รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สมุนไพรลูกใต้ใบพร้อมทั้งวิธิรักษาสรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 520 ครั้ง)

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด


ลูกใต้ใบ
ชื่อสมุนไพร  ลูกใต้ใบ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  หญ้าใต้ใบ,มะขามป้อมดิน,หน่วยใต้ใบ (ภาคเหนือ) ,หญ้าใต้ใบขาว (สุราษฎร์),จูเกี๋ยเช่า (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn.
ชื่อสามัญ Egg woman, Tamalaki, Stonebreaker.
วงศ์  EUPHORBIACEAE
ถิ่นเกิด ลูกใต้ใบมีบ้านเกิดในแถบเขตร้อนต่างๆของโลกทั้งยังในทวีป อเมริกาใต้ แอฟริกา และทวีปเอเชีย และมีการกระจัดกระจายจำพวกไปอยู่ในหลายๆประเทศเขตร้อนของภูมิภาคดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อย่างเช่น ประเทศเปรู บราซิล ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ อินเดีย ไทย พม่า ลาว อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในประเทศไทยนั้น ต้นลูกใต้ใบสามารถพบได้ทั่วทุกจังหวัด ตั้งแต่ในอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน โดยพบได้ทั่วไปในที่โล่งหรือตามรอบๆเงาไม้ต้นในที่โล่งแจ้งทั่วไป หรือขึ้นแซมกับพืชที่เกษตรกรปลูก จนถึงจะต้องถูกกำจัดเหมือนวัชพืชอื่นๆอย่างยิ่งจริงๆ
ลักษณะทั่วไป ลูกใต้ใบ เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กจัดอยู่ในวงศ์ Euphorbiaceae จีนัส Phyllanthus เหตุที่มีชื่อเรียกว่า ลูกใต้ใบ, ต้นหญ้าลูกใต้ใบ หรือ ต้นหญ้าใต้ใบ เหตุเพราะมีผลขนาด เล็กออกตามซอกก้านใบย่อยและก็แขวนลงให้มีความคิดเห็นว่าลูกอยู่ใต้ใบ ในประเทศไทยมีพืชล้มลุกที่ มีลักษณะดังกล่าวคล้ายกันและถูกเรียกว่าลูกใต้ใบอยู่อย่างต่ำ 5 ประเภทหรือสปีชีส์ (species) อาทิเช่น Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn., P. debilis, P. niruri, P. urinary Linn (หญ้าใต้ใบ) รวมทั้ง P. virgatus G. Forst. แต่ว่ามีรายงานการค้นคว้าวิจัยพบว่าลูกใต้ใบชนิด P.amarus Schumach. & Thonn. นั้นเป็นประเภทที่ให้สารที่มีสรรพคุณทางยามากที่สุด ซึ่งลูกใต้ใบฃนิดนี้มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังต่อไปนี้

  • ต้นลูกใต้ใบ จัดเป็นไม้ล้มลุก แก่เพียงแค่ปีเดียว มีความสูงประมาณ 10-50 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นไม่มีขน แล้วก็ทุกส่วนของต้นมีรสขม
  • ใบลูกใต้ใบ ใบเป็นใบคนเดียวประกอบแบบขนนกเรียงสลับกันชั้นเดียวปลายคี่ มีใบย่อยราวๆ 23-25 ใบ รูปแบบของใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ โคนใบมนแคบ ส่วนปลายใบมนกว้างของใบเรียบไม่มีขน ใบข้างล่างสีอ่อนกว่าด้านบน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-4 มิลลิเมตรแล้วก็ยาวประมาณ


5-10 มม. มีก้านใบสั้นมาก มีหูใบสีขาวนวล ลักษณะเป็นสามเหลี่ยมปลายแหลมเกาะติดอยู่ 2 อัน

  • ดอกลูกใต้ใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีขนาดเล็กสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางราว 0.08 เซติเมตร ดอกเพศภรรยามักจะอยู่รอบๆโคนก้านใบ ส่วนดอกเพศผู้มักจะอยู่รอบๆส่วนปลายของก้านใบ มักออกเป็นกลุ่มๆละ 2-3 ดอก โดยดอกตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้โดยประมาณ 2 เท่า และดอกคนเดียวๆเกสรตัวผู้มี 3 ก้าน โคนก้านเกสรเชื่อมกันน้อย มีอับเรณูแตกอยู่ตามแนวระดับ ส่วนกลีบรองรวมทั้งกลีบดอกเป็นรูปไข่ ขอบกลีบมีสีอ่อน
  • ผลลูกใต้ใบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมแป้น ผิวเรียบมีสีเขียวอ่อนนวล ผลมีขนาดโดยประมาณ 0.15 ซม. โดยผลมักจะเกาะติดอยู่บริเวณใต้โคนของใบย่อย แล้วก็อยู่ในรอบๆกลางก้านใบ ผลเมื่อแก่จะแตกเป็นพู 6 พู ในแต่ละพูจะมีเม็ด 1 เมล็ด สีน้ำตาล มีลักษณะเป็นรูปเสี้ยว 1 ส่วน 6 ของรูปทรงกลม มีสันตามทางยาวทางด้านหลัง แล้วก็มีขนาดเล็กมากโดยประมาณ 0.1 ซม.


การขยายพันธุ์  ลูกใต้ใบเป็นพืชพันธุ์ไม้ที่สามารถพบมากในที่โล่งรวมทั้งตามริมไม้ในที่โล่งทั่วทุกภูมิภาค โดยยิ่งไปกว่านั้นหน้าฝนจึงไม่มีการนิยมนำมาปลูกในเชิงการค้าอะไร  ส่วนการขยายพันธุ์ของลูกใต้ใบนั้นสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด  ในตอนนี้นั้นเมื่อเริ่มมีการตื่นตัวถึงสรรพคุณของลูกใต้ใบที่มีรายงานการค้นคว้ามารับรองแล้วนั้น  ก็เลยเริ่มมองเห็นมีการเพาะกล้าของลูกใต้ใบมาจัดจำหน่ายและก็เกษตรกรก็เริ่มเพาะปลูกลูกใต้ใบเพื่อจัดจำหน่ายมากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน
ส่วนประกอบทางเคมี องค์ประกอบทางเคมีของลูกใต้ใบจะประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins), ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids), ลิกแนนส์ (Lignans), ไกลโคไซด์ (Glycosides), ซาโปนิน (Saponin) อื่นๆอีกมากมาย  และก็สมุนไพรลูกใต้ใบยังประกอบไปด้วยธาตุที่สำคัญอีกยกตัวอย่างเช่น  ธาตุโซเดียม 0.86 %, ธาตุโพแทสเซียม 12.84 %,  ธาตุเหล็ก 10.68 %, ธาตุแคลเซียม 6.57 %, ธาตุแมกนีเซียม 0.34 %, ธาตุอะลูมิเนียม 3.92 %, ธาตุฟอสฟอรัส 0.34 %
 
 
 
 
 
 
                                                       ที่มา  :  Wikipedia
คุณประโยชน์  ด้านสรรพคุณของลุกใต้ใบนั้นชาวไทยมีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าลูกใต้ใบสามารถคุ้มครองปกป้องตับจากพิษของสารเคมี และก็ถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อช่วยรักษาผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคมะเร็งตับให้มีอายุยาวขึ้น แล้วก็ยังมีคุณประโยชน์ตามตำรายาไทยอีกหลายชนิดเป็นต้นว่า ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย  บำรุงธาตุในร่างกาย เจริญอาหาร รักษาโรคตา ควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันเลือด แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยรักษาไข้มาลาเรีย ช่วยแก้อาการไอ ช่วยแก้หืด ช่วยแก้อาการร้อนในอยากกินน้ำ ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องเดิน  แก้ปวดท้อง  โรคท้องมาน แก้บิด ข้อตกขาวไข้เมนส์ของสตรี รักษาไข้ทับระดู  ช่วยบำรุงสายตา ทำให้สายตาดี แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยแก้พิษตานซาง แก้น้ำเหลืองเสีย  บำรุงตับ รักษาโรคดีซ่าน ยอดอ่อนใช้รักษาลักษณะของการปวดข้อ  ปวดกระดูก ลดอาการอักเสบ แก้เริม อื่นๆอีกมากมาย
แบบอย่าง/ขนาดการใช้

  • แก้ไข้ ให้นำต้นสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำปริมาณ 2 ถ้วยแก้ว แล้วต้มกระทั่งเหลือน้ำ 1 1/2 ถ้วยแก้ว รับประทานทีละครึ่งถ้วยแก้ว
  • รักษาโรคเริม ให้ใช้ลูกใต้ใบโดยประมาณ 5 ใบ ตำผสมกับสุราแล้วคั้นมัวแต่นำมา แล้วหลังจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำยามาติดตรงที่เป็น
  • รักษาอาการปวดข้อ ใช้ยอดอ่อนมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรักษาลักษณะของการปวดกระดูก ปวดข้อ
  • แก้เมื่อย นำลูกใต้ใบมาล้างน้ำ และก็สับเป็นชิ้นเล็กๆผึ่งแดดให้แห้ง ต้มใส่หม้อดิน เอามาดื่มแทนชา
  • แก้ไอ นำใบอ่อนของต้นใต้ใบ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 แก้ว ต้มจนเหลือน้ำ 1 1/2 แก้วใช้จิบแก้ไอ
  • ขับระดู นำต้นลูกใต้ใบมาต้มรับประทาน ก็จะสามารถช่วยปรับสมดุลเลือดลมภายในร่างกาย ทำให้เมนส์มาเป็นปกติได้
  • ไข้ทับเมนส์ ให้นำลูกใต้ใบ 5 มาล้างน้ำสะอาด เอามาตำผสมเหล้าขาว คั้นเฉพาะน้ำยามาดื่มทีละ 1 ถ้วยชา
  • บำรุงสายตาให้ใช้ผลต้มดื่มแล้วก็ยังช่วยรักษาโรคตา
  • กำจัดพิษออกมาจากตับ ใช้ต้มดื่มต่อเนื่องกันราวๆ 1 อาทิตย์ คุ้มครองปกป้องไม่ให้ตับถูกทำลายจากพิษต่างๆรวมทั้งช่วยทำนุบำรุงตับ
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา  จากการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยในหลอดทดสอบ
หลายรายงานพบว่าลูกใต้ใบสามารถยั้ง DNA poly-merase ของ HBV ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีสำหรับสังเคราะห์ DNA ของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี อย่างเช่น สารสกัดเมทานอลจากลูกใต้ใบ (ไม่เจาะจงความเข้มข้น) สารสกัดเมทานอลจากต้น (ไม่กำหนดความเข้มข้น) สารสกัดน้ำจากทั้งต้น มีค่า IC50 พอๆกับ 500 มค.ก./มล. สารสกัดน้ำจากต้น ความเข้มข้น 75 มค.กรัม/มิลลิลิตร สารสกัดน้ำจากทั้งต้นมีฤทธิ์อ่ออนสำหรับเพื่อการยับยั้ง DNA polymerase ของ HBV มีค่า IC50 พอๆกับ 59 มค.ก./มิลลิลิตร และขนาด 43 มค.กรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์อ่อนสำหรับในการยังยั้ง HBV สารสกัดเมทานอลยังมีฤทธิ์ยั้ง HBV antigen
สารสกัดน้ำจากทั้งต้น ความเข้มข้น 100 มค.กรัม/มิลลิลิตร สามารถยั้งการแบ่งตัวข้างในเซลล์ HBV สารสกัดเอทานอล สารสักดเฮกเซน สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัดบิวทานอล รวมทั้งสารสกัดน้ำจากทั้งต้น ขนาด 4 มิลลิกรัม/มล. มีฤทธิ์ต้าน HBV  antigen ขึ้นรถสัดบิวทานอลมีฤทธิ์สูงสุด รวมทั้งยับยั้งปฏิกิริยาระหว่า HBs Ag/Hbe Ag ยั้งการสังเคราะห์ DNA ของ HBV รวมทั้งยับยั้งการ expression ของ HBV antigen สารสกัดน้ำจากทั้งต้น ความเข้มข้น 0.5 มก./มิลลิลิตร ทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยง hepatoma cell line HepA2 ที่ถูกทำให้ติดเชื้อ HBV พบว่าสารสกัดจะยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์และกดการผลิต Hbs Ag แต่ไม่ลดการผลิต HBsAg gene promotor ซึ่งจะไปกระตุ้น CAT activity สารสกัดน้ำจากใบมีฤทธิ์ยั้งการ expression ของ HBV antigen โดยมี IC50 เท่ากับ 5 มค.ก./มิลลิลิตร
ส่วนการทดลองในสัตว์ทดสอบพบว่าสารสกัดลูกใต้ใบได้ผลสำหรับในการยั้งเชื้อ HBV ในสัตว์ทดลองโดยเมื่อฉีดสารสกัดน้ำจากทั้งต้นขนาด 80 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เข้าช่องท้องหนู G26 transgenic mice จะยั้งการเกิด transcription ในตับหนูโดยลด HBV mRNA และก็ขนาด 100 มค.ก./มิลลิลิตร (ไม่ระบุขั้นตอนการบริหารยา) จะลดการเกิด  transgenic เช่นเดียวกัน โดยระดับของ HBs Ag mRNA ในเซลล์ตับต่ำลง รวมทั้งยั้ง expression ของ HBV mRNA
นอกจากนี้ยังมีผู้ศึกษาวิจัยแยกสารประกอบกรุ๊ป lignan ได้จากสารสกัด ethyl acetate จากลูกใต้ใบซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็งโดยพบว่าไปยับยั้งการแสดงออกของ ยีน Bcl-2 และก็การขัดขวางหลักการทำงานของ เอนไซม์ telomerase ร่วมกับการกระตุ้นการทำงานแสดงออกของ ยีน c-myc รวมทั้งลักษณะการทำงานของ โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี caspases นำไปสู่ขั้นตอนการตายของเซลล์แบบ apoptosis รวมทั้งยังมีการทำการศึกษาทางเภสัชวิทยาต่างๆอีกยกตัวอย่างเช่น

  • สารสกัดด้วยเอทานอลของรากลูกใต้ใบชนิด P. amarus มีฤทธิ์สำหรับในการต้านอนุมูลอิสระ และยังสามารถช่วยลด Oxidative stress ได้เมื่อเรียนรู้ในหลอดทดลอง ส่วนในสารสกัดแบบชาของลูกใต้ใบก็พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบชนิด P. amarus มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นโรคเบาหวานจากการฉีดสาร Alloxan แล้วก็สารสกัดด้วยน้ำจากใบรวมทั้งเม็ดของ P. amarus ก็มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นเดียวกัน โดยมีการตรวจสอบและลองใช้ดื่มน้ำตาลซูโครส 10% ตรงเวลา 30 วันเพื่อทำให้สภาวะน้ำตาลในเลือดมากขึ้น แต่ผลการทดสอบก็พบว่าสามารถช่วยลดภาวการณ์โรคเบาหวานได้
  • มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง สารสกัดด้วยน้ำแล้วก็แอลกอฮอล์ของลูกใต้ใบจำพวก P. amarus มีฤทธิ์แรงสำหรับเพื่อการช่วยยั้ง HIV-1 โดยเป็นสารออกฤทธิ์ในกรุ๊ป Gallotannin ซึ่งสาร Corilagin, Ellagitannins และ Geraniin นั้นจะมีฤทธิ์แรงที่สุด ยิ่งกว่านั้นยังช่วยยับยั้งเชื้อ HIVE ได้ถึง 30% และส่งผลยั้งเชื้อ HIVE ทั้งยังใน in vitro แล้วก็ใน in vivo
  • ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดพิษต่อตับของหนูขาวจากการได้รับยาพาราเซตามอล โดยพบว่าการให้ต้มหรือผงของลูกใต้ใบจำนวน 1 ครั้งในขนาด 3.2 กรัม/น้ำหนักตัว 1 โลในหนูทดลอง ก่อนให้พาราเซตามอลตรงเวลา 1 ชั่วโมง ส่งผลช่วยลดความเป็นพิษได้ดิบได้ดีที่สุด
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบ P. amarus มีฤทธิ์ในการต้านทานการก่อกลายพันธุ์ของสาร 2-acetaminofluorene (2-AFF), 4-nitro-O-phenylenediamine, Aflatoxin B1, Sodium azide และก็ N-methyl-N-nitro-N- nitrosoguanidine เมื่อศึกษาค้นคว้าด้วย Ames test ในตัวทดลอง โดยผลของการต้านการก่อกลายชนิดของสารสกัดใน in vitro จะดีกว่าใน in vivo


ฤทธิ์ปกป้องตับของลูกใต้ใบในหนูขาว  การศึกษาเล่าเรียนในหนูขาวโดยแบ่งหนูขาวออกเป็น 5 กรุ๊ป กลุ่มที่ 1 เป็นกรุ๊ปควบคุมให้รับประทานสารละลายกลูโคส (Isocaloric glucose solution) กรุ๊ปที่ 2 เป็นกลุ่มที่ได้รับสารละลายเอทานอล (20% น้ำหนัก/ปริมาตร) ขนาด 5 ก./กิโลกรัม/วัน กรุ๊ปที่ 3 ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน ร่วมกับสารละลายกลูโคส กลุ่มที่ 4 รวมทั้ง 5 เป็นกรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 รวมทั้ง 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน ร่วมกับสารละลายเอทานอลขนาด 5 กรัม/กก./วัน ตามลำดับ นาน 4 อาทิตย์ (เอทานอลให้นาน 3 อาทิตย์) พบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับเอทานอลเพียงอย่างเดียว สารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 และ 500 มก./กิโลกรัม/วัน ในหนูกรุ๊ปที่ 4 และ 5 ที่เหนี่ยวนำให้เกิดความเป็นพิษที่ตับด้วย เอทานอลสามารถลดระดับการเกิด lipid peroxidation ได้ 29.10 รวมทั้ง 45.67% ตามลำดับ รวมทั้งยังสามารถเพิ่มระดับลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี reduced glutathione (GSH), superoxide dimutase (SOD), catalase (CAT) ในตับ โดยกลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 มก./กิโลกรัม/วัน สามารถเพิ่มระดับแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี GSH, SOD รวมทั้ง CAT ได้ 27.60, 36.36 รวมทั้ง 28.61% เป็นลำดับ ในช่วงเวลาที่กลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน สามารถเพิ่มแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีดังที่ได้กล่าวมาแล้วได้ 81.60, 51.03 และก็ 37.41% เป็นลำดับ และก็หนูในกลุ่มที่ 4 แล้วก็ 5 ยังสามารถลดแนวทางการทำงานของเอนไซม์ glutathione-S transferase ได้ 28.19 และ 47.99% ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 250 มิลลิกรัม/กก./วัน ร่วมกับ เอทานอล (กรุ๊ปที่ 4) แนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี alanine transaminase (ALT) aspartate transaminase (AST) และ alkaline phosphatase (ALP) ในตับเพิ่มขึ้น 12.68, 42.35 แล้วก็ 40.01% ตามลำดับ เวลาที่ ALT รวมทั้ง AST ในพลาสมาต่ำลง 41.38 และก็ 51.90% เช่นเดียวกับหนูในกลุ่มที่ 5 ที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 500 มก./กิโลกรัม/วัน ร่วมกับเอทานอล ระดับของ ALT, AST แล้วก็ ALP ในตับเพิ่มขึ้น 42.35, 21.63 รวมทั้ง 116.9% ในตอนที่ค่า ALT และก็ AST ในพลาสมาลดลง 51.90 รวมทั้ง 51.20% จากการศึกษาสรุปได้ว่าสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลสามารถคุ้มครองการเช็ดกทำลายของตับในหนูขาวที่เหนี่ยวนำให้กำเนิดพิษที่ตับได้

การเรียนรู้ทางสถานพยาบาล การศึกษาเล่าเรียนคนเจ็บที่เป็นยานพาหนะของโรคตับอักเสบบีจำนวน 78 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กลุ่มควบคุม 38 คน) สามารถติดตามผลข้างหลังการทดสอบ 1 เดือน ได้เพียงแต่ 60 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 37 คน กลุ่มควบคุม 23 คน) กลุ่มทดลองจะกินยาผงลูกใต้ใบต้นบรรจุแคปซูลขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง นาน 30 วัน กรุ๊ปควบคุมจะกินยาหลอกเป็น lactose แทน ใช้การตรวจหา HBs Ag และ HBe Ag ในซีรัมของคนเจ็บด้วยวิธี ELISA
ภายหลังจากทดลอง 1 เดือน พบว่าผู้ป่วยในกลุ่มทดลอง 22 คน ใน 37 คน (59%) ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมได้ผลลบ ขณะที่มีผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับยาหลอกเพียง 1 คนเพียงแค่นั้น (4%) ที่ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมได้ผลลบ ในผู้ป่วยที่ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมสำเร็จลบใน 1 เดือนแรก จำนวน 22 คน ในกลุ่มทดลอง และก็ 1คนภายในกลุ่มควบคุม แล้วก็เมื่อติดตามการดูแลรักษาจนถึง 9 เดือน เหลือผู้ป่วยในกลุ่มทดลองเพียงแค่ 1 คน ยังตรวจเจอ HBs Ag เป็นผลลบตัวอย่างเช่นเดิมผู้เจ็บป่วยที่เป็นพาหะที่มี HBs Ag และก็ HBe Ag จะส่งผลสนองตอบต่อการดูแลและรักษาน้อยกว่ากลุ่มพาหะที่ไม่มี HBe Ag กลุ่มที่มี HBs Ag แล้วก็ HBe Ag จะปลอดการเป็นพาหะหลังการทดลองเพียงแค่ 29% (5 ใน 17 คน) และก็กรุ๊ปที่ไม่มี HBe Ag จะปลอดการเป็นพาหนะข้างหลังการทดลองถึง 85% (17 ใน 20 คน) ส่วนคนป่วยที่เป็นพาหะที่ได้รับยาหลอก 1 คน ที่ตรวจเจอ HBs Ag ได้ผลสำเร็จลบนั้นเป็นพาหะที่เดิมมีเพียง HBs Ag เท่านั้น รวมทั้งเป็นพาหะที่ไม่มีอาการ ไม่พบอาการใกล้กันในผู้ป่วยทุกคนที่ทำการศึกษาเล่าเรียนในครั้งนี้ แม้กระนั้นอย่างไรก็ตามหลังจากติดตามผลได้ 3 เดือน พบว่าปริมาณผู้ป่วยในกลุ่มทดลองแล้วก็กรุ๊ปควบคุมมีความต่างกันอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติโดยกลุ่มควบคุมเหลือเพียงแค่ 19 คน ในขณะที่กลุ่มทดลองมีถึง 36 คน
นอกจากนี้ลูกใต้ใบยังสามารถลดการอักเสบของตับได้ ดังสำหรับการทดลองให้ผู้ป่วยชายรวมทั้งหญิงที่เป็นตับอักเสบเรื้อรัง กินผลจากลูกใต้ใบทั้งยังต้นขนาด 1.5 ก./วัน ให้คนไข้ตับอักเสบเรื้อรังทั้งคู่เพศกินต้นลูกใต้ใบ (ไม่เจาะจงขนาด) พบว่าสาร catechin จะลดระดับบิลิรูบินในพลาสมา และก็ลด Bromsulfthalein clearance (BSP clearance) การศึกษาเล่าเรียนในผู้ป่วยตับอักเสบจากเชื้อไวรัส 120 ราย กินยาตำรับของอายุรเวท 4 ชนิด ประกอบด้วยสมุนไพรพลายชนิดรวมทั้งลูกใต้ใบด้วย (ไม่ระบุขนาดที่กิน) ผู้ป่วยทุกคนไม่ได้รับยาแผนปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยโดยมากจะมีค่า serum glutamic oxaloacetic transaminase (SGOT). Serum glutamic pyruvic transaminase (SGPT) และบิลิรูบินลดน้อยลง และมีคนป่วย 1 รายที่ตรวจพบ HBs Ag สำเร็จลบ
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา

  • การทดสอบความเป็นพิษ สารสกัดเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงด้วยเอทานอล (50%) เมื่อให้หนูถีบจักรรับประทาน พบว่าขนาดสูงสุดก่อนเกิดอาการพิษเป็น1 ก./กก. สารสกัด 50% อัลกฮออส์จากอีกทั้งต้น เมื่อให้หนูรับประทานหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 10 ก./กิโลกรัม ไม่พบพิษ สารสกัดน้ำจากพืชทั้งยังต้น เมื่อฉีดเข้าท้องหนูถีบจักร ขนาด .01 มก. หรือ 1.8 มก. ไม่เจอพิษ สารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน เอทานอล รวมทั้งสารสกัดด้วยน้ำ เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักรในขนาด 500 มก./กิโลกรัม ไม่พบพิษ สารสกัดน้ำจากทั้งต้นฉีดเข้าช่องท้องลูกเป็ดขนาด 500 มก./กก. ไม่เจอพิษ สารสกัดเอทานอล 95% จากต้น เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักร ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม นาน 30 วัน ไม่พบพิษ หนูที่รับประทานสารสกัดจากพืชที่อยู่เหนือดิน (ไม่กำหนดชนิดของสารสกัด) ขนาด 0.2 มิลลิกรัมวัน เป็นเวลา 90 วัน ไม่เจอพิษ เมื่อให้คนแก่ทั้งปวงศชาย รวมทั้งหญิงกินลูกใต้ใบขนาด 2.7 กรัม/วัน ไม่พบพิษ คนแก่กินพืชส่วนที่อยู่เหนือดินขนาด 1.5 กรัมไม่เจอพิษ และก็เมื่อให้เด็กรับประทานพืชทั้งต้น (ไม่เจาะจงขนาดที่รับประทาน) ไม่เจอพิษ


ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่กำหนดประเภทและก็ขนาดของสารสกัด) เมื่อให้เข้าทางท้องหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักรและก็หนูขาว นำมาซึ่งการซัก ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่เจาะจงประเภทและขนาด) มีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นและก็บีบตัวของหัวใจกบ หนูขาว แล้วก็หนูถีบจักร ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่กำหนดจำพวกและก็ขนาด) มีฤทธิ์ลดระดับความดันในหมา

  • ผลต่อระบบแพร่พันธุ์ เมื่อให้หนูถีบจักรเพศผู้ รับประทานสารสกัดอัลกอออล์จากทั้งยังต้น ขนาด 100,250,400 และ 500 มก./กิโลกรัม จะลดอัตราการมีลูกลง 10,32,52 แล้วก็ 72% เป็นลำดับ และก็เมื่อให้หนูกินสารสกัดดังที่กล่าวถึงมาแล้วในขนาดสูงพอๆกับ 500 มิลลิกรัม/กก. จะลด cauda epididymal sperm counts ลดการเคลื่องที่ของสเปิร์ม ยังยั้ง succinate dehydrogenase ใน epididymis รวมทั้ง testis เปอร์เซ็นต์ของสเปิร์มที่มีชีวิตต่ำลง


เมื่อให้สารสกัดเอทานอล 95% จากอีกทั้งต้น ทางสายยางให้อาหารแก่หนูถีบจักรเพศเมีย ขนาด 100 มิลลิกรัม/กก. นาน 30 วัน จะก่อให้หนูมีลูกยาก

  • เป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้น ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มล.,200 มค.กรัม/มล. รวมทั้ง 500 มค.ก./มิลลิลิตร เป็นพิษต่อเซลล์ sarcoma (Rous virus) (11), Ca-Hepatocarinoma-G2(7) แล้วก็ cell  line HuH-7 (13) ตามลำดับ
ข้อแนะนำ/ข้อควรไตร่ตรอง

  • สตรีตั้งครรภ์ห้ามรับประทานลูกใต้ใบเนื่องจากลูกใต้ใบมีคุณประโยชน์สำหรับการขับประจำเดือนซึ่งอาจจะก่อให้มีอันตรายได้
  • ลูกใต้ใบมีฤทธิ์ทางเภสัชที่ดังยาแอสไพริน เพราะฉะนั้นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข่งตัวของเลือดไม่ควรกิน
  • การใช้สมุนไพรลูกใต้ใบนั้น ไม่สมควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินความจำเป็น และไม่ควรจะใช้กำเนิดขนาดที่กำหนดในฉลากผลิตภัณฑ์
  • คนที่เป็นโรคตับ โรคไตควรขอคำแนะนำแพทย์ก่อนใช้เสมอ
หนังสืออ้างอิง

  • ศรีพร เหลียโลภอบธุระ.ลูกใต้ใบ&ตับอักเสบบี.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.
  • รองศาสตราจารย์ภกญ.นวลน้อย จูฑะดงษ์.รายงานการวิจัยฤทธิ์ของลูกใต้ใบต่อหน้าต่อตาที่ไมโตคอนเดรียในตับหนูขาว.สาขาวิชาเภสัชวิทยา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
  • ฤทธิ์คุ้มครองปกป้องตับของลูกใต้ใบในหนูขาว.ข่าวสารการเคลื่อนที่สมุนไพร.ที่ทำการข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ลีท้องนา ผู้พัฒนตระกูล, 2530. สมุนไพรไทยตอนที่ 5 . ฝ่ายวิชาพฤกษศาสตร์ป่าดง กองบำรุง กรมป่าไม้, จ.กรุงเทพฯ http://www.disthai.com/
  • Faremi TY, Suru SM, Fafunso MA, Obioha UE.Hepatoprotective potentials of Phyllanthus amarus againt etanol-induced oxidative stress in rats. Food Chem Toxicol.2008;46:2658-64
  • Van Welzen, P., Chayamarit, K. (2007) Euphorbiaceae, in: Santisuk, T., Larsen, K. (Eds.),


Flora of Thailand. Prachachon Co. LTD., Bangkok, pp. 473-507.

  • เต็ม สมิว่ากล่าวนันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้ที่เมืองไทย. ส่วนวิชาพฤกษศาสตร์ป่าดง สำนักวิชาการป่าดง กรมป่าไม้, จ.กรุงเทพฯ.
  • Giridharan, P., Somasundaram, S.T., Perumal, K., Vishwakarma, R.A., Karthikeyan, N.P., Velmurugan, R., Balakrishnan, A. (2002) Novel substituted methylenedioxy lignan suppresses proliferation of cancer cells by inhibiting telomerase and activation of c-myc and caspases leading to apoptosis. British Journal of Cancer 87: 98-105.



Tags : ลูกใต้ใบ
บันทึกการเข้า