เจตมูลเพลิงขาวชื่อท้องถิ่นอื่น ปิดปิวขาว (ภาคเหนือ) ตั้งชู้รักอ้วย , โคนชุวา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เจตมูลเพลิงขาว (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumbaga zeylanica L.ชื่อตระกูล PLUMBAGINACEAEชื่อสามัญ White leadwort.ลักษณะทั่วไปทางวิชาพฤกษศาสตร์ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงประมาณ 1-1.5 เมตร กิ่งอ่อนเป็นรองและก็เป็นเหลี่ยมสีเขียว แตกกิ่งก้านสาขารอบๆต้นมาก
ใบ เป็นใบคนเดียว ออกตรงข้ามกัน ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนานปนรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบของใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีสีเขียวเข้ม ลักษณะที่คล้ายกับใบมะลิแต่จะใหญ่กว่า
ดอก ออกดอกเป็นช่อที่ส่วนยอดของต้น ดอกมีสีขาว โคนหลอดจะเป็นหลอดเล็กๆแต่ส่วนปลายจะบานคล้ายจานมีอยู่ 5 กลีบ กลีบดอกจะบางมาก กลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว รวมทั้งมีขนปกคลุมอยู่ ซึ่งขนนี้จะมีต่อมเหนียวๆติดมือ
ผล ได้ผลแห้ง ลักษณะรูปรี ยาว กลม สีเขียวและก็มีขนเหนียวรอบผล แตกออกได้
นิเวศวิทยามีถิ่นเกิดในอินเดีย แล้วก็เขตร้อนทั่วไป กำเนิดตามขว้างสดงดิบและก็ป่าเบญจพรรณทั่วๆไป เป็นไม้ที่ชอบอยู่ร่มรำไร
การปลูกแล้วก็เพาะพันธุ์เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศร้อนชื้น รวมทั้งสภาพดินธรรมดา เพาะพันธุ์ด้วยการเพาะเม็ด หรือการปักชำกิ่ง
ส่วนที่ใช้ รส และสรรพคคุณ สมุนไพร ราก รสร้อน ใช้เป็นยาขับรอบเดือน แก้ปวดข้อ ขับพยาธิ ใช้ทาแก้กลากเกลื้อน ระงับอาการปวดฟัน รวมทั้งแก้ท้องเสีย ขับลมในกระเพาะและก็ลำไส้ ขับโลหิตประจำเดือน แก้ริดสีดวงทวาร ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ต้น รสร้อน แก้เลือดอันเกิดแต่ว่ากองกำเดา
ใบ รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
ดอก รสร้อน แก้อาการน้ำดีนอกฝัก หรือแก้อพัทธปิตตะสมุฏฐาน
วิธีการใช้แล้วก็ปริมาณที่ใช้- ขับประจำเดือนหรืบขับโลหิตเมนส์ โดยใช้รากสด 5-10 กรัม หรือแห้งประมาณ 3-5 กรัม ล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นต้มในน้ำที่สะอาด 500 ซีซี นานโดยประมาณ 10 นาที แล้วกรองเอาน้ำ ดื่มวันละ 2 เวลา รุ่งเช้า-เย็น
ข้อควรจะรู้ รากมีสาร plumbagin ลำต้นมีแบบเดียวกัน แต่น้อยกว่าราก
ต้องการให้เป็นยาช่วยสำหรับการย่อยหรือเจริญอาหาร ให้นำผงของรากเจตมูลไฟแดงมาผสมกับ
ลูกสมอพิเภก ผงดีปลี แล้วก็เกลือ อย่างละเท่าๆกัน รับประทานครั้งละ 2.5 กรัม
สตรีที่มีครรภ์ห้ามกินรากของต้นนี้ ด้วยเหตุว่ารากจะมีสารบางอย่างที่ทำให้แท้งบุตรได้