รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่มี สรรพคุณ-ประโยชน์ ที่มากที่สุดของยารักษาโรค  (อ่าน 582 ครั้ง)

แสงจันทร์5555

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
    • ดูรายละเอียด


สมุนไพรมะขามป้อม
มะขามป้อม Phyllanthus emblica Linn.
บางถิ่นเรียก มะขามป้อม (ทั่วๆไป) กันโตด (เขมร-เมืองจันท์) กำทวด (จังหวัดราชบุรี) มั่งทาง สันยาส่า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน).
ไม้ใหญ่ ขนาดกึ่งกลาง สูง 8-12 มัธยม เปลือกสีเขียวอมเทา ลอกออกเป็นแผ่นๆแก่นไม้สีแดงอมน้ำตาล. ใบ ลำพัง สีเขียวอ่อน กว้าง 0.25-0.5 เซนติเมตร ยาว 0.8-1.2 เซนติเมตร เรียงชิดกัน ดูผาดๆเสมือนใบเกาะติด ก้านใบสั้นมาก. ดอก เล็ก สีขาว หรือ นวล ดอกแยกเพศ แต่เกิดบนต้นเดียวกัน ออกตามง่ามใบ 6 ดอก มีกลีบรองกลีบ 6 กลีบ ไม่มีกลีบ. สมุนไพร ดอกเพศผู้ มีเกสรผู้ 3 อัน ฐานรองดอกมีต่อม 6 ต่อม. ดอกเพศเมีย มีฐานรองดอกเป็นรูปถ้วย ขอบถ้วยหยัก รังไข่มี 3 ช่อง หลอดท่อรังไข่ปลายแยกเป็น 2 แฉก ไม่เท่ากัน. ผล กลม มีเนื้อดก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2-2 ซม. ผลอ่อนสีเขียวอ่อน ผลแก่สีเขียวอมเหลือง เนื้อกินได้ มีรสฝาก เปรี้ยว ขม รวมทั้งอมหวาน เปลือกเมล็ดแข็ง มีสันตามทางยาว 6 สัน ภายในมี 6 เมล็ด.

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นประปรายเป็นหมู่ๆตามป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเต็งรัง และก็ป่าดิบธรรมดา
คุณประโยชน์ : ราก น้ำต้มรากกินเป็นยาลดไข้ เป็นยาเย็น ฟอกเลือด และทำให้อาเจียน หากกลั่นราก จะได้สารที่มีคุณลักษณะเป็นยาฝาดสมานที่ดียิ่งกว่าสีเสียด (catechu) (55). ต้น เปลือกเป็นยาฝาดสมาน ใบ น้ำต้มใบใช้อาบลดไข้ ดอก มีกลิ่นหอมคล้ายผิวมะนาว ใช้เข้าเครื่องยาเป็นยาเย็น และยาระบาย. ผล ใช้ได้ทั้งผลสด แล้วก็ผลแห้ง มีฤทธิ์กัดทำลาย เป็นยาเย็น ยาฝาดสมาน แก้ไข้ ขับฉี่ ระบาย บำรุงหัวใจ ฟอกโลหิต น้ำคั้นผลสด มีปริมาณวิตามินซีสูตระหนี่ว่าน้ำส้มคั้นราวๆ 20 เท่า ในจำนวนเสมอกัน ใช้แก้โรคลักปิดลักเปิด (scurvy) ยางผลใช้หยอดแก้ตาอักเสบ กินเป็นยาช่วยสำหรับในการย่อย และขับปัสสาวะ เนื้อผลแห้งที่เรียกว่า Emblic myrobalan ใช้เป็นยาฝาดสมาน เพราะว่ามี tannin แก้โรคริดสีดวงทวาร แก้บิด ท้องเสีย ใช้กับธาตุเหล็กแก้โรคดีซ่านรวมทั้งช่วยสำหรับการย่อย ถ้าหากหมักผลจะได้แอลกอฮอล์ กินแก้อาหารไม่ย่อย แก้ไอ และก็แก้โรคดีซ่าน
บันทึกการเข้า