รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก.( Chronic Otitis media)- อาการ, สาเหตุ, การ  (อ่าน 523 ครั้ง)

billcudror1122

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 100
    • ดูรายละเอียด


โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก.( Chronic Otitis media)
โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบคืออะไร ขั้นแรกจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ (Otitis media) นั้น เรียกเป็นภาษาชาวบ้านว่า โรคหูน้ำหนวก เกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อในหูชั้นกึ่งกลาง
ซึ่งหูชั้นกึ่งกลาง (middle ear) เป็นส่วนของช่องหูที่อยู่ต่อจากเยื่อแก้วหูเข้าไป มีกระดูกค้อน กระดูกทั่ง แล้วก็กระดูกโกลนบรรจุอยู่ ปฏิบัติหน้าที่รับคลื่นเสียงก่อนหน้าที่ผ่านมาทางหูชั้นนอก และก็ส่งต่อไปยังหูชั้นในซึ่งมีเส้นประสาทหูรับรู้เสียง (การได้ยิน)
            ด้านล่างของหูชั้นกลางมีท่อเล็กๆเชื่อมต่อกับคอหอย เรียกว่า ท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) เมื่อมีการติดเชื้อโรคของคอหอย เชื้อโรคสามารถเดินทางผ่านท่อยูสเตเชียนเข้าไปในหูชั้นในได้ ถ้าหากว่าท่อยูสเตเชียนมีการอักเสบบวม ก็จะเกิดการตัน ทำให้เชื้อโรคถูกกักไว้ภายในหูชั้นกลางจนถึงเกิดการติดเชื้อของหูชั้นกลาง รวมทั้งอาจอักเสบเป็นหนองขังอยู่ในหูชั้นกึ่งกลาง มีลักษณะอาการไข้สูง ปวดหู หูอื้อได้ในระยะแรก
โรคนี้จึงพบได้บ่อยร่วมกับโรคติดเชื้อของทางเท้าหายใจส่วนต้น เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกหัด คออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นต้น โดยเชื้อก่อโรคบางทีอาจเป็นเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียก็ได้
โดยโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเด็ก เพราะว่าในเด็กนั้น ท่อปรับความดันหูชั้นกลางหรือท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกึ่งกลางและก็หลังโพรงจมูก ยังไม่พัฒนาบริบูรณ์เต็มที่ ประกอบกับเด็กเกิดภาวะติดเชื้อ อย่างเช่น โรคไข้หวัดได้หลายครั้ง ทำให้ได้โอกาสที่จะเกิดการอักเสบตลอดไปยังรูเปิดของท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลาง ซึ่งอยู่ข้างหลังโพรงจมูก ส่งผลทำให้มีการเกิดภาวการณ์หูชั้นกึ่งกลางอักเสบทันควัน (Acute otitis media) ขึ้น ซึ่งถ้าหากมิได้รับการดูแลรักษา จะมีลักษณะไข้ หูอื้อ และปวดหูมาก จนตราบเท่าเมื่อแก้วหูทะลุ อาการปวดหูและไข้จะเริ่มทุเลาลง แต่ว่าจะมีน้ำหนอง ซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู รวมทั้งหากยังมิได้รับการรักษาที่เหมาะสมอีก บางทีอาจกลายเป็น “โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หรือหูน้ำหนวก (Chronic otitis media)” ต่อไป ซึ่งได้โอกาสเป็นผลข้างเคียง เข้าแทรกต่างๆตามมาได้ อาทิเช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หูชั้นในอักเสบ ฝีในสมอง ฝีข้างหลังหู ฝีที่คอ ใบหน้าเป็นอัมพาต อื่นๆอีกมากมาย
โรคหูชั้นกลางอักเสบ ชอบเกิดอาการอักเสบภายในของบริเวณหูชั้นกึ่งกลาง จำนวนมากแล้วมักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการติดเชื้อที่เยื่อหู จนถึงก่อเกิดอาการบวมแดง อักเสบ รวมทั้งกำเนิดของเหลวที่บริเวณข้างหลังแก้วหู
โดยระดับของการอักเสบแบ่งได้ 3 ระดับดังนี้

  • หูชั้นกลางอักเสบฉับพลัน (Acute otitis media – AOM) โดยทั่วไปแล้วหากผู้เจ็บป่วยไม่มีอาการหูชั้นกลางอักเสบมาก่อน จะถือได้ว่าหูชั้นกึ่งกลางอักเสบรุนแรง เหตุเพราะอาการดังที่กล่าวถึงมาแล้วจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีภาวการณ์ ดังต่อไปนี้ ส่วนมากมักเกิดร่วมกับการติดเชื้อในรอบๆฟุตบาทหายใจส่วนต้น (คอและจมูก) ตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ต่อมทอนซิลอักเสบ แล้วก็บางรายหูชั้นกลางอักเสบฉับพลันบางทีอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ ไอกรน ฝึก ทำให้เชื้อโรครอบๆคอผ่านท่อยูสเตเชียน หรือท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลาง (Eustachain tube) เข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางได้ และมีการอักเสบขึ้นมา ทำให้เยื่อบุผิวภายในหูชั้นกลางแล้วก็ท่อยูสเตเชียนบวม รวมทั้งมีหนองขังอยู่ในหูชั้นกลาง เพราะไม่สามารถที่จะระบายผ่านท่อยูสเตเชียนที่บวมรวมทั้งตันได้ ในที่สุดเยื่อแก้วหูซึ่งเป็นเยื่อบางๆที่กั้นอยู่ระหว่างหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกับหูชั้นนอกก็จะมีการทะลุเป็นรู หนองที่ขังอยู่ภายในก็จะไหลออกมากลายเป็นหูน้ำหนวกในเวลาถัดมา
  • ภาวการณ์น้ำคั่งในหูชั้นกึ่งกลาง (Otitis media with effusion-OME) เมื่อมีการอักเสบที่หูชั้นกลางจะมีผลให้กำเนิดของเหลวภายในหู ซึ่งอาจมีผลต่อการได้ยินในระยะสั้น กล่าวคือ เป็นสภาวะที่มีนํ้าขังอยู่ในหูชั้นกลางโดยที่ไม่มีอาการแสดงของการอักเสบหรือติดโรค คนไข้มักจะมีลักษณะหูอื้อ การได้ยินต่ำลง แต่ว่าไม่มีลักษณะของการปวดหูและไม่มีไข้ เมื่อตรวจทานในหูจะไม่พบการบวมแดงของแก้วหู แต่ว่าจะมีการขยับของเยื่อแก้วหูน้อยลง (เพราะมีน้ำขังอยู่ข้างหลัง) สภาวะนี้พบได้มากในคนที่มีโครงสร้างบริเวณใบหน้าที่ผิดปกติ
  • หูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง ถ้าแพทย์พบว่ามีการฉีกจนขาดของแก้วหูเป็นประจำและก็มีร่องรอยของการอักเสบ ก็อาจส่งผลให้หมอวินิจฉัยได้ว่ามีการอักเสบอย่างเรื้อรังที่หูชั้นกึ่งกลางได้โดยมีสภาวะดังต่อไปนี้ เป็นสภาวะที่มีการทะลุของเยื่อแก้วหูรวมทั้งมีหูน้ำหนวกไหลแบบเรื้อรัง (ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นมาตั้งแต่เด็ก) โดยอาจมีต้นเหตุจากหูชั้นกึ่งกลางอักเสบทันควันหรือมาจากการได้รับบาดเจ็บจนถึงแก้วหูทะลุก็ได้ รวมทั้งบางเวลาบางทีอาจพบร่วมกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง ผนังกันช่องจมูกคด รวมทั้งริดสีดวงจมูก


ซึ่งโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบนี้พบบ่อยในเด็กมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี เหตุเพราะท่อยูสเตเชียนของเด็กสั้นกว่าแล้วก็อยู่ในแนวราบมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยในโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบนี้ ระยะของการอักเสบที่ทำให้มีน้ำหนองไหลออกมาจากรูหู (ภาษาประชาชนเรียกน้ำหนวก) นี้ มักจะเจอในระยะหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรั้ง เป็นส่วนมาก ส่วนระยะอื่นพบบ่อยได้นานๆครั้งมาก และก็ความร้ายแรงของโรคก็ไม่มากเท่าระยะเรื้อรัง โดยเหตุนั้นในประเด็นถัดไปนักเขียนก็เลยจะขอชี้แจงเฉพาะในระยะหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังหรือโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังเพียงเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของผู้อ่าน
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง สาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้องรังของ (COM) มักเกิดจาก

  • หูชั้นกลางอักเสบกระทันหัน (acute otitis media) ที่มิได้รับการดูแลและรักษาทันการ ทำให้หนองในหูชั้นกลางดันเยื่อแก้วหูทะลุออกมาก รวมทั้งต่อไปไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกแนวทางทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่สามารถปิดได้เอง
  • เยื่อแก้วหูทะลุจากการบาดเจ็บ (traumatic tympanic membrane perforation) อาทิเช่น ใช้ไม่พันสำลีปั่นช่องหู แล้วมีอุบัติเหตุชนทำให้ไม้พันสำลีนั้น ชนเยื่อแก้หูจนถึงทะลุเป็นรูและก็รูนั้นไม่สามารถที่จะปิดได้เอง หรือมีสาเหตุจากการผ่าตัดกรีดเยื่อแก้วหู (myringotomy) เพื่อระบายหนองออกจากหูชั้นกลาง ในคนป่วยที่มีหูชั้นกลางอักเสบทันควันที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือผ่าตัดเพื่อใส่ท่อระบายของเหลวหรือหนองในหูชั้นกึ่งกลาง (ventilation tubes) แล้วก็ค้างไว้ที่เยื่อแก้วหู แล้วหลุดออกไป แต่ว่ารูที่เกิดจากการผ่าตัดนั้นไม่สามารถที่จะปิดได้เอง ซึ่งมูลเหตุที่ทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่อาจจะปิดได้เองอย่างเช่น
  • มีการไหลของของเหลว ได้แก่ มูกหรือหนองผ่านรูทะลุตลอดเวลา เนื่องด้วยยังมีการติดเชื้อในหูชั้นกลางอยู่
  • เยื่อบุผิวหนังของหูชั้นนอก (squamous epithelium) เข้ามาคลุมที่ขอบของรูทะลุ เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกสำหรับเพื่อการ

Proteus species
ที่มา : Google
ปกป้องการตำหนิดเชื้อของหูชั้น
กึ่งกลางเสียไป เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกในการปกป้องการตำหนิดเชื้อของหูชั้นกึ่งกลางเสียไปเชื้อโรงที่เป็นสาเหตุของการตำหนิดเชื้อและทำให้หูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น เชื้อแบคทีเรียรวมทั้ง     
        พบบ่อย เป็นเชื้อชนิดเอ็งรมลบ
 
Pseudomonas aeruginosa
        ที่มา : Googie                                                                                                                
 

Staphylococcus aureus
ที่มา Wikipedia
 รวมทั้งPseudomonas aeruginosa, Proteus species, Klebsiella pneumoniae แล้วก็เชื้อประเภทเอ็งรมบวก อาทิเช่น Staphylococcus aureus แล้วก็บางทีอาจพบเชื้อ anaerobes ยกตัวอย่างเช่น Bacteroides, Peptostrep-tococcus, Peptococcus ได้ ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดย

  • มีสาเหตุมาจากการที่เชื้อโรคจากคอ หรือ จมูก ผ่านเข้าทาง Eustachian tube ไปสู่หูชั้นกลาง
  • มีเหตุมาจากเชื้อโรคเข้าทางรูหู ผ่านแก้วหูที่ทะลุอยู่ก่อนแล้ว เข้าไปสู่หูชั้นกึ่งกลาง และ mastoid air cell
  • ผ่านทางกระแสโลหิต


นอกเหนือจากนั้นยังอาจมีต้นเหตุมาจาก  มีการอุดตันของรูเปิดของท่อยุยงสเตเชียนจากพยาธิภาวะในโพรงข้างหลังจมูก ดังเช่นว่า โรคมะเร็งโพรงข้างหลังจมูก ต่อมอดีนอยด์โต, การอักเสบของโพรงจมูก ไม่ว่าจากการติดเชื้อ ไหมใช่การต่อว่าดเชื้อการอักเสบของโพรงหลังจมูก ซึ่งมีสาเหตุจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงข้างหลังจมูก หรือเกิดขึ้นจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงหลังจมูก หรือมีต้นเหตุจากความไม่ดีเหมือนปกติแต่กำเนิดของท่อยูสเตเชียนทางกายวิภาคแล้วก็สรีรวิทยา ยกตัวอย่างเช่น เพดานแหว่ง (cleft palate) Down syndrome พยาธิสภาพดังกล่าว ทำให้มีการคั่งของของเหลวที่ผลิตขึ้นจากหูชั้นกึ่งกลาง และเกิดการอักเสบของเยื่อบุหูชั้นกึ่งกลาง แล้วก็ทำให้ของเหลวดังกล่าวมาแล้วข้างต้นไหลออกมาจากหูชั้นกึ่งกลางได้
ลักษณะโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หูชั้นกลางอักเสบชนิดเรื้อรัง  แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

  • ประเภทไม่อันตราย (safe or uncomplicated ear) รูทะลุของเยื่อแก้วหู มักจะอยู่กึ่งกลาง (central perforation) โอกาสที่เยื่อบุหูชั้นนอก (stratified squamous epithelium) หรือขี้ไคล (cholesteatoma) จะเข้าไปในหูชั้นกลางแล้วก็โพรงอากาศมาสตอยด์ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย หูน้ำหนวกชนิดนี้เป็นจำพวกที่ไม่มีคราบไคลนั่นเอง จำพวกนี้ผู้ป่วยจะมีหนอง (mucopurulent discharge) ไหลจากหูเป็นๆหายๆอาจตรวจพบ granulation หรือ polyp ได้ มักไม่พบว่ามีอาการปวดหูร่วมด้วย แม้มีอาการปวดหูแปลว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ยิ่งกว่านั้นผู้ป่วยมักเสียการได้ยินแบบการนำเสียงเสีย บางรายอาจมีเส้นประสาทหูเสื่อมร่วมด้วยจาก Bacterial Toxin
  • ประเภทอันตราย (unsafe or complicated ear) มักจะมีรูทะลุของเยื่อแก้วหู อยู่ที่ขอบแก้วหู (marginal perforation) ทำให้ช่องทางที่เยื่อบุหูชั้นนอก หรือไคลจะเข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางรวมทั้งโพรงกระดูกมาสตอยด์ นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนสูง หูน้ำหนวกประเภทนี้เป็นประเภทที่มีคราบไคลนั่นเอง จำพวกนี้คนป่วยจะมีลักษณะอาการเป็น คนป่วยจะมีลักษณะหนองไหลออกจากหูเป็นๆหายๆหากว่ารักษาด้วยยาเต็มที่แล้วอาการแย่ลง  และก็มีลักษณะหูตึงจากการนำเสียงแตกต่างจากปกติ (conductive hearing loss) หรือทำลายอวัยวะที่เกี่ยวกับการได้ยินในหูชั้นใน ทำให้หูตึงจากเส้นประสาทหูดำเนินงานไม่ดีเหมือนปกติ (sensorineural hearing loss) มีอาการเวียนศีรษะ อ้วก อ้วก  นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอัมพาตของเส้นประสาทคู่ที่ 7  เกิดภาวะสอดแทรกทางสมอง ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis), ฝีในสมอง (brain abscess),

การติดเชื้อของเส้นเลือดในกะโหลกศีรษะ (sigmoid sinus thrombophlebitis) มีการอักเสบของกระดูกมาสตอยด์ (mastoiditis) เพราะมีหนองขังอยู่ในส่วนของกระดูก มาสตอยด์ แล้วไม่สามารถระบายออกไปได้ ทำให้มีการทำลายของกระดูกส่วนที่เป็นโพรงอากาศมาสตอยด์ผู้ป่วยมีลักษณะอาการปวดหูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีหนองไหลออกจากหูเยอะขึ้น
และมีกลิ่นเหม็น  กำเนิดฝีหนองหลังหู (subperiosteal abscess)
วิธีการรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากแนวทางซักเรื่องราวอาการของคนเจ็บ การตรวจร่างกาย แล้วก็การใช้งานเครื่องส่องหู (Otoscope) ส่องดู ซึ่งจะเจอเยื่อแก้วหูมีลักษณะไม่ดีเหมือนปกติ แม้แก้วหูยังไม่ทะลุสามารถรับรองการมีน้ำในหูชั้นกึ่งกลางได้ด้วยการตรวจ pneumatic otoscope รวมทั้งการวัด tympanometry ถ้าหากทะลุแล้วจะมองเห็นรูทะลุรวมทั้งมีน้ำอยู่ในรูหูชั้นนอก สามารถนำน้ำในหูไปย้อมสีแล้วก็เพาะหาจำพวกของเชื้อได้แล้วก็การตรวจนับเม็ดเลือดจะช่วยรับรองภาวะติดเชื้อโรคถ้าเกิดยังไม่มีหนองไหล ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการตรวจพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมอีกอาทิเช่น

  • การถ่ายรังสีกระดูกมาสตอยด์ (plan film of mastoid) พบบ่อยว่าโพรงกระดูกมาสตอยด์ทึบ และก็บางส่วนของกระดูกมาสตอยด์บางทีอาจถูกทำลายไป
  • การตรวจการได้ยิน เพื่อตรวจระดับของการได้ยินทีเสียไป ถ้าหากการอักเสบของหูชั้นกลางหรือ cholesteatoma ทำลายกระดูกหู (ossicular destruction) จะทำให้มีการสูญเสียการได้ยินมากมาย (conductive hearing loss) หรืออาจมีการสูญเสียของประสาทหู (sensorineural hearing loss) ได้ถ้าหากมี inner ear involvement
  • การเป่าลมเข้าไปในช่องหู เพื่อมองว่าคนป่วยมีอาการเวียนหัวเยอะขึ้น หรือมีลูกตากระตุๆก (nystagmus) หรือ (fistula test) ถ้า cholesteatoma ได้ทำลายกระดูกที่ห่ออวัยวะควบคุมการทรงตัว จนถึงเกิดทางเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลาง และอวัยวะควบคุมการทรงตัว การเป่าลมดังที่ได้กล่าวมาแล้วจะทำการกระตุ้นอวัยวะควบคุมการทรงตัว ทำให้คนเจ็บมีลักษณะเวียนศีรษะหรือลูกตากระตุกได้ ควรจะกระทำทดสอบดังที่ได้กล่าวมาแล้วในผู้เจ็บป่วยทุกรายที่มี cholesteatoma โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เจ็บป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะ
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ของกระดูกเทมโพรอคอยล (temporal bone) ใคร่ครวญทำในรายที่ใช้ยารักษาเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น (สงสัย cholesteatoma เนื้องอก,สิ่งแปลกปลอม) หรือสงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (ossicular or fallopian canal erosion จาก cholesteoma, subperiostea abscess)
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ของกระดูกเทมโพรอคอยล ไต่ตรองรณาทำในรายที่สงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (dural inflammation, sigmoid sinus thrombosis, labyrinthitis, extra-craniai and intracranial abscess)


สำหรับวิธีการดูแลรักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังชนิดไม่อันตรายเป็น ชำระล้าง ดูดโรคหนองในรูหู  ให้ยาหนอดหู fluoroquinolone ear drop 14-28 วัน
ถ้าหากว่าอาการยังไม่ดีขึ้นให้ กินยาปฏิชีวนะ ร่วมด้วย หลังจากให้การรักษาด้วยการใช้ ยาปฏิชีวนะอย่างมากแล้วยังไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องประเมินหา cholesteatoma แล้วก็ mastoiditis
ในคนเจ็บบางรายหลังการรักษาด้วย ยาปฏิชีวนะไปแล้ว ยังพบว่าแก้วหูทะลุอยู่ไม่สามารถที่จะปิดเองได้ซึ่งอาจตรึกตรองรับการผ่าตัดแก้วหู (tympanoplasty) จุดประสงค์หลักสำหรับในการปะเยื่อแก้วหูเป็น

  • เพื่อกำจัดการตำหนิดเชื้อในหูชั้นกึ่งกลาง
  • เพื่อคุ้มครองป้องกันการติดเชื้อผ่านเยื่อแก้วหูที่ทะลุไปสู่หูชั้นกึ่งกลาง
  • เพื่อช่วยทำให้การได้ยินดีขึ้น


แล้วก็วิธีการรักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังจำพวกอันตรายเป็น กำจัดการตำหนิดเชื้อภายในหูชั้นกลางปกป้องไม่ให้มีการติดเชื้อโรคด้านในหูชั้นกลางอีก รักษาการได้ยินให้อยู่ในสภาพดี
นอกเหนือจากจุดหมายปลายทางในการรักษาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว 3 ข้อแล้ว ควรจะทำให้ cholesteatoma มีทางออก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆ

  • การดูแลและรักษาทางยา โดยอาจให้ยาต้านจุลชีวินจำพวกกินและจำพวกหยอดหู แล้วก็ให้ยาต่อต้านจุลชีวันชนิดฉีดเข้าเส้นโลหิต ในคนป่วย ที่มีภาวะแทรกซ้อน แล้วก็ชำระล้างหู โดยนำหนองของเหลว รวมทั้งเนื้อตายในหูชั้นกลางออกให้หมด
  • ทำการผ่าตัด mastoidectomy สำหรับคนเจ็บที่มี cholesteatoma เก็กกักเอาไว้ภายในส่วนของแก้วหูที่เป็นแอ่ง แล้วก็หมอไม่อาจจะมองเห็นรวมทั้งทำความสะอาดเอา cholesteatoma โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนในสุดของแอ่งได้ ควรกระทำการผ่าตัด แนวทางเป็นเอา cholesteatoma ออกมาให้หมด โดยทำ tympanomastoid surgery และเปิดโอกาสให้ choleseatoma ที่อยู่ภายใน มีทางออกสู่ภายนอก เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดจนไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆและก็เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง สาเหตุต่างๆที่ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการต่อว่าดเชื้อภายในหูชั้นกึ่งกลางกระทั่งเปลี่ยนเป็นการอักเสบเรื้อรังได้ ซึ่งเช่น

  • อายุ หูชั้นกึ่งกลางอักเสบมักเกิดขึ้นในเด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี เป็นส่วนมาก เพราะเหตุว่าท่อยูสเตเชียนของเด็กอยู่ในลักษณะแนวขนานนำมาซึ่งการระบายของเหลวไม่ดีเพียงพอเสมือนผู้ใหญ่
  • ปัญหาด้านสุขภาพ เด็กที่มีภาวการณ์ปากแหว่งเพดานแหว่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดติดเชื้อโรคในหูชั้นกลาง เพราะเหตุว่าความเปลี่ยนไปจากปกติดังที่กล่าวมาแล้วจะส่งผลให้เชื้อโรคไปสู่ท่อยูสเตเชียนแล้วก็เข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่ายดายยิ่งกว่าคนปกติทั่วไป ยิ่งกว่านั้น ผู้ป่วยกรุ๊ปดาวน์ซินโดรม (Down's Syndrome) ที่มีลักษณะด้านกายภาพที่แตกต่างจากเด็กคนทั่วไปจะมีแนวโน้มเสี่ยงในการกำเนิดหูชั้นกึ่งกลางอักเสบได้มากขึ้น
  • การดื่มนมแม่ เด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่กำเนิดจะก่อให้มีภูมิต้านทานในขั้นแรกเกิดน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ ด้วยเหตุว่าในน้ำนมแม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีและช่วยคุ้มครองการต่อว่าดเชื้อต่างๆได้
  • ความเคลื่อนไหวของฤดู ไข้หวัดมักเป็นกันมากในช่วงฤดูฝน และก็หน้าหนาว ซึ่งอาจทำให้คนป่วยติดโรคที่หูได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นเมื่อเจ็บป่วยหวัด นอกจากนั้น ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อากาศก็ยังมีการเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้อีกด้วย
  • การดูแลเด็ก เด็กที่ต้องได้รับการดูแลในสถานรับเลี้ยงมีการเสี่ยงที่จะเป็นไข้หวัดรวมทั้งมีการติดเชื้อโรคที่หูได้ง่าย เนื่องจากภูมิต้านทานของเด็กยังไม่พัฒนา และก็สถานที่รับเลี้ยงเด็กมักเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคที่ทำให้เด็กป่วยได้มากที่สุด
  • มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองควันในอากาศรวมทั้งควันที่เกิดจากบุหรี่ บางทีอาจกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งหูได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
  • การสั่งน้ำมูกแรงๆการดำน้ำ การว่ายน้ำ ในระหว่างที่มีการอักเสบในโพรงข้างหลังจมูกจะก่อให้มีการอักเสบติดโรคในหูชั้นกลางได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


การติดต่อของโรงหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้องรังหรือหูน้ำหนวกนี้ เป็นโรคที่เกิดจากาการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ในบริเวณหูชั้นกึ่งกลางซึ่งมิได้เป็นโรคติดต่อและไม่ได้มีการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนอะไร
การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • ไม่แคะ ปั่น เขี่ย หรือเช็ดถูขี้หูออก หรือชำระล้างหูโดยใช้ไม้พันสำลี นิ้วมือ หรือวัตถุอะไรก็แล้วแต่ใส่เข้าไปในรูหู โดยไม่ได้รับคำชี้แนะจากแพทย์และพยาบาล
  • ป้องกันไม่ให้น้ำไพเราะ โดยใช้สำลีหรืออุปกรณ์อุดรูหู (Ear plug) ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านค้ากีฬา (เป็นที่อุดหูสำหรับในการว่ายหรือดำน้ำ) แล้วก็ทุกครั้งขณะอาบน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้น้ำน่าฟัง
  • ในขณะมีหูน้ำหนวกไหลหรือเป็นโรคหูน้ำหนวกเรื้อรัง ควรจะไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกต้องและก็สม่ำเสมอ เลี่ยงการดำน้ำหรือเล่นน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง
  • ไม่ควรล้างหูด้วยสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อยๆหรือซื้อยาหยอดหูมาใช้เอง
  • ไม่ไอแบบปิดปากแน่น หรือสั่งขี้มูก จามรุนแรงแบบปิดจมูกแน่น
  • ป้องกันตนเองไม่ให้เป็นหวัด หรือโรคทางเท้าหายใจอักเสบ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอ รับประทานยาตามที่หมอสั่งให้ถูก ครบ ไม่หยุดยาเอง แม้ว่าอาการจะทุเลาลงและก็ตาม เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้การดูแลรักษาได้ผลไม่สุดกำลัง หรือเกิดภาวะเข้าแทรกได้
  • เมื่อมีอาการน่าสงสัย หรือเป็นหวัดช้านาน หรือ เป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบฉับพลัน (มีลักษณะอาการไข้ หูอื้อ ปวดหู มีน้ำหนองซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู) ควรรีบไปพบแพทย์/หมอหู คอ จมูก
การปกป้องตนเองจากโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • การป้องกันในเด็กอาจทำเป็นโดยการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง เช่น สนับสนุนให้เด็กอ่อนกินนมคุณแม่ หลีกเลี่ยงการส่งเด็กไปเลี้ยงที่ศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีการเขตสุขาภิบาลไม่ดี
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยหวัด รวมทั้งโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมค็อกคัส (pneumococcal vaccine) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบแล้วก็ปอดอักเสบ
  • หลบหลีกการอยู่ในที่ๆมีควันของบุหรี่
  • ระมัดระวังอย่าให้มีอันตรายหรืออุบัติเหตุกับหู หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนรอบๆหูแล้วก็รอบๆใกล้เคียง เพราะเหตุว่าอาจจะส่งผลให้แก้วหูทะลุแล้วก็ฉีกขาดได้
  • ถ้าหากป่วยด้วยโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกะทันหันควรรีบกระทำการรักษาก่อนที่จะแปลงเป็น ระยะหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
  • เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆด้วยการกินอาหารที่มีสาระให้ครบสมบูรณ์ 5 หมู่ และหมั่นบริหารร่างกาย
  • เมื่อมีอาการน่าสงสัย หรือเป็นหวัดนาน หรือ เป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบฉับพลัน ควรรีบไปพบหมอ
สมุนไพรที่ใช้คุ้มครองปกป้อง / รักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • หูเสือหรือเนียมหูเสือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plectranthus amboinicus คุณประโยชน์ทางยาไทยพบว่า น้ำคั้นจากใบสามารถแก้ปวดหู พิษฝีในหู หูน้ำหนวก ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยั้งยีสต์ ยั้งเชื้อรา ฆ่าแมลง ยับยั้งการงอกของพืชอื่น ยับยั้งเอนไซม์ protease จากเชื้อ HIV และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ    สารสำคัญที่เจอในใบ ดังเช่น น้ำมันหอมระเหย thymol, carvacrol, γ-terpinene, cyperene ฯลฯ
  • [url=http://www.disthai.com/16484907/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%
บันทึกการเข้า