รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์สามารถรักษาโรคได้เป็นอย่างยอดเยี่ยมา  (อ่าน 535 ครั้ง)

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด

บัวบก
ชื่อสมุนไพร บัวบก
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น ใบบัวบก (ภาคกึ่งกลาง) ผักหนอก จำปาเครือ (ภาคเหนือ) ปะหะ เอขาเด๊าะ (กะเหรี่ยง) แว่นโคก (อีสาน) ผักแว่น (ภาคใต้) เดียกำเช่า ฮมคัก (จีน)
ชื่อสามัญ Asiatic pennywort , Gotu kola , Indian pennywort , Woter pennywort
ชื่อวิทยาศาสตร์  Centella asiatica (Linn.) Urban.
วงศ์  UMBELLIFERAE (APIACEAE)
บ้านเกิด  บัวบกหรือใบบัวบก มีถิ่นกำเนิดเดิมในทวีปแอฟริกา ต่อมาก็เลยถูกนำเข้ามาปลูกไว้ในทวีปเอเชียที่อินเดียและก็ประเทศในแถบอเมริกาใต้ อเมริกากลาง รวมทั้งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปเอเชียเหนือ เดี๋ยวนี้ บัวบกได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก อีกทั้งในประเทศเขตร้อน และเขตอบอุ่น ซึ่งพบว่ามีการแพร่ขยายในประเทศแถบอเมริกา ยุโรป แอฟริกา แล้วก็บ่อยมาจนถึงทุกประเทศในทวีปเอเชีย ส่วนประเทศไทยเจอบัวบกขึ้นในทุกภาคของประเทศ  ทั้งนี้บัวบกได้ถูกประยุกต์ใช้เป็นสมุนไพรในวิถีชีวิตของชาวไทยมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว ซึ่งมีการโจษขานและบันทึกในแบบเรียนยาของไทยไว้หลายฉบับด้วยกัน นอกเหนือจากนั้นคนประเทศไทยยังมีการนำบัวบกมาใช้สำหรับในการปรุงอาหารทั้งยังคาวแล้วก็หวานอีกด้วย ที่สามารถสะท้องถึงความใกล้ชิดของบัวบกกับแนวทางชีวิตของชาวไทยตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี
ลักษณะทั่วไป บัวบก เป็นพืชล้มลุกอายุนับเป็นเวลาหลายปี มีลำต้นเป็นไหล(stolen) เลื้อยไปตามพื้นดินหรืออยู่ด้านล่างหน้าผิวดิน ไหลมีลักษณะทรงกลม ไหลอ่อนมีสีขาว ไหลแก่มีสีน้ำตาล ขนาดประมาณ 0.2-0.4 มม. ยาวได้มากกว่า 1 เมตร ไหลมีลักษณะเป็นข้อปล้อง บริเวณข้อเป็นจุดแทงออกของก้านใบ ส่วนด้านล่างของข้อมีรากกิ้งก้านแทงลึกลงดิน และก็แต่ละข้อแตกกิ่งก้านสาขาแยกไหลไปเรื่อยๆทำให้ต้นบัวบกขึ้นปกคลุมพื้นที่โดยรอบได้อย่างดกทึบ ใบบัวบกออกเป็นใบเดี่ยว และก็ออกเป็นกลุ่มปริมาณหลายใบบริเวณข้อ แต่ละข้อมีใบ 2-10 ใบ ใบประกอบด้วยก้านใบที่แทงตั้งตรงจากข้อ ก้านใบสูงโดยประมาณ 10-15 ซม. มีลักษณะทรงกลม สีเขียวอ่อน ถัดมาเป็นแผ่นใบที่เชื่อมติดกับก้านใบรอบๆกึ่งกลางของใบ ฐานใบโค้งเว้าเข้าหากัน แผ่นใบมีทรงกลมหรือมีรูปร่างคล้ายไต ขอบของใบหยัก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-4 เซนติเมตร แผ่นใบด้านใบเรียบ สีเขียวสด แผ่นใบข้างล่างมีขนสั้นๆปกคลุม แล้วก็มีสีเขียวจางกว่าข้างบน ขอบใบหยักเป็นคลื่น  ดอกบัวบกออกเป็นช่อที่ซอกใบของข้อ ช่อดอกมีทรงช่อเหมือนร่ม อาจมีช่อผู้เดียวหรือมีประมาณ 2-5 ช่อ แต่ละช่อมีโดยประมาณ 3-4 ดอก มีก้านช่อดอกยาวทรงกลม ขนาดเล็ก ราวๆ 0.5-5 ซม. ส่วนกลีบดอกมีสีขาว กึ่งกลางมีเกสรตัวผู้ขนาดสั้น  ผลมีขนาดเล็ก มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร เปลือกเม็ดแข็ง มีสีเขียวหรือม่วงน้ำตาล
การขยายพันธุ์ การปลูกบัวบกตอนแรกใช้วิธีปลูกด้วยเมล็ด โดยนำมาเพาะในกระบะ เมื่อต้นกล้าแข็งแรงก็ดีแล้ว หรือมีอายุ 15-25 วัน ก็เลยย้ายกล้าลงปลูกในแปลงแล้ว กระทำการดูแล ให้ปุ๋ย ให้น้ำ ต่อมาได้ปรับปรุงเป็นการปลูกให้มีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น ลำต้นของบัวบกที่แตกจากต้นแม่ ซึ่งจะทำขุดไหลหรือลำต้นนั้นให้ติดดิน หลังจากนั้นนำดินมาพอกที่รากให้เป็นก้อนแล้วเก็บพักเอาไว้ในที่ร่ม แล้วประพรมน้ำบางส่วน จึงเก็บไว้อย่างต่ำ 24 ชั่วโมง พอเพียงวันที่ 2 สามารถจะนำกิ้งก้านนั้นไปปลูกได้เลย หรือถ้าเกิดไม่สบายที่จะเก็บพักไว้ก็สามารถจะขุดแขนงมาแล้วปลูกในทันทีเลยก็ได้ ส่วนวิธีการปลูกนั้นมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การเตรียมดิน ควรไถยกร่องเพื่อตากดินแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน โดยไถลูกพรวนดินให้ร่วนซุยแล้วหลังจากนั้นก็เลยขุดแต่งให้เป็นรูปแปลง ชูร่องเป็นแปลงปลูกกว้าง 3 เมตร ระหว่างแปลงปลูกจัดเป็นร่องน้ำหรือทางเดินกว้าง 50 ซม. ลึก 15 เซนติเมตร เพื่อให้มีการระบายน้ำเสียได้ดิบได้ดี เมื่อทำแปลงเสร็จให้ใส่อินทรียวัตถุหว่านลงบนแปลงให้ทั่ว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
                การปลูก ขุดหลุมลึก 3-4 เซนติเมตร แล้วนำต้นกล้าบัวบก ปลูกหลุมละ 1 ต้น โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นรวมทั้งระยะระหว่างแถว 15 x 15 ซม. ซึ่งก็จะได้บัวบกจำนวนต้นต่อไร่โดยประมาณ 70000-72000 ต้น เมื่อปลูกเสร็จแล้วให้กระทำการรดน้ำให้เปียกแฉะ
                การใส่ปุ๋ย ควรจะให้ปุ๋ยหนแรกหลังจากปลูก 15 – 20 วัน โดยให้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อัตรา 5 กิโลต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งลำดับที่สองจะห่างจากการใส่ทีแรก 15 – 20 วันโดยเปลี่ยนเป็นใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 3 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งที่สามจะห่างจาการใส่ครั้งสอง 15 – 20 วัน โดยกลายเป็นใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตรา 50  โล/ไร่ ทุกครั้งที่มีการใส่ปุ๋ยเสร็จแล้วจะต้องรดน้ำให้เปียกแฉะ
                การให้น้ำ สามารถให้น้ำได้ 2 วิธีเป็น ระบบมินิสปริงเกอร์ ซึ่งเปิดให้น้ำยามเช้ารวมทั้งเย็น ช่วงละ 10-15 นาที ถ้าเกิดคือการใช้สายยางเดินฉีดน้ำให้รดจนกระทั่งจะเปียกเนื่องจากใบบัวบกจะเจริญเติบโตเจริญเมื่อได้รับความชุ่มชื้นที่เหมาะสม
ค่าทางโภชนาการใบบัวบก (ใบสด 100 กรัม)
น้ำ                                                           86                                           กรัม
พลังงาน                                 54                                           กิโลแคลอรี่
โปรตีน                                                    1.8                                          กรัม
ไขมัน                                                       0.9                                          กรัม
คาร์โบไฮเดรต                                        9.6                                          กรัม
ใยอาหาร                                                2.6                                          กรัม
เถ้า                                                           1.7                                          กรัม
แคลเซียม                                               146                                         มก.
ธาตุฟอสฟอรัส                                              30                                           มิลลิกรัม
เหล็ก                                                       3.9                                          มิลลิกรัม
แอสคอบิด (วิตามิน C)                         15                                           มก.
ไทอะมีน (วิตามิน B1)                           0.24                                        มก.
ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2)    0.09                                        มิลลิกรัม
ไนอะซีน (วืตามิน B3)                           0.8                                          มิลลิกรัม
เบต้า แคโรทีน                                        2,428                                      ไมโครกรัม
วิตามิน A                                               405                                         ไมโครกรัม
ประโยชน์ / สรรพคุณ ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากบัวบกที่เราพบเจอจนกระทั่งชินตาก็คือ การนำใบของบัวบกมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรหรือนำมาทำเป็นชาชงรวมถึง การนำใบแล้วก็เถาบัวบกมารับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
แต่ในขณะนี้มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆมาดัดแปลงให้บัวบก เป็นผลิตภัณฑ์ในลักษณะต่างๆอีกเยอะมาก เช่น มีการทำสารสกัดจากใบบัวบกเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการผลิตเครื่องแต่งตัว ใช้ทำเป็นสิ่งของปิดแผล รวมทั้งเอามาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้ ทั้งยังยังมีการเอามาผลิตเป็นแคปซูลวางจำหน่าย ซึ่งกำหนดถึงคุณประโยชน์ว่าในการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic) ส่วนสรรพคุณทางยาของบัวบกนั้นมีดังนี้ สรรพคุณตามตำรายาไทยใช้บัวบกแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ช้ำใน ใช้เป็นยาข้างนอกรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว เป็นยาบำรุงแล้วก็ยาอายุวัฒนะ ช่วยสร้างเสริมความจำ บรรเทาอาการปวดหัว แก้อาการมึนหัว ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ บำรุงกำลัง ทุเลาลักษณะของการปวดตามข้อ ตามกล้ามเนื้อ แก้อาการท้องผูก กระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้โรคซาง แก้โรคดีซ่านในเด็ก ช่วยบำรุงตับ และไต แก้โรคตับอักเสบ ช่วยทำนุบำรุงสายตา แก้ตาฟางมัว  เป็นยาขับเลือดเสีย แก้อยากกินน้ำ ทุเลาอาการไอ อาการเจ็บคอ แก้ลักษณะของการเจ็บคอ รักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาอาการโรคหืดหอบ แก้โรคลมชัก ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน  รักษาโรคปากเปื่อย ช่วยขับฉี่ แก้โรคนิ่วในระบบทางเดินเยี่ยว ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยขับรอบเดือน กระตุ้นประจำเดือนให้มาธรรมดา และก็แก้อาการปวดเมนส์ รักษาฝี ช่วยทำให้ฝียุบ  ส่วนทางการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า ข้อมูลที่ได้รับมาจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยในคนพบว่าบัวบกมีฤทธิ์รักษาความผิดปกติของเส้นเลือดดำ ช่วยให้วิตกกังวลน้อยลง รักษาแผลที่ผิวหนัง และก็รักษาแผลในทางเดินของกิน ช่วยสร้างเสริมแล้วก็กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและก็อีลาสติน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านทานการเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย ช่วยทำนุบำรุงประสาทรวมทั้งสมองเสมือนใบแปะก๊วย ช่วยเสริมแนวทางการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายและก็ทำให้หลับง่ายขึ้น  ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ใบบัวบกมีสารยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง
แบบอย่าง/ขนาดวิธีการใช้
แก้ไข้ แก้ร้อนใน ช้ำใน  ชนิดแคปซูล (รพ.), จำพวกชง(โรงพยาบาล) ประเภทชง รับประทานครั้งละ 2 – 4 กรัม ชงน้ำร้อนโดยประมาณ 120 – 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ชนิดแคปซูล  รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ใช้บัวบกรักษาแมลงกัดต่อย และรักษาแผล ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข                  ให้ใช้ใบขยี้ทาแก้แมลงกัดต่อย หรือใช้ส่วนใบสด พอกที่แผลสด วันละ 2 ครั้ง   ยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ครีมใบบัวบก  ทำความสะอาดแผลด้วยยาฆ่าเชื้อก่อนทาครีมที่มีสารสกัดจากบัวบกสดปริมาณร้อยละ 7 โดยน้ำหนัก  ทาบริเวณที่เป็นแผลวันละ 1 – 3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง ถ้าใช้แล้วไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ให้หยุดใช้   ควรเก็บครีมใบบัวบกในที่เย็น อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส แก้อาการปัสสาวะขัดข้อง ด้วยการกางใบบัวบกราว 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะคล่องก็ดีค่อยคัดแยกออก  ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการกางใบสดราวๆ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด  แก้อาการฟกช้ำดำเขียว ด้วยการกางใบบัวบกมาตีให้แหลกแล้วเอามาโปะรอบๆที่ฟกช้ำดำเขียว หรือจะใช้ใบบัวบกราวๆ 40 กรัม ต้มกับสุราแดงประมาณ 250 cc. ราว 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย  สารสกัดเอทานอล (2-4) รวมทั้งสารสกัดด้วยน้ำร้อน จากส่วนเหนือดิน มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus (2-5), b-Streptococcus group A และก็ Pseudomonas aeruginosa สารสกัดเฮกเซน สารสกัดไดคลอโรมีเทน สารสกัดเอทิลอะซีเตท สารสกัดอีเทอร์ และก็สารสกัดเมทานอลจากใบ มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. aureus แม้กระนั้นไม่มีผลต่อเชื้อ P. aeruginosa        สารสกัดจากส่วนราก ใบแล้วก็ส่วนเหนือดิน และน้ำมันหอมระเหยจากบัวบก มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ดังเช่นว่า Bacillus subtilis, Escherichia coli, Proteus vulgaris และ Pseudomonas cichorii  มีกล่าวว่าอนุพันธ์บางจำพวกของ asiaticoside สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อวัณโรคในหลอดทดลอง แล้วก็ลดร่องรอยโรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อวัณโรคในตับ ปอด ปมประสาทของหนูตะเภาที่ทำให้เป็นวัณโรคได้           
ฤทธิ์ลดการอักเสบ สารสกัดเอทานอลจากใบมีฤทธิ์ลดการอักเสบอย่างอ่อนในหนูขาว โดยไปยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ prostraglandin สาร saponin ขนาด 1 ไมโครโมล จะลดการอักเสบและอาการบวมในหนูถีบจักรที่ถูกรั้งนำให้เกิดอาการบวมที่หูด้วย croton oil ขี้ผึ้ง Madecassol ซึ่งมีสาร asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside สามารถลดการอักเสบ เมื่อใช้ทาที่ผิวหนังหนูซึ่งมีการอักเสบจากการฉายรังสี ผงแห้งจากส่วนเหนือดินของบัวบก ให้คนรับประทาน สามารถลดอาการอักเสบได้
ฤทธิ์รักษาแผลสารสกัด 95% เอทานอลจากใบ ขนาด 1 มล./โล พบว่าส่งผลเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจน เมื่อให้ทางปากและก็ทาที่แผลของหนูขาว สารสกัดจากบัวบก (titrated extract) ซึ่งมีสาร asiatic acid, made cassic acid แล้วก็ asiaticoside มีฤทธิ์รักษาแผลในหนูขาว โดยจะรีบการสร้าง connective tissue เพิ่มปริมาณคอลลาเจน และกรด uronic เมื่อนำสารสกัดมาใช้ทาข้างนอกเพื่อรักษาแผลในหนูขาว พบว่าทำให้แผลหายเร็วขึ้น โดยการทำให้มีการกระจายตัวของหนองในรอยแผล และก็แผลมีขนาดเล็กลง แต่ถ้าหากใช้รับประทานจะไม่ได้ผล  ขณะที่รายงานบางฉบับพบว่า เมื่อให้หนูขาวกินสารสกัดในขนาดวันละ 100 มก./กก. มีผลสำหรับการรักษาแผลโดยการทำให้การสร้างหนังกำพร้าเร็วขึ้น และรอยแผลมีขนาดเล็กลง ครีม ขี้ผึ้งรวมถึงเจลที่มีสารสกัดน้ำจากบัวบก 5% เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูขาว 3 ครั้ง/วัน นาน 24 วัน พบว่าส่งผลเพิ่มการเติบโตของเยื่อบุผิว เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและเพิ่ม tensile strength ซึ่งสูตรที่อยู่ในรูปเจลจะได้ผลดียิ่งกว่าขี้ผึ้งและครีม
          สาร asiaticoside มีฤทธิ์สมานแผล รีบการหายของแผลเมื่อทดสอบในหนูขาว หนูถีบจักร และก็ในคน เมื่อให้สาร asiaticoside ขนาด 1 มิลลิกรัม/กก. ทางปากแก่หนูตะเภาแล้วก็ใช้ทาที่ผิวหนังในหนูตะเภาปกติรวมทั้งหนูขาวที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งแผลหายช้า ที่ความเข้มข้น 0.2% และจากนั้นก็ 0.4% เป็นลำดับ พบว่ามีผลเพิ่ม tensile strength เพิ่มปริมาณของคอลลาเจน และลดขนาดของแผล tincture ที่มี asiaticoside เป็นองค์ประกอบ 89.5% จะรีบการหายของแผล เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูตะเภา
          สำหรับการทดลองในคน มีกล่าวว่าครีมที่มีสารสกัดอัลกอฮอล์จากบัวบกเป็นองค์ประกอบ 0.25-1% สามารถช่วยรักษารวมทั้งสร้างผิวหนังในคนวัยแก่ ครีมที่มีสารสกัดจากบัวบก 1% สามารถรักษาแผลอักเสบแล้วก็แผลแยกด้านหลังผ่าตัดในคนป่วยจำนวน 14 ราย ข้างใน 2-8 อาทิตย์ โดยพบว่าได้ประสิทธิภาพที่ดี 28.6% ผลปานกลาง 28.6% แล้วก็ผลพอประมาณ 35.7% ไม่เป็นผล 1 ราย  แล้วหลังจากนั้นก็รักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากอุบัติเหตุ ในผู้ป่วยปริมาณ 22 ราย ข้างใน 21 วัน พบว่าขนาดของแผลจะต่ำลง มีแผลหายสนิท 17 ราย ยังไม่หายสนิท 5 ราย  tincture ที่อยู่ในรูป aerosol ซึ่งมี asiaticoside 89.5% เมื่อใช้ฉีดที่แผลของคนป่วยซึ่งเป็นแผลประเภทต่างๆจำนวน 20 ราย พบว่าสามารถรักษาแผลหายได้ 16 ราย (64%) และก็ทำให้อาการ 4 ราย (16%) โดยมีลักษณะข้างๆเป็น การไหม้ของผิวหนัง (burning sensation)  เมื่อให้ผู้ป่วยที่เป็น post-phlebitic syndrome กินสารสกัด triterpenoid ในขนาด 90 มิลลิกรัม/วัน นาน 3 สัปดาห์ พบว่าจะลดการเพิ่มจำนวนของ circulating endothelial cell
ฤทธิ์แก้ปวดสารสกัด 60% เอทานอลจากใบ ขนาด 20 มิลลิกรัม/กก.  และจากนั้นก็สารสกัด 95% เอทานอลจากทั้งยังต้น ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม  มีฤทธิ์แก้ปวดในหนูขาวแล้วก็หนูถีบจักร แม้กระนั้นสารสกัด 50% เอทานอลจากทั้งยังต้นในขนาด 125 มก./กก. ไม่มีฤทธิ์แก้ปวด เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร
ฤทธิ์ลดไข้  สารสกัด 95% เอทานอลสามารถลดไข้ได้ 1.20F เมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูขาว แต่ถ้าหากฉีดสารสกัด 50% เอทานอล ขนาด 125 มก./กก. เข้าท้องหนูถีบจักรจะไม่ได้เรื่อง  สารสกัดเมทานอลจากส่วนเหนือดินแล้วก็ใบ ขนาด 2 กรัม/กิโลกรัม ไม่มีฤทธิ์ลดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อทดสอบในหนูถีบจักร
ฤทธิ์ต่อต้านฮีสตามีนสารสกัดใบบัวบกด้วยแอลกอฮอล์ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 ใช้ทาข้างนอกจะสามารถลดการแพ้ได้ แล้วหลังจากนั้นก็ช่วยทุเลาลักษณะการเจ็บปวด หรืออักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อย
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อราสารสกัดเอทานอลจากทั้งต้น มีผลต้านทานเชื้อราที่นำมาซึ่งโรคกลาก เช่น Trichophyton mentagrophytes  และ T. rubrum ในขณะที่สารสกัดด้วยน้ำร้อน ไม่พบว่าส่งผลขัดขวางเชื้อรา 2 พวกนี้    ส่วนน้ำมันหอมระเหยจะมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา Aspergillus niger, Rhizopus oryzae, Fusarium solani, Candida albicans และก็ Colletotrichum musae
รักษาแผลในกระเพาะอาหารจากการทดสอบในหนูแรทพบว่า สารสกัดด้วยเอทานอล แล้วก็สารสกัดด้วยน้ำจากต้นรวมทั้งจากใบ มีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะในหนูที่ถูกรั้งนำให้กำเนิดแผลในกระเพาะด้วยความเคร่งเครียดและก็กรดเกลือในเอทานอล  โดยจะลดขนาดของแผล เพิ่มจำนวนของหลอดเลือดขนาดเล็กในเนื้อเยื่อ เพิ่มจำนวนและผู้ที่ทำระจายของเซลล์ที่บริเวณแผล  ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองในคนที่รับประทานสารสกัดจากบัวบก (Madecassol) พบว่าช่วยรักษาแผลในกระเพาะแล้วก็ไส้ได้
การเรียนทางพิษวิทยา
การทดลองความเป็นพิษ     ไม่พบความเป็นพิษของสารสกัดด้วย 50% เอทานอล เมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูถีบจักร ขนาด 250 มิลลิกรัม/กก. และฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือให้ทางปากของหนูขาว ขนาด 10 กรัม/กก.  สารสกัด 70% เอทานอลมีค่า LD50 เท่ากับ 675 มก./กก. ในหนูขาวเพศผู้ (ไม่กำหนดกรรมวิธีการให้) แม้กระนั้นมีรายงานการแพ้รวมทั้งอักเสบต่อผิวหนังในคน เมื่อใช้ผงแห้ง  สารสกัดที่มีกลัยวัวไซด์จากบัวบกปริมาณร้อยละ 2   สารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดจากทั้งต้นในความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 2 และก็สารสกัด Madecassol ที่ประกอบด้วย asiatic acid, madecassic acid รวมทั้ง asiaticoside ทาข้างนอก 
พิษต่อเซลล์ น้ำคั้นจากบัวบกเป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัด 50% เอทานอลเป็นพิษต่อเซลล์ 9KB  สารสกัดเมทานอลรวมทั้งสารสกัดอะซีโตน มีความเป็นพิษต่อเซลล์ CA-Ehrich, Dalton’s lymphoma แล้วก็ L929 แม้กระนั้นไม่เป็นพิษต่อเซลล์ human lymphocyte สารไทรเทอร์ปีนส์จากต้น มีความเป็นพิษต่อเซลล์ fibroblast ของคน
 ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์สารสกัดอัลกอฮอล์มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ในแบบที่อยากได้เอนไซม์จากตับกระตุ้นการออกฤทธิ์ต่อเชื้อ Salmonella typhimurium TA98, TA100  โดยมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แบบ frameshift แค่นั้น ไม่เจอแบบ base-pair substitution สารสกัดน้ำจากส่วนเหนือดิน ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อเชื้อ S. typhimurium TA98, TA100
พิษต่อระบบขยายพันธุ์ น้ำคั้นจากต้น ขนาด 0.5 มล. มีผลคุมกำเนิดในหนูถีบจักร 55.60% สารสกัดจากบัวบกขนาด 0.2 มล. ฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักร พบว่าไม่เป็นผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน  สาร saponin จากทั้งต้น ขนาด 2% ไม่มีผลทำลายเชื้ออสุจิของคน
กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการแพ้        สารสกัด 30% อีเทอร์ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการระคายเคืองอย่างอ่อนต่อผิวหนังหนูตะเภา  ในคนมีรายงานการแพ้และก็อักเสบต่อผิวหนัง เมื่อใช้ผงแห้ง  สารสกัดกลัยวัวไซด์ 2% สารสกัดน้ำ สารสกัดจากทั้งยังต้น 2% (ไม่กำหนดประเภทสารสกัด) แล้วก็สารสกัด Madecassol ที่ประกอบด้วย asiatic acid, madecassic acid รวมทั้ง asiaticoside  oinment ที่มีบัวบกเป็นส่วนประกอบ 1% กระตุ้นให้เกิด acute erythemato-bullous การระคายเคืองต่อผิวหนังเกิดได้การใช้พืชสดหรือแห้ง  อาการระคายต่อผิวหนังของบัวบกมีผลค่อนข้างต่ำ
คำแนะนำ / ข้อควรระวัง

  • บัวบกไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวการณ์เย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องขึ้นบ่อยๆ
  • ไม่แนะนำให้ใช้ยาที่มีส่วนประกอบของบัวบกในผู้ที่สงสัยว่าป่วยเลือดออกเนื่องจากบางทีอาจบดบังลักษณะของไข้เลือดออกได้
  • พึงระวังการกางใบบัวบกร่วมกับยาที่ส่งผลต่อตับ ยาขับปัสสาวะ และยาที่ส่งผลข้างเคียงทำให้ ง่วงงุน เพราะเหตุว่าอาจเสริมฤทธิ์กันได้
  • พึงระวังการใช้ร่วมกับยาที่มีวิธีการเมเกือบจะอลิซึมผ่าน Cytochrome P450 (CYP 450) เหตุเพราะบัวบกมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ CYP 2C9 และ CYP 2C19
  • สำหรับการทำเป็นสมุนไพรไม่สมควรนำใบบักบกไปตากแดดเพื่อทำให้แห้ง เพราะเหตุว่าจะทำให้สูญเสียตัวยาสมุนไพรซึ่งอยู่ในน้ำมันหอมระเหยได้ โดยให้ผึ่งลมตากไว้ภายในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก เมื่อแห้งแล้ว ให้เอามาใส่ขวดปิดฝาให้สนิทคุ้มครองความชื้น
  • การกินบัวบกในปริมาณที่มากเกินไป จะมีผลให้ธาตุภายในร่างกายเสียสมดุลได้ ด้วยเหตุว่าเป็นยาเย็นจัด แม้กระนั้นถ้ารับประทานในขนาดที่พอดิบพอดีแล้วจะไม่มีโทษต่อร่างกายและได้ประโยชน์สูงสุด
เอกสารอ้างอิง

  • อารีรัตน์ ลออปักษา สุรัตนา อำนวยผล วิเชียร จงบุญประเสริฐ. การศึกษาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ (ตอนที่ 1).  ไทยเภสัชสาร 2531;13(1):23-35.
  • จันทรพร ทองเอกแก้ว, 2556, บัวบก : สมุนไพรมากคุณประโยชน์.
  • พิมพร ลีลาพรพิสิฐ สุมาลี พฤกษากร ไชยวัฒน์ ไชยสุต และคณะ. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรักษาสิวจากน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากพืชไทย.  การประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 3, 30 สิงหาคม-3 กันยายน, นนทบุรี, หน้า 40.   
  • บัวบก.สมุนไพรที่มีการใช้ในสาธารณสุขมูลฐาน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Chen YJ, Dai YS, Chen BF, et al. The effect of tetradrine and extracts of Centella asiatica on acute radiation dermatitis in rats.  Biol Pharm Bull 1999;22(7):703-6.
  • บักบก/ใบบัวบก (Gotu kola) ประโยชน์และสรรพคุณใบบัวบก.พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อเกษตรกรไทย
  • วีระสิงห์ เมืองมั่น.  รายงานผลการวิจัยเรื่องการใช้ครีมบัวบกรักษาแผลอักเสบ.  การประชุมโครงการการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาตำรับยาสมุนไพรที่ใช้ในโรงพยาบาล, กรุงเทพฯ, 30 พค. 2526.
  • กองโภชนาการ กรมอนามัย, 2544, ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย. http://www.disthai.com/
  • บัวบก.สมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • นันทวัน บุณยะประภัศร และอรนุช โชคชัยเจริญพร,2547, สมุนไพรไม้พื้นบ้าน(2).
  • Dabral PK, Sharma RK.  Evaluation of the role of rumalaya and geriforte in chronic arthritis-a preliminary study.  Probe 1983;22(2):120-7.
  • แก้ว กังสดาลอำไพ วรรณี โรจนโพธิ์ ชนิพรรณ บุตรยี่. การประเมินฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของสมุนไพรไทยในรูปของยาตำรับ  สามัญประจำบ้านแผนโบราณตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขและสมุนไพรบางชนิด โดยวิธีเอมส์เทสต์.  การประชุมวิชาการ  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 3, 3-4 สิงหาคม 2533:47-9.
  • Maquart FX, Chastang F, Simeon A, Birembaut P, Gillery P, Wegrowski Y. Triterpenes from Centella asiatica  stimulate extracellular matrix accumulation in rat experimental wounds.  Eur J Dermatol 1999;9(4):289-96.
  • Ray PG, Majumdar SK. Antimicrobial ac
บันทึกการเข้า