โรคไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism, Thyrotoxicosis)โรคไทรอยด์เป็นพิษเป็นอย่างไร ก่อนจะทำความเข้าใจกับโรคไทรอยด์เป็นพิษนั้น ควรทำความรู้จักกับต่อมไทรอยด์กันก่อนต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมที่อยู่ข้างหน้าของบริเวณลำคอใต้ลูกกระเดือก แล้วก็ชิดกับหลอดลม มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ ลักษณะทางกายภาพของต่อมแบ่งเป็นทั้งหมดทั้งปวง 2 ส่วนเป็นซีกซ้ายและก็ซีกขวา ซึ่งต่อม 2 ด้านจะเชื่อมกันด้วยเยื่ออิสมัส (Isthmus) โดยต่อมไทรอยด์จะปฏิบัติภารกิจในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ 3 จำพวก คือไทโรซีน (Thyroxine - T4) และฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (Triiodothyronine - T3) ซึ่งทำหน้าที่สำหรับเพื่อการควบคุมการเผาของร่างกายที่เรียกว่า เมตาบอลิซึม (Metabolism) รวมทั้งฮอร์โมนแคลสิโทนิน (Calcitonin) ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมระดับแคลเซียมและก็ฟอสฟอรัสในระบบไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนี้ต่อมไทรอยด์ยังเป็นต่อมสถานที่สำหรับทำงานโดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) และก็ของสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งอีกทั้งต่อมใต้สมองและก็สมองไฮโปทาลามัสยังควบคุมการทำงานของอวัยวะอื่นๆด้วย เป็นต้นว่า ต่อมหมวกไต อัณฑะ และรังไข่ แล้วก็ยังมีความเชื่อมโยงกับอารมณ์รวมทั้งจิตใจ ฉะนั้น ถ้าหากแนวทางการทำงานของต่อมไทรอยด์ มีภาวการณ์ไม่ดีเหมือนปกติ ก็เลยอาจจะเป็นผลให้กำเนิดโรคต่างๆของอวัยวะพวกนั้น รวมทั้งชมรมกับอารมณ์รวมทั้งจิตใจด้วย ส่วนโรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นภาวการณ์ต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน(Overactive Thyroid) หมายถึงสภาวะที่ต่อมไทรอยด์* มีการหลั่งฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ออกมามากเกินไป กระตุ้นให้อวัยวะทั่วร่างกายมีการเผาผลาญสูงกว่าธรรมดาแล้วก็ทำให้ระบบต่างๆของร่างกายไม่ปกติตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดลักษณะการเจ็บป่วยๆต่างขึ้นตามมา ได้แก่ เหนื่อยง่าย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วไม่ดีเหมือนปกติ ขี้ร้อนง่าย เหงื่อออกมาก หงุดหงิด นอนไม่หลับ น้ำหนักตัวต่ำลงอย่างรวดเร็วแบบเปลี่ยนไปจากปกติ เป็นต้น โดยโรคนี้พบได้มากในหญิงมากกว่าผู้ชายถึง 5-10 เท่า
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ต่อมไทรอยด์เป็นพิษมีหลายสาเหตุ แต่จำนวนมากเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากระบบภูมิต้านทานขัดขวางโรคของร่างกายที่ไม่ดีเหมือนปกติกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป จนถึงทำให้ร่างกายมีปริมาณของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากกว่าความอยากได้ของร่างกาย แล้วก็มีสภาวะเป็นพิษ กระทั่งส่งผลต่อร่างกายในด้านต่างๆซึ่งพวกเราเรียกภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากเกินว่า ภาวการณ์ต่อมไทรอยด์ ที่มา : wikipedia ปฏิบัติงานเกิน (hyperthyroidism) แล้วก็เรียกอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากภาวการณ์มีฮอร์โมนไทรอยด์ มากเกินนี้ว่า ภาวะพิษจากไทรอยด์ (thyrotoxicosis) โดยมูลเหตุการเกิดโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษนั้นมีได้นานาประการมูลเหตุ ดังนี้
- โรคเกรฟส์ หรือ โรคคอพอกตาโปน (Graves’ disease) เป็นต้นเหตุที่พบบ่อยที่สุดราว 60-80% ของผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งโรคนี้จะมีผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทโรซีนออกมามากมายเปลี่ยนไปจากปกติจนกระทั่งทำให้กลายเป็นพิษ แล้วก็เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในวัยรุ่นรวมทั้งกลางคน พบในหญิงมากยิ่งกว่าผู้ชายราวๆ 5-10 เท่า สิ่งที่ทำให้เกิดการเกิดโรคยังไม่รู้เด่นชัดว่ามีต้นเหตุจากอะไร แม้กระนั้นพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเพศ (เจอในสตรีมากยิ่งกว่าผู้ชาย) และกรรมพันธุ์ (พบว่าคนเจ็บบางรายมีประวัติพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นโรคนี้ด้วย) การสูบยาสูบจะยิ่งเพิ่มการเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเจอเหตุว่า ความเครียดก็มีส่วนกระตุ้นให้โรคกำเริบได้
- เนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ เป็นในกรณีที่พบได้น้อย เหมือนกัน เนื้องอกที่เกิดบริเวณไทรอยด์ และเนื้องอกที่เกิดบริเวณต่อมใต้สมอง อาจส่งผลให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนไทรอยด์เยอะขึ้นจนเปลี่ยนเป็นพิษได้
- การอักเสบของต่อมไทรอยด์ (Thyroiditis) การอักเสบที่ไม่รู้สาเหตุของต่อมไทรอยด์จะทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์ถูกทำออกมามากขึ้น และทำให้ฮอร์โมนรั่วไหลออกไปที่กระแสเลือด ทั้งนี้การอักเสบของต่อมไทรอยด์โดยมากไม่มีลักษณะการเจ็บ ยกเว้นอาการไทรอยด์อักเสบแบบครึ่งทันควันที่เกิดขึ้นได้น้อย สามารถเป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บได้
- การกินอาหาร การทานอาหารที่มีไอโอดีนมากเกินความจำเป็นก็สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคไทรอยด์เป็นพิษ เพราะไอโอดีนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์แต่เจอได้น้อยมาก
- การได้รับการเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่มากเกินไป ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีนบางประเภท อาทิเช่น ยาอะไมโอดาโรน (Amiodarone) ที่ใช้สำหรับในการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะมีผลให้มีการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์เยอะขึ้นจนถึงกลายเป็นพิษได้
อาการโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษไม่ว่าจะเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเหตุผลใด มักมีอาการคล้ายคลึงกัน พูดอีกนัยหนึ่ง คนเจ็บจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยง่าย เมื่อยล้า ใจสั่นหวิว ใจสั่น บางคนอาจมีลักษณะการเจ็บหน้าอก ร่วมด้วย ชอบมีความรู้สึกขี้ร้อน เหงื่อออกมาก ฝ่ามือมีเหงื่อเปียก คนเจ็บจะมีน้ำหนักตัวลดน้อยลงรวดเร็วทันใจ ทั้งที่กินได้ปกติ หรืออาจรับประทานจุขึ้นกว่าปกติด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากร่างกายมีการเผาผลาญมากมายมักมีลักษณะมือสั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาทำงาน ละเอียด อย่างเช่น เขียนหนังสือ งานฝีมือ ฯลฯ อาจมีลักษณะซุกซน ชอบทำโน่นทำนี่ ครั้งคราวมองเป็นคนขี้โวยวาย หรือท่าทางลุกลน อาจมีอาการหงุดหงิด โมโหง่าย นอนไม่หลับ หรืออารมณ์ซึมเซา บางคนอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยมากเหมือนท้องร่วง หรือมีลักษณะอาการคลื่นไส้คลื่นไส้ ส่วนอาการที่พบมากที่สุดในผู้ที่มีลักษณะอาการต่อมไทรอยด์เป็นพิษคือ อาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น ผู้เจ็บป่วยจะรู้สึกหรือมองเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่รอบๆคอ เพศหญิงอาจมีเมนส์ออกน้อย หรือมาไม่สม่ำเสมอ หรือขาดระดู มักตรวจเจอว่ามีต่อมไทรอยด์โต (คอพอก) ชีพจรเต้นเร็ว (มากยิ่งกว่า 120 -140 ครั้งต่อนาที) รวมทั้งอาจมีอาการตาโปน (ลูกตาปูดโปนออกมามากยิ่งกว่าธรรมดา) รวมทั้งเห็นส่วนที่เป็นตาขาวด้านบนชัด (เนื่องจากว่าหนังตาบนหดรั้ง) เหมือนทำตาเพ่งดูอะไรหรือตาดุ ผิวหนังคลำดูมีลักษณะเรียบนุ่มและมีเหงื่อเปียก
ดังนี้ถ้าหากว่าผู้ป่วยมีภาวการณ์ไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่ร้ายแรงมากเท่าไรนัก ก็บางทีอาจไม่มีอาการใดๆก็ตามแสดงออกมา โดยเฉพาะคนวัยแก่ที่อาการมักไม่ค่อยแสดงออกอย่างแจ่มแจ้งมากนักขั้นตอนการรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ การวินิจฉัยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเอง วิธีวินิจฉัยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเองแบบง่ายๆก็คือการสังเกตความผิดปกติของร่างกาย ถ้าเกิดมีลักษณะอาการใดๆที่เกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักลดไม่ปกติ มือสั่น เหนื่อยง่าย หายใจสั้น หรือมีลักษณะบวมที่บริเวณคอ ควรรีบไปพบแพทย์ ส่วนการวินิจฉัย
โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษโดยแพทย์นั้น จะวินิจฉัยพื้นฐานจากอาการแสดงของโรค ดังเช่นว่า ใจสั่น เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด มือสั่น ชีพจรเต้นเร็ว ต่อมไทรอยด์โต และก็ตาโปน และถ้าพบว่ามีลักษณะพวกนี้ หมอจะทำการตรวจเสริมเติมดังนี้
- การพิสูจน์เลือด เป็นการเจาะเลือดเพื่อตรวจการดำเนินการของต่อมไทรอยด์และการเผาผลาญ เป็นต้นว่า
- การวัดปริมาณฮอร์โมนไทรอยด์ ปริมาณของฮอร์โมนไทรอยด์ T3 และก็ T4 ในเลือด
- การตรวจทีเอสเอช (Thyroid-stimulating hormone : TSH) เป็นการวัดระดับฮอร์โมนต่อมใต้สมองที่มีหน้าที่ควบคุมรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งในผู้ป่วยต่อมไทรอยด์เป็นพิษชอบมีค่า TSH ที่ต่ำกว่าธรรมดา
- การตรวจวัดระดับจำนวนแอนติบอดีของต่อมไทรอยด์ (Thyroidglobulin) เป็นการตรวจที่ช่วยวินิจฉัยโรคเกรฟส์ซึ่งเป็นต้นเหตุที่มักพบที่สุดของสภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
- การตรวจเอกซเรย์ เป็นการตรวจที่สามารถช่วยให้แพทย์มองเห็นการทำงานแล้วก็ความผิดแปลกของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ชัดขึ้น ตัวอย่างเช่น
- การตรวจอัลตราซาวนด์ เป็นการตรวจที่ช่วยวัดขนาดของต่อมไทรอยด์แล้วก็ความแปลกของต่อมไทรอยด์
- การตรวจสแกนต่อมไทรอยด์ (Thyroid scan) เป็นการตรวจโดยใช้รังสีเพื่อเห็นแนวทางการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่าต่อมไทรอยด์มีการงานที่มากแตกต่างจากปกติหรือเปล่า
- การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน (CT scan) หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า/เอ็มอาร์ไอ (MRI) หมอมักใช้ในเรื่องที่สงสัยว่าความผิดปกติของต่อมไทรอยด์อาจมีเนื้องอกหรือโรคมะเร็ง แล้วก็การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจะใช้ในกรณีที่หมอสงสัยว่าต้นเหตุของต่อมไทรอยด์เป็นพิษอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนเปลี่ยนไปจากปกติ
การรักษาหลักของต่อมไทรอยด์เป็นพิษเป็นการกินยา เมื่ออาการดียิ่งขึ้น แพทย์จะเบาๆลดยาลง และ หยุดยาได้สุดท้าย ถ้าหากรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือ การกินไอโอดีนกัมมันตรังสี ระยะเวลาเฉลี่ยสำหรับการรักษามักจะราว 2 ปี ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้- การดูแลรักษาด้วยยา ผู้เจ็บป่วยที่แก่น้อยมีลักษณะไม่ร้ายแรงมากและต่อมไทรอยด์ไม่โตมาก แพทย์มักแนะ นำให้รักษาด้วยการใช้ยาก่อน ยาที่ใช้รักษานี้จะเป็นยาลดการผลิตฮอร์โมนต่อมไทรอยด์และก็ยาลดอาการใจสั่น คนไข้หวานใจษาด้วยยานี้ต้องสามารถกินยาบ่อยๆอย่างสม่ำเสมอตลอดตามหมอเสนอแนะ โดยปกติหมอจะเสนอแนะให้รับประทานยาโดยประมาณ 1 ถึง 2 ปีโดยในขณะที่รักษาด้วยยาอยู่นี้แพทย์จะนัดหมายตรวจติดตามมองอาการรวมทั้งเจาะเลือดวัดระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์บ่อยๆเช่น ทุก 1 - 2 เดือนเพื่อแน่ใจว่าคนป่วยรับประทานยาในขนาดที่เหมาะสม ไม่มากหรือไม่พอ จุดด้วยของการรักษา ด้วยยาคือ ผู้เจ็บป่วยชอบจำเป็นต้องกินยานานเป็นปี มีโอกาสเกิดการแพ้ยาได้
ซึ่งยาที่ใช้ในขณะนี้เป็นกลุ่ม ยาต้านไทรอยด์ อย่างเช่น ยาเม็ดพีทียู (PTU) หรือเมทิมาโซล (methimazole) ยานี้มีผลใกล้กันที่สำคัญคือ อาจจะก่อให้เกิดภาวะ เม็ดเลือดขาวต่ำ ซึ่งทำให้ติดเชื้อร้ายแรงได้ ซึ่งเจอได้ราวๆ 1 ใน 200 คน และชอบเกิดขึ้นในระยะ 2 เดือนแรกของการใช้ยา
- การดูแลรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ สำหรับผู้เจ็บป่วยที่ต่อมไทรอยด์โตมากมายหรือมีอาการหายใจไม่สะดวกหรือกลืนลำบาก เพราะว่าต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้นกดแทรกทับหลอดลม หรือหลอดอาหาร ซึ่งทั้งคู่อวัยวะนี้อยู่ชิดกับต่อมไทรอยด์ แพทย์จะแนะนำให้รักษาโดยใช้การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกเล็กน้อยเพื่อต่อมไทรอยด์มีขนาดเล็กลง จะได้สร้างฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้น้อยลง รวมทั้งอาการหายใจติดขัดหรือกลืนทุกข์ยากลำบากจะดียิ่งขึ้น หากว่าเป็นแนวทางที่ทำให้หายจากสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้อย่างเร็ว แม้กระนั้นก็บางทีอาจเกิดผลข้างๆจากการผ่าตัดได้ดังเช่นว่า เสียงแหบจากผ่าตัดโดนเส้นประสาทกล่องเสียงที่อยู่ใกล้กับต่อมไทรอยด์ หรือถ้าเกิดแพทย์ตัดต่อมต่อมไทรอยด์ออกไม่เพียงพอ หลังผ่าตัดผู้เจ็บป่วยก็บางครั้งก็อาจจะยังมีลักษณะอาการจากสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษอยู่ยกตัวอย่างเช่นเดิม แต่ตรงกันข้าม ถ้าเกิดตัดต่อมไทรอยด์ออกมากเกินความจำเป็น หลังผ่าตัดผู้เจ็บป่วยจะเกิดอาการจากการขาดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ด้วยเหมือนกัน
- การรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีน น้ำแร่รังสีไอโอดีนเป็นสารไอโอดีนชนิดหนึ่ง (Iodine-131) ที่ให้รังสีแกมมา (Gamma ray) รวมทั้งรังสีเบตา (Beta ray ) รวมทั้งสามารถปล่อยรังสีนั้นๆออกมาทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ได้ เมื่อคนเจ็บดื่มน้ำแร่รังสีไอโอดีนเข้าไป ก็จะถูกดูดซึมโดยต่อมไทรอยด์ทำให้ต่อมไท รอยด์ มีขนาดเล็กลงรวมทั้งการผลิตฮอร์โมนก็จะน้อยลงไปด้วย อาการจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษจึง น้ำแร่รังสีไอโอดีนนี้ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วๆไป จะต้องรับการรักษาเฉพาะโรงหมอบางโรง พยาบาลที่ให้การรักษาด้านนี้เพียงแค่นั้น โดยจะใช้ช่วงเวลาการรักษาด้วยวิธีนี้ประมาณ 3-6 เดือน
การรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนมีคุณลักษณะเด่นคือ สามารถรักษาภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษให้หายสนิทได้สูง สะดวก ง่าย ปลอดภัย เหมาะสมกับคนไข้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปแล้วก็ต่อมไทรอยด์ไม่โตมากมาย หรือคนป่วยสุดที่รักษาด้วยยาเป็นระยะเวลานาน 1 - 2 ปีแล้วยังไม่หาย หรือหายแล้วกลับมาเป็นใหม่อีก หรือคนไข้สุดที่รักษาด้วยการผ่าตัดแล้วยังมีลักษณะจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษอยู่ ข้อบกพร่องของการดูแลรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนเป็น หลังการรักษาผู้ป่วยจะเกิดภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ได้บ่อยมาก ทำให้จำต้องรับประทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ไปตลอดชาติ
ยิ่งไปกว่านั้น การดูแลและรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนนี้ไม่อาจจะใช้ได้กับผู้เจ็บป่วยที่กำลังตั้ง ท้องเนื่องจากว่ารังสีส่งผลต่อลูกในท้อง บางทีอาจก่อความพิกลพิการหรือการแท้ง หรือในคนเจ็บให้นมบุตรอยู่เพราะว่าน้ำแร่รังสีไอโอดีนจะคละเคล้าออกมากับน้ำนมมีผลต่อต่อมไทรอยด์ของเด็กแรกเกิดได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ผู้ป่วยภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่มิได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆอาจมีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่างๆดังเช่นว่า
- ไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤต ถ้าหากมีการควบคุมระดับต่อมไทรอยด์ที่ไม่ดี อาจทำให้อาการร้ายแรงขึ้น หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งสัญญาณบอกว่าต่อมไทรอยด์เป็นพิษเข้าขั้นวิกฤตเป็น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ มีไข้สูงมากเกินไปกว่า 38 องศาเซลเซียส ท้องร่วง คลื่นไส้ ตัวเหลือง ตาเหลือง มีลักษณะงงเต็กงงงันอย่างหนัก และอาจถึงขั้นสลบได้ โดยสาเหตุที่อาจจะทำให้อาการเข้าสู่ภาวะวิกฤต เช่น การต่อว่าดเชื้อ การรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ การท้อง รวมทั้งความเสียหายของต่อมไทรอยด์ โดยสภาวะไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤติเป็นคราวฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะบางทีอาจมีอันตรายต่อคนเจ็บได้
- ปัญหาเรื่องระบบหัวใจ ภาวะแทรกซ้อนที่มักเป็นอันตรายต่อคนไข้โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็คือ ความผิดแปลกเกี่ยวกับหัวใจ ไม่ว่าจะเป็น หัวใจเต้นเร็ว หรือโรคหัวใจเต้นเปลี่ยนไปจากปกติที่เกิดจากการเขย่าที่หัวดวงใจห้องบน (Atrial Fibrillation) หรือแม้แต่สภาวะหัวใจวาย ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่ศีรษะหัวใจไม่อาจจะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ
- ปัญหาสายตา โดยปัญหาสายตาที่เป็นภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาแห้ง ตาไวต่อแสงสว่าง ตาแฉะ เห็นภาพซ้อน ตาแดง หรือบวม ตาโปนออกมามากว่าธรรมดา และก็บริเวณกลีบตาแดง บวม เปลือกตาปลิ้นออกมาแตกต่างจากปกติ รวมทั้งมีเล็กน้อยที่ต้องสูญเสียการมองเห็น ด้วยเหตุนั้นสำหรับในการรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ คนไข้บางทีอาจจะต้องพบหมอรักษาตาเพื่อรักษาควบคู่กันไปด้วย แม้กระนั้นปัญหาด้านสายตานี้พบได้ในคนไข้โรคเกรฟวส์เพียงแค่นั้น ที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
- ภาวะต่อมไทรอยด์ต่ำ หลายคราการดูแลรักษาต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็อาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ต่ำลงยิ่งกว่าปกติจนเกิดภาวะฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ต่ำ รวมทั้งนำมาซึ่งอาการต่างๆดังเช่นว่า รู้สึกหนาวแล้วก็อ่อนล้าง่าย น้ำหนักขึ้นแตกต่างจากปกติ มีลักษณะท้องผูก แล้วก็มีลักษณะเศร้าหมอง แต่ว่าอาการจะเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วครั้งคราว แล้วก็มีผู้เจ็บป่วยเพียงบางรายแค่นั้นที่เกิดอาการโดยถาวรและต้องใช้ยาในการควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไปตลอดชาติ
- กระดูกเปราะบาง โรคไทรอยด์เป็นพิษ หากมิได้รับการรักษาสามารถทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อมวลกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนแอ หรือกลายเป็นโรคกระดูกพรุน เหตุเพราะการที่ร่างกายมีฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากไป ซึ่งส่งผลต่อความสามารถสำหรับการซับแคลเซียมของกระดูกได้
การติดต่อของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษเป็นผลมาจากความไม่ปกติของภูเขามิคุ้นกันต่อต้านโรคของร่างกายไม่ปกติ ที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ผลิตฮอร์โมนมากเกินความจำเป็น ซึ่งโรคไทรอยด์เป็นพิษนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อเพราะเหตุว่าไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน หรือจากสัตว์สู่คนอะไร
การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หากตรวจพบว่าเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ก็ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
เอกสารอ้างอิง - รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.คอพอกเป็นพิษ.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่ 341.คอลัมน์สารานุกรมทันโรค.กันยายน 2550
- ไทรอยด์เป็นพิษ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
- หาหมอดอทคอม. “ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Thyrotoxicosis)”. (รศ.นพ.จรูญศักดิ์ สมบูรณ์พร). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : haamor.com. [16 ก.ค. 2017].
- รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์.ไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่มะเร็งไทรอยด์.ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.
- กระเทียม.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหิดล.
- Bahn RS, Burch HB, Cooper DS, Garber JR, Greenlee MC, Klein I, et al. Hyperthyroidism and other causes of thyrotoxicosis: management guidelines of the American Thyroid Association and American Association of Clinical Endocrinologists. Thyroid 2011; 21: 593 – 646.
- ไทรอยด์เป็นพิษ-อาการ,สาเหตุ,การรักษา,พบแพทย์ดอทคอม. http://www.disthai.com/
- Kang NS, Moon EY, Cho CG, Pyo S. Immunomodulating effect of garlic component, allicin, on murine peritoneal macrophages. Nutr Res (N.Y., NY, U.S.) 2001;21(4):617-26.
- ว่านหางจระเข้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหิดล.
- Lamm DL, Riggs DR. The potential application of Allium sativum (garlic) for the treatment of bladder cancer. The Urologic Clinics of North America 2000;27(1): 157-62.
- Ghazanfari T, Hassan ZM, Ebrahimi M. Immunomodulatory activity of a protein isolated from garlic extract on delayed type hypersensitivity. Int Immunopharmacol 2002;2(11):1541-9.
- Kuttan G. Immunomodulatory effect of some naturally occuring sulphur-containing compounds. J Ethnopharmacol 2000;72(1-2):93-9.
- Abuharfeil NM, Maraqa A, Von Kleist S. Augmentation of natural killer cell activity in vitro against tumor cells by wild plants from Jordan. J Ethnopharmacol 2000;71 (1-2):55-63.
- Farkas A. Methylation of polysaccharides from aloe plants for use in treatment of wounds and burns. Patent: U S 3,360,510, 1967:3pp.
- Cheon J, Kim J, Lee J, Kim H, Moon D. Use of garlic extract as both preventive and therapeutic agents for human prostate and bladder cancers. Patent: U S US 6,465,020 ,2002:7pp.
- Farkas A. Topical medicament containing aloe polyuronide for treatment of burns and wounds. Patent: U S 3,103,466, 1963:4pp.
- Strickland FM, Pelley RP, Kripke ML. Cytoprotective oligosaccharide from aloe preventing damage to the skin immune system by UV radiation. Patent: PCT Int Appl WO 98 09,635, 1998:65pp.
- ลูกซัด.ฐานข้อมูลเครื่องยา.คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
- ณรงค์ชัย ประสิทธิ์ภูริปรีชา นิศา อินทรโกเศส โอภา วัชรคุปต์ พิสมัย ทิพย์ธนทรัพย์. การทดลองใช้สารสกัดว่านหางจระเข้กับแผลที่เกิดจากรังสีบำบัด. รายงานโครงการพิเศษ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2529.
Tags : โรคไทรอยด์เป็นพิษ