หูฉลามหูฉลามเป็นของกินที่นิยมบริโภค รวมทั้งจัดเป็นอาหารของชนชั้นสูงมาแม้กระนั้นโบราณ โดยยิ่งไปกว่านั้นในหมู่ชนชาติจีน หูฉลามเป็นของมีราคาแพง แต่ว่ามีจำนวนน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้ ส่วนมากหูฉลามได้จากครีบของปลาฉลาม ซึ่งใช้ได้เกือบทุกครีบ (เว้นเสียแต่ครีบหาง ซึ่งไม่ได้รับความนิยม เพราะออกจะแข็ง) ที่เรียก “หูฉลาม” นั้น อาจเนื่องมาจากครีบอกขนาดใหญ่อีกทั้ง ๒ ข้างของปลาฉลามมีลักษณะคล้ายใบหู นอกจากหูฉลามจะได้จากปลาฉลามแล้วยังบางทีอาจได้จากปลากระเบน โรนิน โรนัน ปลาฉนาก เป็นต้น ปลาฉลามเป็นปลากระดูกอ่อนกรุ๊ปหนึ่ง มีรูปร่างเพรียวเหมือนกระสวย ทำให้สามารถว่ายได้เร็วมาก มีช่องเหงือกเปิดออกทางข้างๆ ข้างละ ๕-๗ ช่อง มีปากอยู่ข้างล่าง ข้างในมีฟันคมและก็ฟันกรามที่แข็งแรงสำหรับกัดทึ้งเหยื่อ ลำตัวมีเกล็ดละเอียดชิดกันเป็นแผ่น สากเหมือนกระดาษทราย ครีบอกแยกจากท่อนหัว โดยฐานครีบตั้งอยู่ในแนวราบ ครีบหางตั้ง มีแพนหางช่วยสำหรับในการว่าย เมื่อคนหาปลาจับปลาฉลามขึ้นมาได้ ก็จะตัดครีบโดยทันที โดยปลาฉลาม ๑ ตัวให้ครีบทั้งหมดทั้งปวง ๘ ครีบ เป็นครีบเดี่ยว ๔ ครีบ ครีบคู่ ๒ คู่ ปลาฉลามที่เจอทั้งโลกมีอยู่ราว ๓๔๐ ประเภท แต่ละจำพวกมีลักษณะเด่นนาๆประการ ที่เจอในน่านน้ำไทยมีไม่น้อยกว่า ๒๕ ชนิด แต่ที่พบได้บ่อยในอ่าวไทย อย่างเช่น ฉลามหูดำ ฉลามหนู ฉลามเสือ ฉลามหิน ฉลามหัวค้อน
ชั้นปลากระดูกแข็งสมุนไพร ชั้นปลากระดูกแข็ง (Class Osteicthyes) ทั่วทั้งโลกมีราว ๒๐,๐๐๐ จำพวก เป็นชั้นของปลาที่มีโครงร่างมีกระดูกแข็งเป็นส่วนมาก มีเกล็ดอันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเนื้อเยื่อผิว ผิวหนังมีต่อมมูกจำนวนมาก โพรงปากอยู่ในแนวขอบของหัว มีครีบเดี่ยวแล้วก็ครีบคู่ ช่องเหงือกมีแผ่นกระดูกเป็นฝาปิดอยู่ เจอได้ทั้งในน้ำจืด น้ำทะเล และน้ำกร่อย ลางประเภทมีเหงือกซับน้ำก้าวหน้า จึงอยู่บนบกได้ในระยะเวลาสั้นๆอาทิเช่น ปลาตีน ปลาหมอ แพร่พันธุ์แบบอาศัยเพศ ส่วนมากมีการถือกำเนิดด้านนอก ปลาในชั้นนี้ที่มีสาระทางยา ได้แก่
ปลาช่อน ปลาดุก ปลาสร้อย ปลาไหล