รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 486 ครั้ง)

billcudror1122

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 100
    • ดูรายละเอียด


โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ่ คืออะไร  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบทางเท้าหายใจเหมือนกันกับโรคไข้หวัด แต่ว่ามีเหตุที่เกิดจากไวรัสคนละชนิดรวมทั้งมีความรุนแรงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าโรคไข้หวัดปกติมาก และก็เป็นอีกโรคหนึ่งมักพบในทุกกลุ่มอายุทั้งในเด็กจนถึง ถึงคนชรา รวมทั้งมีโอกาสเกิดโรคใกล้เคียงกันในสตรีและก็ในผู้ชาย  โดยมีลักษณะทางสถานพยาบาลที่สำคัญคือ มีไข้สูงแบบทันที ปวดหัว เมื่อยกล้าม อ่อนแรง ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกรุ๊ปโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และก็โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ ด้วยเหตุว่าเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) มาแล้วบ่อย แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างมากมายแทบทุกทวีป ทำให้มีผู้ป่วยรวมทั้งเสียชีวิตนับล้านคน

  • สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่มีเหตุที่เกิดจากการตำหนิดเชื้อ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA ไวรัส อยู่ในเชื้อสาย Orthomyxoviridae ที่พบอยู่ในสารคัดหลั่งของคนไข้ ดังเช่น น้ำมูก น้ำลาย และก็เสลด ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งผอง 3 ประเภทหมายถึงเชื้อ influenza A, B และก็ C รวมทั้ง เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ประเภท A เป็นชนิดที่ท้าทายให้มีการระบาดอย่าง กว้างขวางทั่วทั้งโลก ประเภท B ท้าให้มีการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนชนิด C มักเป็นการติดเชื้อโรคที่ออกอาการ น้อยหรือไม่แสดงอาการ และไม่ท้าให้มีการระบาด เชื้อไวรัสประเภท A แบ่งเป็นชนิดย่อย (subtype) ตามความไม่เหมือนของโปรตีนของเชื้อไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) แล้วก็ neuraminidase (N) ประเภทย่อยของเชื้อไวรัส A ที่ค้นพบว่าเป็นต้นเหตุของการต่อว่าดเชื้อในเจอในขณะนี้เป็นต้นว่า A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ส่วนเชื้อไวรัสประเภท B แล้วก็ C ไม่มีแบ่งเป็นจำพวกย่อย
  • ลักษณะโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน ผู้เจ็บป่วยจะจับไข้สูงแบบทันทีทันควัน ( 38 ซ ในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กชอบสูงขึ้นมากยิ่งกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น เมื่อยกล้าม หมดแรงมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาเคลื่อนไหว มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง แล้วก็บางทีอาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้าเกิดมีอาการป่วยเป็นช่วงเวลานานอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะร้ายแรงและป่วยเป็นเวลายาวนานกว่าหวัดธรรมดา (common cold) คนป่วยโดยมากจะหายปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แม้กระนั้นมีบางรายที่มีลักษณะรุนแรง เหตุเพราะมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญเป็น ปอดบวม ซึ่งอาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้
  • กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่


           บุคลากรทางด้านการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับคนไข้โรคไข้หวัดใหญ่
           คนที่มีโรคเรื้อรังหมายถึงปอดอุดกันเรื้อรัง อาการหอบหืด หัวใจ เส้นโลหิตสมอง ไตวาย โรคมะเร็งที่กำลังให้เคมี บำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย ภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่อง (รวมทั้งผู้ติดเชื้อโรคเอชไอวีที่มีลักษณะ)
           บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 4 ข้างขึ้นไป
           ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 โลขึ้นไป
           ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • หนทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวินิจฉัยโรคโดยอาการทางสถานพยาบาลยังมีข้อจำกัด เนื่องจากอาการเหมือนโรคติดเชื้อฟุตบาท หายใจจากเชื้อไวรัสจำพวกอื่น การวิเคราะห์ควรที่จะใช้ การตรวจทางห้องทดลองเพื่อยืนยันการวิเคราะห์โรค เช่นตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสมหะที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจเจอแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยแนวทาง fluorescent antibody หรือ ตรวจเจอว่ามีการมากขึ้นของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในซีรั่มอปิ้งน้อย 4 เท่าในระยะเฉียบพลันแล้วก็ระยะพักฟื้น โดยแนวทาง haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)แล้วก็การใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ดังเช่นว่า ช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ ผู้เจ็บป่วยที่มีอาการน้อย ให้การรักษาตามอาการ อย่างเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสลด ฯลฯ การให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทันทีหลังจากที่มีอาการช่วยลดความรุนแรงและอัตราตายในคนป่วย ยาต่อต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และซานาไม่เวียร์ (Zanamivir) การไตร่ตรองเลือกใช้ตัวไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ภายใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการรวมทั้งจำนวนเชื้อไวรัสจำพวก A ในสารคัดหลั่งพื้นที่เดินหายใจได้ ขนาดยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับคนป่วยอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง (แต่ว่าหากคนป่วยน้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับคนไข้อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือคนที่ลักษณะการทำงานของตับและไตไม่ปกติ จะต้องลดปริมาณยาลง ในตอนหลังๆของการดูแลรักษาด้วยยาต้านทานไวรัส บางทีอาจพบการดื้อยาและก็ตามด้วยการแพร่โรคไปยังคนอื่นๆได้ กรณีนี้อาจจำเป็นต้องให้ยาต้านทานไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ถ้ามีอาการเข้าแทรกจากเชื้อแบคทีเรียต้องให้ยาปฏิชีวนะด้วย แล้วก็ควรเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome

6.การติดต่อของโรคไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคชอบสั้น 1 - 4 วัน แต่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วราวๆ เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้เจ็บป่วยแพร่ติดต่อไปยังผู้อื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปถ้าหากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  และคนเจ็บสามารถแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีลักษณะอาการและก็จะแพร่เชื้อถัดไปอีก 3-5 ครั้งหน้ามีลักษณะในคนแก่ ส่วนในเด็กบางทีอาจแพร่ระบาดได้ยาวนานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แม้กระนั้นไม่มีอาการก็สามารถแพร่ระบาดในขณะนั้นได้เหมือนกัน ในตอนศตวรรษที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วทั้งโลก 4 ครั้งเป็น

  • พ.ศ. 2461 - 2462 Spanish flu จากไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด ประชากรทั่วทั้งโลกป่วยปริมาณร้อยละ 50 รวมทั้งตายสูงถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจเจอในประเทศจีน
  • พ.ศ. 2511 - 2512 Hong Kong flu จากเชื้อไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจพบในประเทศฮ่องกง
  • พ.ศ. 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง แยกได้จากผู้ป่วยในสหภาพโซเวียต จึงเรียก Russian flu แต่ว่ามีบ้านเกิดจากประเทศจีน


7.การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเอง เมื่อเจ็บป่วยหวัดใหญ่เป็นเมื่อจับไข้ ควรจะหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวและของใช้จากผู้อื่น เพื่อพักและปกป้องการแพร่ระบาดสู่คนอื่นๆ พักให้มากมายๆรักษาสุขอนามัยฐานราก  เพื่อสุขภาพดี ลดจังหวะกำเนิดโรคข้างเคียงหรือแทรกซ้อน เพียรพยายามรับประทานอาหารมีคุณประโยชน์ห้าหมู่ในทุกๆวันกินน้ำสะอาดให้มากๆอย่างต่ำวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคจำเป็นต้องจำกัดน้ำดื่ม กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามแพทย์แนะนำ ไม่สมควรกินยาแอสไพรินเนื่องจากว่าอาจมีการแพ้ ดังที่กล่าวมาแล้ว ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆรวมทั้งทุกครั้งก่อนที่จะรับประทานอาหารรวมทั้งข้างหลังเข้าส้วม  ใช้ทิชชู่สำหรับเพื่อการสั่งขี้มูกหรือเช็ดถูปาก ไม่ควรใช้ผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้า ต่อไปทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดยาสูบ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ เพราะว่าเป็นต้นเหตุให้อาการรุนแรงขึ้น ควรรีบเจอหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส รวมทั้งไข้ไม่น้อยลงหลังได้ยาลดไข้ภายใน 1 - 2 วัน  กินน้ำได้น้อยหรือกินอาหารได้น้อย ไอมากมาย มีเสลด และก็/หรือ เสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งแปลว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียสอดแทรก เป็นโรคโรคหืด เนื่องจากโรคหืดมักกำเริบและควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆชั่วช้าสารเลวลง หอบอ่อนเพลียร่วมกับไอมาก อาจร่วมกับนอนราบไม่ได้ เพราะเป็นอาการแทรกซ้อนจากปอดบวม เจ็บหน้าอกมากมายร่วมกับหายใจขัด อ่อนแรง เนื่องจากว่าเป็นอาการจากอาการสอดแทรกจากเยื่อห่อหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม สับสน แขน/ขาอ่อนแรง อาจร่วมกับปวดหัวร้ายแรง และคอแข็ง เพราะเป็นอาการแทรกซ้อนจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การป้องกันเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดี โดยการบริหารร่างกาย สม่ำเสมอรวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เลี่ยงความตึงเครียด บุหรี่ เหล้ารวมทั้งสารเสพติด และระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก และก็ผลไม้ เพื่อร่างกายได้รับสารอาหารและวิตามินพอเพียง ในตอนที่มีการระบาดของโรค ควรเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัดคับแคบ ดังเช่นว่า ห้าง สถานเริงรมย์ งานมหรสพ รวมทั้งการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู เป็นต้น แต่ว่าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรจะสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือทามือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสมหะของคนป่วย และก็อย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกแม้ยังมิได้ล้างมือให้สะอาด คนไข้ควรปลีกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปนเปหรือคลุกคลีสนิทสนมกับผู้อื่น เวลาไอหรือจามควรที่จะใช้ผ้าปิดปากแล้วก็จมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากๆควรจะสวมหน้ากากอนามัยด้วยทุกคราว ส่วนการฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคไข้หวัดใหญ่นั้น โดยธรรมดาถ้าไม่มีการระบาดโรค แพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดยาแก่พสกนิกรทั่วๆไป เว้นเสียแต่ในผู้ที่อยู่ในกรุ๊ปมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวมาแล้วข้างต้น คนวัยชรา (แก่กว่า 65 ปี) ผู้ที่แก่ต่ำลงยิ่งกว่า 19 ปีที่จำต้องรับประทานยาแอสไพรินเป็นประจำ สตรีท้องที่คาดว่าอายุครรภ์ย่างเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในช่วงที่มีการระบาดของโรค คนที่เป็นบุคลากรทางด้านการแพทย์ ผู้ที่จำเป็นต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค คนที่มีกิจกรรมต้องที่ไม่สามารถที่จะหยุดงานได้ (เป็นต้นว่า นักแสดง นักกีฬา นักเดินทาง ตำรวจ เจ้าหน้าที่บริการสังคม ผู้เรียนหรือนิสิตที่อยู่รวมกัน รวมทั้งคนที่อาศัยอยู่ในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์ผู้สูงวัย) คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (ดังเช่นว่า ผู้ป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คนไข้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ คนไข้รังสีรักษาหรือเคมีบำบัดรักษา) คนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง (อาทิเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการฉีดยาคุ้มครองป้องกันไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรจำพวกไหนซึ่งสามารถช่วยทุเลา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) มีสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวโคนง (Houttuynia cordata) จากการเรียนรู้ในหลอดทดสอบ น้ำมันระเหยผู้กระทำลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV-1) ขึ้นรถสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสดังที่กล่าวถึงแล้ว ดังเช่นว่า methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีเยอะที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดสอบมีฤทธิ์ ยับยั้งไม่ให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งยังประเภท A รวมทั้ง B เข้าเซลล์& ลดการติดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารพวกเลกติน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) พอๆกับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดสอบนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านี้ สาร aloe emodin ยังยับยั้งไวรัสที่ก่อโรคเริม แล้วก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิต้านทาน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมจัดเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งไว้ยาวนานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิปกติแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับเพื่อการคุ้มครองไข้หวัดใหญ่เจริญเท่าการให้วัคซีน
                สินค้าเสริมของกินกระเทียมที่มีสาร allicin มีการศึกษาค้นคว้าในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กรุ๊ปควบคุมได้รับยาหลอก รวมทั้งกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมกินวันละ 1 แคปซูล นาน 12 อาทิตย์ ระหว่างฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน - ก.พ.) แล้วก็ให้คะแนนสุขภาพ และอาการหวัดทุกวี่วัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมได้โอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากรุ๊ปยาหลอก และเมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดลองให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่คนแก่ที่อาศัยอยู่รวมกันหลายคน (institutional setting) ปริมาณรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (ฤดูหนาวปี 2543 -44) เพื่อเล่าเรียนประสิทธิผลสำหรับในการปกป้องการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างเฉียบพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการของกรุ๊ป ยาหลอกสูงกว่ากรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างเป็นจริงเป็นจัง (7/101 แล้วก็ 1/97) และก็การต่ำลงของความเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกลุ่มที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%
เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

บันทึกการเข้า