ปลาร้าปลาร้าเป็นอาหารทำด้วยปลาหมักกับเกลือ ปลาที่ใช้มากเป็นปลาสร้อยและก็ปลากระดี่ แม้กระนั้นบางทีอาจใช้ปลาช่อนได้ ทำได้โดยเอาปลามาล้างน้ำให้สะอาด ขอดเกล็ดออก ตัดศรีษะแล้วเอาไส้ออก แล้วล้างให้สะอาด หากปลาตัวโตก็ให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตามอยากได้ ผสมกับเกลือใช้เกลือ ๑ ส่วนต่อปลา ๒ ส่วน คลุกจนเข้ากันดี ใส่ในไห อัดให้แน่น เอาไม้ไผ่ขัดตรงปากไห หมักไว้ ๒-๓ วัน แล้วจึงคัดแยกออกมาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งไว้ให้หมาด ผสมกับรำข้าวหรือข้าวคั่วที่บดละเอียด เพิ่มเกลือเม็ดละเอียดๆอีกเล็กน้อย ใส่ในไห อัดให้แน่นเหมือนกันกับทีแรก หมักไว้ ๑-๒ เดือน ก็จะได้ปลาร้า ปลาแดกที่เพิ่มรำข้าวลงไป เรียก ปลาร้ารำ (ใช้ปลา ๑ ส่วนต่อปลา ๒0 ส่วน โดยขนาด) ส่วนปลาร้าที่เติมข้าวคั่วลงไปเรียก ปลาแดกข้าว (ใช้ข้าวสารที่คั่วให้เป็นสีน้ำตาลแล้วบดอย่างระมัดระวัง ๑ส่วนต่อปลา ๔0 ส่วนโดยขนาด)
กลุ่ม{ตุบาทกลุ่มจเหม็นตุบาท (Superclass Tetrapoda) เป็นกลุ่มสัตว์ที่มี ๔ ขา อาจเป็นแขน ขา หรือรยางค์ ลางชนิดรยางค์บางทีอาจลดรูปลง เหลือเพียงร่องรอยให้มองเห็น (เช่น งู) หัวใจ มี ๓-๔ ห้อง หายใจด้วยปอด ลางชนิดบางทีอาจหายใจทั้งทางปอดรวมทั้งทางผิวหนัง (อย่างเช่น กบ) เส้นประสาทสมองมี ๑0-๑๒ คู่ แบ่งได้เป็น ๔ชั้นเป็นชั้นสัตว์สะเทินน้ำ สะเทินบก ชั้นสัตว์เลื้อยหรือคลาน ชั้นสัตว์ปีก และก็ชั้นสัตว์กินนม
สมุนไพร ชั้นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก (class Amphibia) สัตว์ชั้นนี้มักถูกเรียกไม่ถูกเป็น “สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ” คำ amphibian มาจากคำว่า amphi มีความหมายว่าด้วยกัน หรือทั้งสอง กับคำ bios มีความหมายว่าชีวิต เป็นการมีชีวิตอยู่สองแบบ คืออีกทั้งบนบกและก็ในน้ำ ไม่ใช่กึ่งหนึ่งอยู่บนบก อีกครึ่งอยู่ในน้ำ สัตว์ชั้นนี้มีชีวิตในช่วงแรกตั้งแต่ระยะไข่จนกระทั่งตัวอ่อนอยู่ในน้ำ หายใจด้วยเหงือก ถัดมาก็เลยเปลี่ยนรูปร่างขึ้นไปอยู่บนบก หายใจทางปอดแล้วก็/หรือทางผิวหนัง ผิวหนังไม่มีเกล็ด มีต่อมสร้างเหมือกให้ผิวหนังเปียกชื้นและก็ลื่น หัวใจมี ๓ ห้อง บน๒ ห้อง ด้านล่าง ๑ ห้อง เป็นสัตว์เลือดเย็น (เป็นไม่สามารถที่จะควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้ด้วยตัวเอง อุณหภูมิจะแปรไปตามสภาพแวดล้อม) ผสมพันธุ์ข้างนอก ผิวหนังของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและเปียกชื้น ไม่สามารถเก็บความเปียกชื้นเอาไว้ได้นาน มีต่อมแล้วก็เส้นเลือดฝอยเป็นจำนวนมาก ผิวหนังที่มีลักษณะบางรวมทั้งเปียกชื้นแบบนี้ ช่วยปฏิบัติภารกิจแลกเปลี่ยก๊าซ สัตว์พวกนี้ก็เลยจำต้องอยู่ใกล้น้ำ มีเพียงแต่ส่วนน้อย
วงจรชีวิตของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกวงจรชีวิตของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเริ่มต้นจากตัวผู้รวมทั้งตัวเมียที่โตเต็มวัยจับคู่กันออกไข่รวมทั้งน้ำเชื้อออกมาผสมกัน ไข่ของสัตว์เหล่านี้มักมีวุ้นใสหุ้มอยู่ด้านนอกเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจกำเนิดกับสิ่งที่มีชีวิตข้างใน เมื่อฟักออกเป็นตัวอ่อน เรียก ลูกอ๊อด จะหายใจด้วยเหงือก ในระหว่างการเจริญเติบโตจะมีการสร้างอวัยวะต่างๆอาทิเช่น ปาก ช่องหู ขา ส่วนหางแล้วก็เหงือกนั้นหดหายไปก่อนที่จะขึ้นมาอยู่บนบกด้วยรูปร่างที่เหมือนตัวคุณพ่อและก็คุณแม่ แค่นั้นที่สามารถปรับตัวให้อยู่ได้ในที่แล้ง ยกตัวอย่างเช่น ในทะเลทราย แต่จำนวนมากเมื่ออยู่กลางแดดหรือในที่แล้ง ก็จะตายในเวลาไม่นานนัก สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่ใช้ประโยชน์ทางยามีหลายแบบ ได้แก่ คางคก ควรโคร่ง