รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ปลาซ่อน  (อ่าน 448 ครั้ง)

bilbill2255

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 112
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ ปลาซ่อน
« เมื่อ: ธันวาคม 25, 2017, 02:06:05 AM »


ปลาช่อน
ปลาช่อนเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa striata (Bloch)
จัดอยู่ในวงศ์ Channidae
มีชื่อสามัญว่า snakehead murrel
บางถิ่น (พายัพและก็อีสาน) เรียก ปลาค้อ ก็มี
ชีววิทยาของปลาช่อน
ปลาช่อนมีรูปร่างกลมเป็นทรงกระบอก ลำตัวข้างหางจะแบนบางส่วน ความยาวของลำตัวเมื่อโตสุดกำลัง ๖๐-๗๕ ซม. (มีกล่าวว่าลำตัวยาวได้ถึง ๑ เมตร) หรือ มีความยาวเป็น ๕.๕-๖ เท่าของความลึกของลำตัว รวมทั้งเป็น ๓.๒-๓.๓ เท่าของท่อนหัว ลำตัวด้านบนโค้งลงบางส่วน ส่วนเรือท้องแบน ด้านข้างของส่วนหางแบน ลำตัวมีตั้งแต่ว่าสีเทาถึงสีเทาปนน้ำตาล ข้างหลังสีดำ ส่วนท้องสีขาว และก็อาจมีจุดประสีดำหรือสีน้ำตาลกระจายอยู่ทั่วๆไป ข้างๆของลำตัวมีลายสีน้ำตาลหรือสีเทาคละเคล้าดำ (ขนาดและก็รูปร่างไม่สม่ำเสมอ) พาดขวางลำตัวจากบริเวณใต้เส้นข้างตัวไปยังรอบๆท้อง ในลางตัวลายกลุ่มนี้อาจพาดขวางลำตัวต่อเนื่องกันจากบริเวณครีบหูถึงคอดหางราว ๑๕ แถบ   แต่ สีรวมทั้งลายนี้เปลี่ยนไปตามถิ่นที่อยู่และฤดู หัวปลาช่อนมีขนาดใหญ่ ลักษณะแบนจากบนลงล่าง ตามีขนาดใหญ่ อยู่ข้างๆของท่อนหัว จะงอยปากกลมมน ปากกว้างแล้วก็เฉลง มุมปากลึกแล้วก็ยื่นเลยจากตามาก ขากรรไกรสามารถยึดหดได้ ขากรรไกรด้านล่างยื่นล้ำขากรรไกรบนนิดหน่อย ฟันที่ขากรรไกรบนและข้างล่างเป็นซี่เล็กมากมาย ชิดกันเป็นแผ่นและคม ขากรรไกรบนมีเขี้ยว มีฟันที่เพดานด้านหน้าแล้วก็เพดานส่วนใน ฟันที่กรามและเพดานมีราว ๔ แถว แผ่นปิดกระพุ้งแก้มเปิดกว้างได้ รอบๆบ้องคอเหนือเหงือกมีอวัยวะพิเศษช่วยหายใจ  ทำให้เคลื่อนไหวอยู่บนบกและก็ฝังตัวอยู่ในโคลนได้เป็นเวลานาน  ส่วนบนและด้านข้างหัวมีเกล็ดปกคลุมครีบหลังและก็ครีบก้นยาวเกือบถึงโคนครีบหาง ครีบหลังมีก้านครีบ ๓๘-๔๒ ก้าน ครีบก้นมีก้านครีบ ๒๔-๒๖ ก้าน ครีบอยู่ทางด้านท้องใกล้ช่องเปิดทวารและครีบก้น ครีบหูอยู่ด้านข้างของลำตัวต่อจากช่องเหงือก ครีบหางกลม คอดหางแบนข้าง  ครีบทุกครีบมีสีเทาผสมสีน้ำตาลดำ และก็ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง เกล็ดปลาช่อนมีลักษณะกลมมน ขอบเรียบ เกล็ดตามลำตัวมีสีเทาถึงสีน้ำตาลอมเทา ส่วนหลังสีดำ เกล็ดบนเส้นข้างลำตัวมี ๕๒-๕๗ เกล็ด เส้นข้างลำตัวไม่ต่อกันเป็นแนวเดียว แต่มีรอยหักลงไปตรงรอบๆเกล็ดที่ ๑๗-๒๐ ด้านบนและก็ด้านข้างของลำตัวมีเกล็ดขนาดใหญ่ แต่เกล็ดที่แถวๆศีรษะแข็งกว่าเกล็ดที่บริเวณลำตัว ปลาช่อนเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย   ทรหดอดทน   หากินตั้งแต่ระดับพื้นดินจนกระทั่งผิวน้ำ ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน ๑ เมตร โดยยิ่งไปกว่านั้นในรอบๆที่มีพรรณไม้น้ำให้หลบซ่อนตัวได้ ปลาช่อนสืบพันธุ์กันในหน้าฝน  โดยที่เพศผู้และก็ตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะจับคู่กัน  ช่วยเหลือกันกัดหญ้าชายน้ำเพื่อทำแอ่งตกไข่ แล้วตัวเมียก็ออกไข่ แล้วตัวผู้ฉัดน้ำกามเข้าผสม เพศผู้ปฏิบัติภารกิจคอยดูแลลูก  ชาวบ้านเรียกลูกอ่อนของปลาช่อนว่า ลูกครอก เมื่อยังเล็กตัวมีสีออกแดง ดำผุดดำว่ายอยู่ตามแอ่งน้ำไม่ลึกนัก โดยมีบิดาปลาช่อนซุ่มตัวคอยระวังอยู่ ปลาช่อนรับประทานปลาเล็กและเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นปลาที่พบบ่อยในทุกภาคของประเทศไทย

คุณประโยชน์ทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/b][/url] หมอแผนไทยรู้จักใช้ปลาช่อนเป็นเครื่องยามาแม้กระนั้นโบราณ ตำราเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า เนื้อสด มีรสหวาน ชอบกับธาตุทั้งปวง ส่งผลให้เกิดเสลด ปิดตะระงับวาตะ เนื้อแห้ง มีรสหวาน มัน มีสรรพคุณบำรุงกำลัง แก้เหน็ดเหนื่อย แก้เด็กตัวร้อน นอนผวา   มือเท้าเย็น หลังร้อน หอบ  ชักจากไข้สูง แก้ชางทับสำรอก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ดี มีรสขม   แก้ตาอักเสบ ตาแดง แก้ลอยแผล   หางแห้ง มีรสเย็น คาว แก้เม็ดยอดในปาก แก้ฝ้าละออง และเกล็ด มีรสจืดชืด  คาว นำไปสู่ลมเบ่งเวลาคลอด พระคัมภีร์โรคนิทาน ให้ยาขนานหนึ่งสำหรับใช้หยอดตาแก้ “น้ำตาตกหนักให้ตามัว” ยาขนานนี้เข้า “หินในสีสะปลาช่อน” หรือหินในหัวปลาช่อน   เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ น้ำตานั้น  แตกทุพพลภาพให้ตามัว  ให้น้ำตาตกหนัก  แล้วตั้งแต่แห้งไปตานั้นก็เปนดุจเยื่อ ผลลำไย ถ้าหากจะแก้ให้ประกอบยานี้  รากคนทิสอ ๑  รากเสนียด ๑  ผลมะตูมอ่อน  ๑  ขิงแห้ง ๑ ทำเท่าเทียมกัน  ต้มรับประทาน  แล้วจึงประกอบยาหยอดตาให้ประชุม  หินในสีสะปลาช่อน  ๑  บัลลังก์ศิลา ๑ พิมเสน  ๑ ฝนหยอดตา  สังเกตดูถ้าหากมีน้ำตาไหลออกมาถึงแก้ม  คนเจ็บนั้นก็ยังไม่ตาย  ถ้าหากไม่มีน้ำตา  ตายแล   พระคัมภีร์ธาตุภิวังค์ ให้ยาแก้ไข้ที่ทำให้ชักขนานหนึ่ง ชื่อ “ยาอนันตไกรวาต” ยาขนานนี้เข้า “คางปลาช่อน” เป็นยาเครื่องด้วย ดังนี้ ยาชื่ออนันตไกรวาต  แก้พิษไข้ทำให้ชักลิ้นแข็งกระด้างคางแข็ง  และก็ชักให้สั่นไปอีกทั้งกาย  แลทำพิษต่างๆ ถ้าเกิดจะแก้ท่านให้เอากระดูกงูเหลือม ๑  กระดูกงูทับสมิงคลา  ๑  คางปลาช่อน ๑ งาช้าง ๑  กรามแรด ๑ ยาทั้งนี้ขั้วให้เกรียม โกฐหัวบัว  ๑  โกฐสอ  ๑  โกศกระดูก  ๑  เทียนดำ  ๑  ผลโหระพา  ๑  ผลผักชี  ๑  น้ำประสานทอง  ๑ ใบพิมเสน  ๑ ใบสันมีดพร้าหอม ๑ ใบผักหวาน ๑ ใบทองหลางน้ำ  ๑  รากถั่วภู  ๑  รากตำลึงเพศผู้  ๑  ดอกบุนนาค  ๑  ดอกพิกุล  ๑  ยาทั้งนี้เอาส่วนเสมอกัน  บดทำแท่งไว้ น้ำกระสายยานั้นให้เอาชาวเข้าหรือน้ำดอกไม้ก็ได้ แซกดีงูแลพิมเสน กินแก้ยัด แก้ชัก แก้เชื่อมมึน แก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง ทั้งยังกินซะโลมก็ได้แล ยานี้ได้เชื่อมาแล้ว เปนมหายอดเยี่ยมนัก

Tags : สมุนไพร
บันทึกการเข้า