รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ปูทะเล  (อ่าน 423 ครั้ง)

Tawatchai1212

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ ปูทะเล
« เมื่อ: มกราคม 04, 2018, 03:37:32 AM »


ปูทะเล
ปูทะเลเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในชั้นครัสเตเชีย ที่เจอในประเทศมีขั้นต่ำ ๓ ประเภท ทุกประเภทจัดอยู่ในวงศ์  Portunidae คือ
๑.ปูดำ หรือ ปูแดง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scylla serrata (forsskal) จำพวกนี้พบตามป่าชายเลนทั่วไป
๒.ปูขาว หรือ ปูทองหลาง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scylla oceanic dana จำพวกนี้พบตามพื้นทะเลทั่วไป
๓.ปูเขียว หรือ ปูทองคำโหลง หรือ ปูลาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scylla transquebarica Fabricius
ประเภทนี้พบตามพื้นทะเลทั่วๆไปอีกทั้ง ๓ ชนิดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกันด้านสีรวมทั้งหนามที่ขอบกระดองแล้วก็สภาพถิ่นอาศัย จนนักวิชาการลางสำนักจัดเป็นชนิดเดียวกันหมดเป็นScylla serrata  (Forsskal)
ชีววิทยาของปูทะเล
ปูทะเลอาจมีกระดองขนาดกว้างได้ถึง ๒๐ ซม. มีลำตัวที่แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนหมายถึงท่อนหัวที่เชื่อมรวมกับอกมีกระดองเป็นเปลือกปกคลุมอยู่ด้านบน  กับส่วนท้องที่พับแนบติดกับลำตัวทางข้างล่าง ชาวบ้านเรียกส่วนนี้ว่า ตะปิ้ง ซึ่งในตัวผู้จะเป็นสามเหลี่ยมแคบ ส่วนในตัวเมียจะแผ่กว้างออกเป็นรูปโค้งกลม มีขา ๕ คู่ คู่แรกแปรไปเป็นก้ามใหญ่ ใช้จับเหยื่อแล้วก็ป้องกันตัว รวมทั้งเพศผู้ใช้จับกุมตัวภรรยาเวลาผสมพันธุ์ ขาคู่ที่ ๒-๕ มักมีปลายแหลม ใช้สำหรับคลานหรือเดิน ส่วนขาสุดท้ายของปูทะเลจะแบนเป็นกรรเชียง ช่วยสำหรับในการว่ายน้ำ ปูทะเลหายใจโดยเหงือกซึ่งมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ  ประชาชนเรียก  นมปู  มองเห็นได้เมื่อเปิดกระดองออก  ปูทะเลบางทีอาจสลัดก้ามทิ้งได้  โดยสร้างก้ามใหม่ขึ้นมาเมื่อลอกคราบครั้งต่อมา  เหมือนปกติหลังจากการลอกคราบเปื้อนเพียงแต่ ๒ รั้ง ก้ามปูอาจมีขนาดใหญ่เหมือนเดิมได้  การลอกคราบเปื้อนของปูเป็นวิธีการช่วยเพิ่มขนาด  ภายหลังปูทานอาหารและก็สะสมไว้พอเพียงแล้ว  ก็จะสลัดเปลือกเดิมทั้งสิ้นทิ้งไป  แล้วสร้างเปลือกใหม่ขึ้นมาแทน  ปูที่แก่น้อยนั้นลอกคราบบ่อย  แต่จะค่อยๆห่างขึ้นเมื่อปูโตเต็มกำลังแล้ว ฤดูผสมพันธุ์ของปูทะเลอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ในตอนนี้ปูทะเลมีไข่มาก ก่อนที่จะมีการสืบพันธุ์นั้น ตัวผู้อุ้มตัวเมียไว้เพื่อรอจนถึงตัวเมียลอกคราบ ภายหลังจากสืบพันธุ์แล้ว ตัวเมียจะปลดปล่อยไข่ออกมาไว้ตับปิ้ง ใช้รยางค์ของส่วนท้องโอบไข่เอาไว้ ไข่ในระยะเริ่มต้นมีสีเหลืองอ่อนๆแต่จะเปลี่ยนเป็นสีแก่ขึ้น จนกระทั่งเป็นสีส้มและก็สีน้ำตาล เป็นลำดับ หลังจากนั้นไข่ก็เลยฟักเป็นตัวอ่อน ดำเนินชีวิตเป็นพลิกก์ตอนลอยไปกับน้ำทะเล แล้วลอกคราบเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นตัวอ่อนอีกระยะหนึ่ง จึงจะจมลงสู่พื้นทะเลเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นปูขนาดเล็กถัดไป

ผลดีทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/url] แพทย์แผนไทยใช้ “ก้ามปูทะเลเผา” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในการประกอบยาหลายขนาน เช่น ยาใช้ภายนอกแก้แผลอันมีสาเหตุมาจากไส้ด้วนไส้ลุกลาม กระตุ้นให้เกิดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนยิ่งนัก ซึ่งบึนทึกเอาไว้ภายใน พระหนังสือมุจฉาปักขันทิกา ดังต่อไปนี้ ถ้ามิหาย  ให้ร้อนหนัก ท่านให้เอา ก้ามปูสมุทรเผา ๑ เปลือกหอยโข่งเผา ๑ รากลำโพงแดง  ๑  รากขัดมอน  ๑  ฝางเสน  ๑  ดินประสิว ๑ เปลือกจิกนา ๑ ผลจิกท้องนา  ๑  เอาเสมอ  บดด้วยน้ำลายจรเข้เป็นกระสาย  หายแล ยาแก้กระหายน้ำแก้ร้อนภายในอันทำให้หอบขนานหนึ่ง  ซึ่งบันทึกไว้ภายในพระคู่มือธาตุวิภังค์ เข้าเครื่องยาที่เรียก “ก้ามปูทะเลเผาไฟ” ด้วย  ยาขนานนี้แบบเรียนว่าใช้ “รับประทานทั้งพ่น”  ดังต่อไปนี้ ขนานหนึ่งแก้ระหายน้ำให้ร้อนด้านในแลให้หอบ  ท่านให้เอาสังข์หนามเผาไฟ ๑  รากบัวหลวง ๑  ฝุ่นผงจีน  ๑  รังสุนัขร่าเผาไฟ  ๑  ชาดก้อน  ๑ ดอกพิกุล ๑  ดอกสาระภี  ๑  ดอกบุนนาค  ๑  เกสรบัวหลวง ๑ การบูร ๑ รากสลอดน้ำ ๑ รากคันทรง ๑ ก้ามปูสมุทรเผาไฟ ๑ โปตัสเซี่ยมไนเตรดขาว ๑ ยาทั้งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดเปนแท่ง ละลายน้ำดอกไม้สด ทั้งรับประทานอีกทั้งพ่น แก้ร้อนแก้ระหายน้ำ ไคลตกก็หายแล

Tags : สมุนไพร
บันทึกการเข้า