ผสมกับเหล้าขาวเพียงแค่เล็กๆน้อยๆพอเพียงเฉอะแฉะ ใช้สำลีจิ้มอุดฟันที่ปวดแล้วก็ใช้แก้โรครำมะนาด       เอาดอกกานพลูแช่สุราหยอดฟัน ส่วนการใช้น้ำมันหอมระเหย(น้ำมันกานพลู) ที่ใช้สำหรับขับลม และก็ทุเลาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ 0.05-0.2 ซีซี อนึ่ง การใช้กานพลูในปริมาณมากทำให้เลือดแข็งช้าลง จึงต้องระวังการใช้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์ต้านทานการแข็งตัวของเลือด ดังเช่น  warfarin,  aspirin, heparin ฯลฯ และก็ระวังการใช้ร่วมกับยาต่อต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์  (NSAIDs; ตัวอย่างเช่น ibuprofen),  รวมทั้งระวังการใช้ร่วมกับสมุนไพรหรือยาที่ทำให้เกล็ดเลือดต่ำ  แล้วก็ยาลดน้ำตาลในเลือด ดังเช่นว่า  insulin,  metformin
ข้อเสนอ/ข้อควรปฏิบัติตาม

  • สาร eugenol จากน้ำมันกานพลูที่มีความเข้มข้นสูงอาจส่งผลให้เกิดการเคืองต่อผิวหนังได้ถ้าหากใช้ในจำนวนที่สูง รวมทั้งใช้ติดต่อกัน
  • การใช้น้ำมันกานพลูเพื่อรักษาอาการปวดฟันหรือใช้เพื่อหยุดกลิ่นปากโดยตรง รวมทั้งใช้ในจำนวนสูงหรือใช้ติดต่อกันบ่อยครั้ง อาจทำให้เคืองต่อเหงือก และเยื่อบุในโพรงปากได้
  • สาร eugenol สามารถออกฤทธิ์ต่อต้านลักษณะการทำงานของเกล็ดเลือดได้ จึงควรเลี่ยงการใช้ร่วมกับยาในกลุ่ม anticoagulant แล้วก็ยากลุ่ม NSADs
  • ไม่ควรใช้ดอกกานพลูในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมลูก  เด็ก  คนเจ็บโรคตับไต  รวมทั้งคนป่วยเบาหวาน
เอกสารอ้างอิง

  • กันยารัตน์ ศึกษากิจ,2557.ฤทธิ์ทางชีวภาพของน้ำมันและสารสกัดจากดอกกานพลูในการบรรเทาอาการปวดไมเกรนและอาการข้างเคียงในสัตว์ทดลอง.
  • การพลู,ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
  • กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 1.โรงพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพมหานคร. http://www.disthai.com/
  • กานพลู.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • สุนีย์ จันทร์สกาวและวรรณนรี เจริญทรัพย์,2543.การตรวจสอบคุณภาพกานพลูและผลิตภัณฑ์ยาเตรียมสมุนไพรที่มีการพลูเป็นส่วน ประกอบ.รายงานการวิจัย ปี พ.ศ.2543.
  • นพมาศ สุนทรเจริญนนท์, นงลักษณ์ เรืองวิเศษ. วิเคราะห์ วิจัย คุณภาพเครื่องยาไทย. คอนเซ็พท์  เมดิคัส จำกัด: กรุงเทพมหานคร, 2551.
  • Kamatou GP, Vermaak I, Viljoen AM. Eugenol-From the Remote Maluku Islands to the International Market Place: A Review of a Remarkable and Versatile Molecule. Molecules 2012:17;6953-6981.
  • Clove oil. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.
  • Perry LM. Assessment report on Syzygium aromaticum (L.). European Medicines Agency;London. 2011.

บันทึกการเข้า