รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไทรอยด์ มีวิธีรักษาด้วยสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์  (อ่าน 528 ครั้ง)

Tawatchai1212

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • ดูรายละเอียด


โรคไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism, Thyrotoxicosis)
โรคไทรอยด์เป็นพิษเป็นอย่างไร ก่อนจะทำความเข้าใจกับโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษนั้น ควรจะทำความรู้จักกับต่อมไทรอยด์กันก่อนต่อมไทรอยด์ คือต่อมที่อยู่ด้านหน้าของบริเวณลำคอใต้ลูกกระเดือก รวมทั้งชิดกับหลอดลม มีลักษณะเหมือนผีเสื้อ ลักษณะทางด้านกายภาพของต่อมแบ่งเป็นทั้งหมดทั้งปวง 2 ส่วน คือ ส่วนซ้ายและก็ส่วนขวา ซึ่งต่อมทั้งยัง 2 ซีกจะเชื่อมกันด้วยเนื้อเยื่ออิสมัส (Isthmus) โดยต่อมไทรอยด์จะปฏิบัติภารกิจสำหรับในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ 3 ชนิด เป็นไทโรซีน (Thyroxine - T4) และฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (Triiodothyronine - T3) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการเผาผลาญของร่างกายที่เรียกว่า เมตาบอลิซึม (Metabolism)  รวมถึงฮอร์โมนแคลซิโทนิน (Calcitonin) ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมระดับแคลเซียมแล้วก็ฟอสฟอรัสในระบบไหลเวียนของเลือด  ยิ่งไปกว่านี้ต่อมไทรอยด์ยังเป็นต่อมสถานที่สำหรับทำงานโดยอยู่ภายใต้การดูแลดูแลของต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) รวมทั้งของสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งอีกทั้งต่อมใต้สมองรวมทั้งสมองไฮโปทาลามัสยังควบคุมลักษณะการทำงานของอวัยวะอื่นๆด้วย เช่น ต่อมหมวกไต อัณฑะ และรังไข่ รวมทั้งยังมีความข้องเกี่ยวกับอารมณ์และจิตใจ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้าหากการทำงานของต่อมไทรอยด์ มีภาวะไม่ปกติ จึงอาจส่งผลให้กำเนิดโรคต่างๆของอวัยวะเหล่านั้น รวมถึงสโมสรกับอารมณ์แล้วก็จิตใจด้วย  ส่วนโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เป็นสภาวะต่อมไทรอยด์ดำเนินงานเกิน(Overactive Thyroid) เป็นสภาวะที่ต่อมไทรอยด์* มีการหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินไป กระตุ้นให้อวัยวะทั่วร่างกายมีการเผาผลาญสูงกว่าปกติและก็ทำให้ระบบต่างๆของร่างกายเปลี่ยนไปจากปกติตามไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุนำมาซึ่งลักษณะของการเจ็บเจ็บไข้ๆต่างขึ้นตามมา อาทิเช่น อ่อนล้าง่าย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ขี้ร้อนง่าย เหงื่อออกมาก อารมณ์เสีย นอนไม่หลับ น้ำหนักตัวลดลงอย่างเร็วแบบไม่ดีเหมือนปกติ เป็นต้น โดยโรคนี้พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าเพศชายถึง 5-10 เท่า
ที่มาของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ต่อมไทรอยด์เป็นพิษมีหลายสาเหตุ  แต่ว่าส่วนใหญ่มีสาเหตุจากระบบภูมิคุ้มกันยับยั้งโรคของร่างกายที่เปลี่ยนไปจากปกติกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเหลือเกิน จนทำให้ร่างกายมีปริมาณของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากยิ่งกว่าความปรารถนาของร่างกาย รวมทั้งมีสภาพการณ์เป็นพิษ กระทั่งมีผลต่อร่างกายในด้านต่างๆซึ่งเราเรียกสภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากเกินว่า สภาวะต่อมไทรอยด์                      ที่มา :  wikipedia                   ทำงานเกิน  (hyperthyroidism)  และเรียกอาการเจ็บเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นมาจากภาวะมีฮอร์โมนต่อมไทรอยด์    มากเกินนี้ว่า ภาวะพิษจากต่อมไทรอยด์ (thyrotoxicosis) โดยสาเหตุการเกิดโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษนั้นมีได้นานัปการต้นเหตุ ดังนี้

  • โรคเกรฟส์ หรือ โรคคอพอกตาโปน (Graves’ disease) เป็นสาเหตุที่พบได้มากที่สุดราว 60-80% ของคนไข้ต่อมไทรอยด์เป็นพิษทั้งผอง ซึ่งโรคนี้จะก่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนไทโรซีนออกมามากมายแตกต่างจากปกติจนทำให้แปลงเป็นพิษ และเป็นโรคที่พบมากในวัยรุ่นแล้วก็วัยกลางคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายราว 5-10 เท่า ต้นเหตุของการเกิดโรคยังไม่ทราบชัดเจนว่ามีเหตุมาจากอะไร แต่ว่าพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับเพศ (พบในผู้หญิงมากยิ่งกว่าผู้ชาย) และก็กรรมพันธุ์ (พบว่าผู้เจ็บป่วยบางรายมีประวัติพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย) การสูบยาสูบจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากขึ้น นอกนั้นยังเจอด้วยว่า ความเคร่งเครียดก็มีส่วนกระตุ้นให้โรคกำเริบเสิบสานได้
  • เนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ เป็นในกรณีที่เจอได้น้อย เช่นกัน เนื้องอกที่เกิดรอบๆต่อมไทรอยด์ และเนื้องอกที่เกิดบริเวณต่อมใต้สมอง อาจก่อให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์เยอะขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นพิษได้
  • การอักเสบของต่อมไทรอยด์ (Thyroiditis) การอักเสบที่ไม่รู้จักที่มาของต่อมไทรอยด์จะทำให้ฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ถูกสร้างออกมาเพิ่มมากขึ้น และทำให้ฮอร์โมนรั่วไหลออกไปที่กระแสโลหิต ทั้งนี้การอักเสบของต่อมไทรอยด์จำนวนมากไม่มีลักษณะการเจ็บ เว้นเสียแต่อาการต่อมไทรอยด์อักเสบแบบครึ่งหนึ่งกระทันหันที่เกิดขึ้นได้น้อย สามารถส่งผลให้เกิดลักษณะของการเจ็บได้
  • การทานอาหาร การทานอาหารที่มีไอโอดีนมากจนเกินความจำเป็นก็สามารถนำมาซึ่งโรคไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากไอโอดีนเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์แต่เจอได้น้อยมาก
  • การได้รับการเสริมฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ที่มากเกินไป ยาที่มีส่วนประกอบของไอโอดีนบางจำพวก ตัวอย่างเช่น ยาอะไมโอดาโรน (Amiodarone) ที่ใช้เพื่อการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะมีผลให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์เยอะขึ้นจนถึงกลายเป็นพิษได้
ลักษณะโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ไม่ว่าจะมีต้นเหตุจากเหตุผลใด มักมีอาการคล้ายกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนป่วยจะรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ใจสั่นหวิว ใจสั่น บางบุคคลอาจมีอาการเจ็บหน้าอก ร่วมด้วย มักจะมีความรู้สึกขี้ร้อน เหงื่อออกมาก ฝ่ามือมีเหงื่อชุ่ม  ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักตัวลดลงรวดเร็ว ถึงแม้ว่ากินได้ปกติ หรืออาจกินจุขึ้นกว่าปกติด้วย ทั้งนี้ด้วยเหตุว่าร่างกายมีการเผาผลาญมากมักมีลักษณะมือสั่น โดยเฉพาะเวลาทำงาน ละเอียด ยกตัวอย่างเช่น เขียนหนังสือ งานฝีมือ เป็นต้น อาจมีลักษณะวุ่นวาย ชอบทำโน่นทำนี่ ครั้งคราวมองเป็นคนขี้ตื่น หรืออิริยาบถลุกลน อาจมีอาการหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ นอนไม่หลับ หรืออารมณ์เซื่องซึม บางบุคคลอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยครั้งคล้ายท้องร่วง หรือมีลักษณะอาการอาเจียนอ้วก ส่วนอาการที่พบได้มากที่สุดในคนที่มีอาการไทรอยด์เป็นพิษคือ อาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น คนป่วยจะรู้สึกหรือมองเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่รอบๆคอ  หญิงอาจมีรอบเดือนออกน้อย หรือมาไม่บ่อยนัก หรือขาดระดู มักตรวจเจอว่ามีต่อมไทรอยด์โต (คอพอก) ชีพจรเต้นเร็ว (มากกว่า 120 -140 ครั้งต่อนาที) และก็อาจมีอาการตาโปน (ลูกตาปูดโปนออกมามากยิ่งกว่าปกติ) และก็มองเห็นส่วนที่เป็นตาขาวด้านบนชัด (เพราะเหตุว่าหนังตาบนหดรั้ง) คล้ายทำตาเพ่งดูอะไรหรือตาดุ ผิวหนังลูบคลำมองมีลักษณะเรียบนุ่มแล้วก็มีเหงื่อเปียก
ทั้งนี้ถ้าเกิดผู้เจ็บป่วยมีภาวการณ์ไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่ร้ายแรงมากสักเท่าไรนัก ก็บางทีอาจไม่มีอาการใดๆแสดงออกมา โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้สูงอายุที่อาการมักไม่ค่อยแสดงออกอย่างแจ่มแจ้งมากนัก
แนวทางการรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ การวิเคราะห์โรคไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเอง วิธีวินิจฉัยโรคไทรอยด์เป็นพิษด้วยตัวเองแบบง่ายๆก็คือการสังเกตความไม่ดีเหมือนปกติของร่างกาย ถ้ามีลักษณะอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักลดไม่ดีเหมือนปกติ มือสั่น อิดโรยง่าย หายใจสั้น หรือมีอาการบวมที่บริเวณคอ ควรรีบไปพบแพทย์ ส่วนการวิเคราะห์โรคไทรอยด์เป็นพิษโดยแพทย์นั้น จะวิเคราะห์เบื้องต้นจากอาการแสดงของโรค ตัวอย่างเช่น ใจสั่น อ่อนแรงง่าย น้ำหนักลด มือสั่น ชีพจรเต้นเร็ว ต่อมไทรอยด์โต และก็ตาโปน  และก็ถ้าหากพบว่ามีลักษณะอาการกลุ่มนี้ หมอจะทำการตรวจเพิ่มอีกดังต่อไปนี้

  • การวิเคราะห์เลือด เป็นการเจาะเลือดเพื่อตรวจการปฏิบัติงานของต่อมไทรอยด์รวมทั้งการเผาไหม้ ยกตัวอย่างเช่น
  • การวัดปริมาณฮอร์โมนไทรอยด์ ปริมาณของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ T3 และ T4 ในเลือด
  • การตรวจครั้งเอสเอช (Thyroid-stimulating hormone : TSH) เป็นการตรวจวัดระดับฮอร์โมนต่อมใต้สมองที่มีบทบาทควบคุมรูปแบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งในคนป่วยไทรอยด์เป็นพิษชอบมีค่า TSH ที่ต่ำกว่าปกติ
  • การวัดระดับปริมาณแอนติบอดีของต่อมไทรอยด์ (Thyroidglobulin) เป็นการตรวจที่ช่วยวินิจฉัยโรคเกรฟส์ซึ่งเป็นต้นเหตุที่มักพบที่สุดของภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
  • การตรวจเอกซเรย์ เป็นการตรวจที่สามารถช่วยให้แพทย์เห็นการทำงานแล้วก็ความผิดแปลกของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ชัดขึ้น อาทิเช่น
  • การตรวจอัลตราซาวนด์ เป็นการตรวจที่ช่วยวัดขนาดของต่อมไทรอยด์และความแปลกของต่อมไทรอยด์
  • การตรวจสแกนต่อมไทรอยด์ (Thyroid scan) เป็นการตรวจโดยใช้รังสีเพื่อเห็นลักษณะการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่าต่อมไทรอยด์มีการงานที่มากเปลี่ยนไปจากปกติหรือไม่
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน (CT scan) หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า/เอ็มอาร์ไอ (MRI) หมอมักใช้ในกรณีที่สงสัยว่าความไม่ปกติของต่อมไทรอยด์อาจมีเนื้องอกหรือมะเร็ง รวมทั้งการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจะใช้ในกรณีที่หมอสงสัยว่าสาเหตุของต่อมไทรอยด์เป็นพิษอาจเป็นเพราะต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมนไม่ปกติ

การดูแลและรักษาหลักของไทรอยด์เป็นพิษเป็นการกินยา เมื่ออาการดียิ่งขึ้น หมอจะค่อยๆลดยาลง รวมทั้ง หยุดยาได้สุดท้าย ถ้าหากรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการใช้การผ่าตัด หรือ การกินไอโอดีนกัมมันตรังสี ช่วงเวลาเฉลี่ยสำหรับการรักษามักจะราว 2 ปี ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

  • การรักษาด้วยยา ผู้ป่วยที่มีอายุน้อยมีอาการไม่รุนแรงมากรวมทั้งต่อมไทรอยด์ไม่โตมากมาย หมอมักแนะ นำให้รักษาโดยใช้ยาก่อน ยาที่ใช้รักษานี้จะเป็นยาลดการสร้างฮอร์โมนต่อมไทรอยด์และก็ยาลดอาการใจสั่น คนป่วยสุดที่รักษาด้วยยานี้จะต้องสามารถรับประทานยาเสมอๆอย่างสม่ำเสมอตลอดตามแพทย์แนะนำ โดยทั่วไปหมอจะเสนอแนะให้รับประทานยาโดยประมาณ 1 ถึง 2 ปีโดยในขณะที่รักษาด้วยยาอยู่นี้หมอจะนัดตรวจติดตามดูอาการและเจาะเลือดวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์เป็นประจำเป็นต้นว่า ทุก 1 - 2 เดือนเพื่อมั่นใจว่าผู้ป่วยกินยาในขนาดที่สมควร ไม่มากมายหรือไม่พอ จุดด้วยของการดูแลและรักษา ด้วยยาคือ คนป่วยมักจะจำต้องกินยานานเป็นปี มีโอกาสเกิดการแพ้ยาได้


ซึ่งยาที่ใช้ในตอนนี้เป็นกรุ๊ป ยาต้านทานไทรอยด์ ตัวอย่างเช่น ยาเม็ดพีทียู (PTU) หรือเมทิมาโซล (methimazole) ยานี้มีผลข้างเคียงที่สำคัญเป็น อาจทำให้เกิดภาวะ เม็ดเลือดขาวต่ำ ซึ่งทำให้ติดโรครุนแรงได้ ซึ่งพบได้ราวๆ 1 ใน 200 คน และชอบเกิดขึ้นในระยะ 2 เดือนแรกของการใช้ยา

  • การรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ สำหรับคนป่วยที่ต่อมไทรอยด์โตมากมายหรือมีลักษณะหายใจลำบากหรือกลืนลำบาก เนื่องจากว่าต่อมไทรอยด์ที่โตขึ้นกดเบียดทับหลอดลม หรือหลอดของกิน ซึ่งทั้งสองอวัยวะนี้อยู่ชิดกับต่อมไทรอยด์ แพทย์จะชี้แนะให้รักษาด้วยการใช้การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกเล็กน้อยเพื่อต่อมไทรอยด์มีขนาดเล็กลง จะได้สร้างฮอร์โมนไทรอยด์ได้ลดน้อยลง รวมทั้งอาการหายใจลำบากหรือกลืนตรากตรำจะดีขึ้น ถึงแม้ว่าเป็นแนวทางที่ทำให้หายจากสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษได้อย่างเร็ว แต่ว่าก็อาจเกิดผลใกล้กันจากการผ่าตัดได้เช่น เสียงแหบจากผ่าตัดโดนเส้นประสาทกล่องเสียงที่อยู่ชิดกับต่อมไทรอยด์ หรือแม้หมอตัดต่อมไทรอยด์ออกไม่เพียงพอ ข้างหลังผ่าตัดคนไข้ก็อาจจะยังมีลักษณะอาการจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษอยู่อาทิเช่นเดิม แต่ว่าในทางตรงกันข้าม หากตัดต่อมต่อมไทรอยด์ออกมากเหลือเกิน ข้างหลังผ่าตัดคนป่วยจะเกิดอาการจากการขาดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้ด้วยเหมือนกัน
  • การรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีน น้ำแร่รังสีไอโอดีนเป็นสารไอโอดีนชนิดหนึ่ง (Iodine-131) ที่ให้รังสีแกมมา (Gamma ray) และรังสีเบตา (Beta ray ) และสามารถปลดปล่อยรังสีนั้นๆออกมาทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ได้ เมื่อคนเจ็บกินน้ำแร่รังสีไอโอดีนเข้าไป ก็จะถูกดูดซับโดยต่อมไทรอยด์ทำให้ต่อมไท รอยด์ มีขนาดเล็กลงแล้วก็การสร้างฮอร์โมนก็จะลดน้อยลงไปด้วย อาการจากสภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็เลย น้ำแร่รังสีไอโอดีนนี้ไม่สามารถที่จะหาซื้อได้ทั่วไป จะต้องรับการดูแลและรักษาเฉพาะโรงพยาบาลบางโรง พยาบาลที่ให้การรักษาด้านนี้เพียงแค่นั้น โดยจะใช้ระยะเวลาการดูแลรักษาด้วยแนวทางลักษณะนี้ราวๆ 3-6 เดือน


การดูแลรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนมีจุดแข็งคือ สามารถรักษาภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษให้หายสนิทได้สูง สะดวก ง่าย ปลอดภัย เหมาะสมกับผู้ป่วยที่อายุ 20 ปีขึ้นไปแล้วก็ต่อมไทรอยด์ไม่โตมากมาย หรือผู้ป่วยสุดที่รักษาด้วยยาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน 1 - 2 ปีแล้วยังไม่หาย หรือหายแล้วกลับมาเป็นใหม่อีก หรือผู้ป่วยที่รักษาด้วยการผ่าตัดแล้วยังมีลักษณะจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษอยู่ ข้อตำหนิของการรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนคือ หลังการดูแลรักษาผู้ป่วยจะเกิดภาวะขาดฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ได้บ่อย ทำให้ต้องกินยาฮอร์โมนไทรอยด์ไปตลอดชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น การดูแลและรักษาด้วยน้ำแร่รังสีไอโอดีนนี้ไม่อาจจะใช้ได้กับคนไข้ที่กำลังตั้ง ท้องเพราะเหตุว่ารังสีส่งผลต่อทารกในท้อง บางทีอาจก่อความพิกลพิการหรือการแท้ง หรือในคนไข้ให้นมลูกอยู่เพราะเหตุว่าน้ำแร่รังสีไอโอดีนจะคละเคล้าออกมากับนมส่งผลต่อต่อมไทรอยด์ของเด็กแรกเกิดได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ คนไข้สภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษที่มิได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆอาจมีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่างๆอาทิเช่น

  • ไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤต ถ้าเกิดมีการควบคุมระดับต่อมไทรอยด์ที่ไม่ดี อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น หรือทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งสัญญาณว่าไทรอยด์เป็นพิษเข้าขั้นวิกฤตเป็น หัวใจเต้นเร็วเปลี่ยนไปจากปกติ มีไข้สูงมากเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส ท้องเสีย คลื่นไส้ ตัวเหลือง ตาเหลือง มีอาการงวยงงงุนงงอย่างหนัก และอาจถึงขั้นสลบได้ โดยต้นสายปลายเหตุที่อาจก่อให้อาการเข้าสู่สภาวะวิกฤต อาทิเช่น การติดเชื้อ การรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ การมีท้อง แล้วก็ความเสียหายของต่อมไทรอยด์ โดยภาวะไทรอยด์เป็นพิษขั้นวิกฤติเป็นคราวฉุกเฉินที่จำต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจมีอันตรายต่อผู้ป่วยได้
  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ ภาวะแทรกซ้อนที่มักมีอันตรายต่อคนไข้โรคไทรอยด์เป็นพิษก็คือ ความไม่ดีเหมือนปกติเกี่ยวกับหัวใจ ไม่ว่าจะเป็น หัวใจเต้นเร็ว หรือโรคหัวใจเต้นแตกต่างจากปกติที่เกิดจากการเขย่าที่ศีรษะจิตใจห้องบน (Atrial Fibrillation) หรือแม้กระทั้งสภาวะหัวใจวาย ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้พอเพียง
  • ปัญหาสายตา โดยปัญหาสายตาที่เป็นภาวะแทรกซ้อน ดังเช่นว่า ตาแห้ง ตาไวต่อแสงสว่าง ตาแฉะ เห็นภาพซ้อน ตาแดง หรือบวม ตาโปนออกมามากมายว่าธรรมดา แล้วก็รอบๆเปลือกตาแดง บวม เปลือกตาปลิ้นออกมาผิดปกติ รวมทั้งมีนิดหน่อยที่จำเป็นต้องสูญเสียการมองเห็น โดยเหตุนั้นในการรักษาโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ผู้ป่วยอาจต้องพบหมอรักษาสายตาเพื่อรักษาพร้อมๆกันด้วย แต่ว่าปัญหาเรื่องสายตานี้เจอได้ในผู้ป่วยโรคเกรฟวส์เพียงแค่นั้น ที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
  • สภาวะไทรอยด์ต่ำ หลายคราวการรักษาไทรอยด์เป็นพิษก็อาจจะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ต่ำยิ่งกว่าธรรมดาจนถึงเกิดภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ แล้วก็ก่อให้เกิดอาการต่างๆอย่างเช่น รู้สึกหนาวและก็อิดโรยง่าย น้ำหนักขึ้นไม่ดีเหมือนปกติ มีอาการท้องผูก รวมทั้งมีอาการเซื่องซึม แต่อาการจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว รวมทั้งมีผู้ป่วยเพียงแค่บางรายเท่านั้นที่เกิดอาการโดยถาวรและก็จะต้องใช้ยาสำหรับเพื่อการควบคุมระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ไปตลอดชาติ
  • กระดูกบอบบาง โรคไทรอยด์เป็นพิษ ถ้าเกิดมิได้รับการดูแลและรักษาสามารถทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อมวลกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนแอ หรือเปลี่ยนเป็นโรคกระดูกพรุน เหตุเพราะการที่ร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์มากมายไป ซึ่งมีผลต่อความสามารถสำหรับเพื่อการดูดซับแคลเซียมของกระดูกได้


การติดต่อของโรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคไทรอยด์เป็นพิษมีเหตุมาจากความผิดแปลกของภูเขามิคุ้นกันต้านโรคของร่างกายเปลี่ยนไปจากปกติ ที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ผลิตฮอร์โมนมากจนเกินความจำเป็น ซึ่งโรคไทรอยด์เป็นพิษนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อเนื่องจากว่าไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน หรือจากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ  แม้ตรวจเจอว่าเป็นโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ก็ควรปฏิบัติดังนี้
เอกสารอ้างอิง

  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.คอพอกเป็นพิษ.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่ 341.คอลัมน์สารานุกรมทันโรค.กันยายน 2550
  • ไทรอยด์เป็นพิษ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
  • หาหมอดอทคอม.  “ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Thyrotoxicosis)”.  (รศ.นพ.จรูญศักดิ์ สมบูรณ์พร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [16 ก.ค. 2017].
  • รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์.ไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่มะเร็งไทรอยด์.ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.
  • กระเทียม.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Bahn RS, Burch HB, Cooper DS, Garber JR, Greenlee MC, Klein I, et al. Hyperthyroidism and other causes of thyrotoxicosis: management guidelines of the American Thyroid Association and American Association of Clinical Endocrinologists. Thyroid 2011; 21: 593 – 646.
  • ไทรอยด์เป็นพิษ-อาการ,สาเหตุ,การรักษา,พบแพทย์ดอทคอม. http://www.disthai.com/
  • Kang NS, Moon EY, Cho CG, Pyo S.  Immunomodulating effect of garlic component, allicin, on murine peritoneal macrophages.  Nutr Res (N.Y., NY, U.S.) 2001;21(4):617-26.
  • ว่านหางจระเข้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Lamm DL, Riggs DR.  The potential application of Allium sativum (garlic) for the treatment of bladder cancer.  The Urologic Clinics of North America 2000;27(1): 157-62.
  • Ghazanfari T, Hassan ZM, Ebrahimi M.  Immunomodulatory activity of a protein isolated from garlic extract on delayed type hypersensitivity.  Int Immunopharmacol 2002;2(11):1541-9.
  • Kuttan G.  Immunomodulatory effect of some naturally occuring sulphur-containing compounds.  J Ethnopharmacol 2000;72(1-2):93-9.
  • Abuharfeil NM, Maraqa A, Von Kleist S.  Augmentation of natural killer cell activity in vitro against tumor cells by wild plants from Jordan.  J Ethnopharmacol 2000;71 (1-2):55-63.
  • Farkas A.  Methylation of polysaccharides from aloe plants for use in treatment of wounds and burns.  Patent: U S 3,360,510, 1967:3pp.
  • Cheon J, Kim J, Lee J, Kim H, Moon D.  Use of garlic extract as both preventive and therapeutic agents for human prostate and bladder cancers.  Patent: U S US 6,465,020 ,2002:7pp.
  • Farkas A.  Topical medicament containing aloe polyuronide for treatment of burns and wounds.  Patent: U S 3,103,466, 1963:4pp.
  • Strickland FM, Pelley RP, Kripke ML.  Cytoprotective oligosaccharide from aloe preventing damage to the skin immune system by UV radiation.  Patent: PCT Int Appl WO 98 09,635, 1998:65pp.
  • ลูกซัด.ฐานข้อมูลเครื่องยา.คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
  • ณรงค์ชัย ประสิทธิ์ภูริปรีชา นิศา อินทรโกเศส โอภา วัชรคุปต์ พิสมัย ทิพย์ธนทรัพย์.  การทดลองใช้สารสกัดว่านหางจระเข้กับแผลที่เกิดจากรังสีบำบัด.  รายงานโครงการพิเศษ คณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล, 2529.

บันทึกการเข้า