งูเหลือมงูเหลือมเป็นงูไม่มีพิษมีขนาดใหญ่และก็ยาวที่สุดในโลก
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า python retculatus (schneider)จัดอยู่ในวงศ์ Boidaeตระกูลย่อย pythoninaeมีชื่อสามัญว่า reticulated python หรือ regal pythonชีววิทยาของงูเหลือมงูเหลือมมีลำดับตัวยาว ครึ้ม บางทีอาจยาวได้ถึง ๑๐ เมตร ใจกลางลำตัวป่องออกมีเกล็ดปกคลุม โดยธรรมดาเกล็ดมีสีเหลืองหรือสีเหลืองผสมสีน้ำตาล มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีเกล็ดสีดำ มีเกล็ดสีเหลืองเป็นขอบใน และก็มี เกล็ดสีน้ำตาลผสมเทาอญุ่ข้างในอีกทีหนึ่ง ขอบนอกของเกล็ดมีสีดำ มีเกล็ดสีเหลืองทองคำสดกว่าบริเวณอื่น บริเวณด้านในข้างลำตัวมีแถบเกล็ดสีดำ ด้านในมีเกล็ดสีขาวเป็นแถบ เกล็ดข้างลำตัว รอบๆที่ติด กับเกร็ด ท้อง มีสีดำสลับกับขาวไม่มีระเบียบ เกล็ดท้อง สีนวลหรือสีเหลืองอ่อน บริเวณศีรษะมีสีเหลืองคละเคล้าน้ำตาล มีเส้นสีดำเล็กๆพิงผ่านกลางหัว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของงูเหลือม ที่ใช้จำแนกประเภท จากงูชนิดเดียวกันชนิดอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน ( เป็นต้นว่างูหลาม) ดวงตาสีเหลืองหรือสีเหลืองเข้ม มีแถบสีดำเล็กๆภาพถ่านจากตาถึงมุมปาก งูเหลือมบางทีอาจ
งูเหลือมขายได้ถึงคราวละ๑๒๔ฟอง แม่งูรอดูแลจนถึงไข่ฟักเป็นตัว ลูกงูเหลือมที่ฟักออกมาใหม่ยาวราว ๕๕ ซม.
งูเหลือมเจอได้ในทุกภาคของประเทศ อีกทั้งในป่าดิบแล้วก็ป่าเสีย พบบ่อยทำมาหากินบนพื้นดิน โดยการดักรอเหยื่อ เมื่อเหยื่อผ่านเข้ามาในระยะใกล้ก็จะฉกกัด และม้วนตัวรัดเหยื่อจนตาย แล้วจึงกลืนรับประทานเหยื่อที่ตายแล้ว
งูหลามลวดลายแถวๆศีรษะของงูเหลือม งูหลาม แล้วก็งูหลามปากเป็ดงูหลาม(rook python)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าpython molunis bivittatus schiegel เป็นงูที่มีขนาดใหญ่เป็นชั้น ๓ ของโลก รองจากงูเหลือม และก็งูแอนะคอนด้า | anaconda ชื่อวิทยาศาสตร์ Eunectes murinus (Linnaeus) ในสกุล Boidel พบได้บ่อยในป่าโปร่ง ทุ่งหญ้า นอกจากทางภาคใต้ (มีเฉพาะชุมพร)งูนี้ มีลักษณะ อ้วน ดก ลำตัวสั้นกว่างูเหลือมมากมาย ยาวเต็มกำลังไม่เกิน ๗ เมตร มีลวดลายต่างจากงูเหลือม โดยที่ลำดับตัวมีสีเหลืองหรือสีเหลืองอมสีน้ำตาลรวมทั้ง มีแผลสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่ รูปร่างเป็นเหลี่ยมไม่แน่นอน เกล็ดท้องสีขาวหรือสีนวล จุดแข็งอยู่ที่ลวดลายบริเวณศีรษะ ซึ่งมีลาย3สีน้ำตาลเข้ม เป็นรูปลูกศรอยู่กึ่งกลางหัว ด้านข้างหัวมีแถบสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกัน ในตามีสีน้ำตาลเข้ม งูหลามออกไข่คราวละ ๓๐-๕๐ ฟอง แม่งู รอดูแลไข่โดยใช้ลำตัวออกรอบ ลูกงูหลามที่ฟักออกมามีความยาว ราว ๕๐- ๘๐ ซม. งูหลามอีกประเภทหนึ่งเรียบงูหลามปากเป็ด (blood python) มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า python curtus schiegel เป็นงูที่มีขนาดเล็กที่สุดในวงศ์งูเหลือม พบในป่าดงดิบบริเวณริมน้ำ เนื่องจากเป็นงูที่ถูกใจน้ำว่ายได้ พบได้ทั่วไปงูชนิดนี้ในน้ำ ซุกตัวอยู่ตามโคลนหรือตามพืชน้ำเพื่อดักรอเหยื่อ เจอเฉพาะภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไป งูนี้มีความยาวสุดกำลังที่ราว ๒.๕ -๓ เมตร รูปร่างสั้นรวมทั้งครึ้มกว่าชนิดอื่น หัวมีขนาดออกจะเล็กเมื่อเทียบกับลำตัว พื้นลำตัวสีน้ำตาลอมสีส้มจนกระทั่งสีแดงคล้ำ สีจะเข้มที่สุดทางข้างบนลำตัว ด้านข้างมีสีอ่อน กว่า ด้านบนลำตัวมีแถบสีน้ำตาลเหลืองหรือสีน้ำตาล ยาวบ้างสั้นบ้างไม่แน่นอนกระจายตามสันหลัง ข้างๆลำตัวมีเกล็ดสีขาว หรือสีนวลเรียงกันแบบซิกแซ็ก ไม่เป็นระเบียบ ข้างล่างของเส้นนี้มีเกร็ดสีดำ ส่วนหัวมีสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม มีเส้นสีแก่เล็กๆลากผ่าน หัวคล้ายงูเหลือม งูหลามปากเป็ดวางไข่คราวละ ๑๐-๑๕ ฟอง ลูกหมูที่ฟักออกมาจากไข่ใหม่ๆมีความยาวราว ๓๕เซนติเมตร
ผลดีทางยา[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/url] หมอแผนไทยใช้ดีงูงูเหลือมกระดูกงูงูเหลือมและก็น้ำมันงูเหลือมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน ดีงูเหลือมเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งที่ใช้มากในยาไทยใช้ทั้งแทรก เป็นกระสายยาและเป็นเครื่องยา ได้จากถุงน้ำดีของงูเหลือมนำมาผึ่งจนแห้งสนิท หนังสือเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า ช่วยให้ตัวยา แล่น เร็ว ดับพิษ ตานซางในเด็ก ใช้ฝนกับยาหยอดตา แก้ตาเฉอะแฉะตามัวตาพร่าตาแดงรวมทั้งแก้ปวดตาได้ คัมภีร์ฉันทศาสตร์อันเป็นตำราเรียนหมอที่เรียบเรียงและก็แต่งลางส่วน โดยพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าผู้ครองนครเมืองจันท์ช่วงนี้พูดถึงไข้ป่วง๘ ประการรวมทั้งยาบำบัด มีเรื่องมีราวที่เกี่ยวกับการใช้ดีงูงูเหลือมเป็นกระสายยาดังต่อไปนี้ จะอภิปรายในเรื่องรส เปรี้ยวปรากฏเคยใส่ใจ ส้มมะขามเปียกฝักส้มป่อย เปรี้ยวอร่อยน้ำส้มซ่า ขมธรรมดาบอระเพ็ด กระดอม ขมเป็นจอม
ดีงูเหลือม เผ็ดพอเอื้อม
ขิง ดีปลี ภิมเสนมีให้ใส่แซก อนึ่งเค็มแปลกนอกเหนือจาก เกลือ ทราบไว้เผื่อแก้ไม่หยุดมุตร์มนุษย์เปลือกลำภูเขา สองสิ่งรู้เหอะเค็มกร่อยอ่านเสมอๆให้คิดออก จะได้ใช้แซก จูงยาในหนังสือเรียนป่วง เป็ด ประการตามตำราโบราณซึ่งท่านแต่ก่อนกล่าวเอย ภาพหนังสือปฐมจินดาร์ อันเป็นตำราแม่บทของหมอแผนไทยที่ว่าด้วยแม่และก็เด็กให้ยาหลายขนานที่ใช้ดีงูงูเหลือม มีอยู่ขนานหนึ่งที่ใช้ดีงูเหลือมเป็นเครื่องยาด้วยดังนี้ ยาทาหละ ขนานนี้ท่านให้เอาชาดหรคุณ ๑
พิมเสน ๑ใบนมจิตร์ ๑
ใบมะระ ๑
ใบแมลงสาบ ๑
ดีงูเหลือม รวมยา๖ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากันตามเป็นผงทำแท่งไว้เอาเกลือรำหัดทาหละแลยอดทราง ที่ขึ้นลิ้นนั้นหายดีนักกประจำเดือนกงูงูเหลือมตำราเรียนคุณประโยชน์ ยาโบราณว่ากระดูกงูงูเหลือมมีรสเย็น เมาเบื่อมีสรรพคุณดับพิษรอยแดง แก้เมื่อยแก้ร้อนใน เร่าร้อนใจใช้เป็นเครื่องยาในไทยหลายขนาน ยกตัวอย่างเช่นยาขนานหนึ่งในพระตำราไกษย มีบันทึกไว้ว่า ยาแก้ลมไกษย เอาหินปูน 1 กระดูกงูงูเหลือม 1 หอยกาบเผา 1 ละลายเหล้ากิน ถ้าเกิดมิฟังยานี้ แล้ว ก็เป็นบาปของผู้นั้นตายแลอย่าสงสัยเลย
๓. น้ำมันงูเหลือมเตรียมไว้โดยการเอาไปเปลวมัน ในตัวงูเหลือมใส่ขวดผึ่งแดดจัดจัด กระทั่งเปลวมันละลายใส่เกลือไว้ตูดขวดนิดหน่อยเพื่อการเหม็นเน่าแพทย์แผนไทยว่าน้ำมันงูเหลือมมีรสร้อน ใช้ทายาแก้กลยุทธ์ ปวดเมื่อยแรงรอบฉายคาดหัวนวดเพื่อให้เอ็นอ่อนรวมทั้งหย่อนยานได้ ในคัมภีร์ชวดารให้ยา 2 ๒ขนานที่เข้า “น้ำมันงูเหลือม” เป็นเครื่องยาด้วย ขนานหนึ่งมีบันทึกไว้ดังต่อไปนี้ ลมชนิดหนึ่งเข้าในไส้ใหญ่ไส้น้อย ผูกให้ช่างมือชักเท้าแขนงอจะเปิบเข้าก็มิได้ จะจับสิ่งอันใดก็ไม่ได้สมมติเรียกว่าลงตะคิว เอาน้ำมันหมู ๑ บาทหัวดองดึง ๑บาท พริกไท ๒๐ บาทใส่หม้อฝังไว้ใต้ดิน ๓ วันแล้วเอาขึ้นหุงให้อาจจะแต่น้ำมัน จึงเอาการะบูร ๑ พิมเสน ๑
กระวาน ๑
กานพลู ๑น้ำมันงูเหลือม ๑ ใส่ลงทา ตากแดด สำหรับรมเท้าตาย หายแล นอกเหนือจากนั้นหนังงูเหลือมที่ฟอกก็ดีใช้ทำรองเท้าเข็มขัดกระเป๋าเนื้องูเหลือมกินได้คนจีนชอบรับประทานแต่ว่าหาเลี้ยงชีพยากและก็แพงแพง
Tags : สมุนไพร