อีแร้งอีแร้งเป็นนกที่จัดอยู่ในสกุล Gyps มีชื่อสามัญว่า vulture ที่เจอได้ในประเทศไทยมี ๓ จำพวก ทุกประเภทจัดอยู่ในตระกูล Accipitridae อีแร้งไทยอีก ๓ ชนิดนั้น เดี๋ยวนี้หายากและก็มีปริมาณน้อย ลางจำพวกบางทีอาจสูญพันธ์ไปแล้ว
๑. อีแร้งเทาข้างหลังขาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps bengalensis (Gmelin) มีชื่อสามัญว่า white – rumped vulture เป็นนกท้องนาดใหญ่ ความยาวของสัตว์วัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๙0 เซนติเมตร ลำตัวสีดำปนน้ำตาล หัวแล้วก็ลำคอไม่มีขนปกคลุม เป็นเพียงแผ่นหนังสีคล้ำ ตอนล่างของคอมีขนเป็นวงรอบข้างหลัง สีขาว ตอนล่างแล้วก็โคนหางสีขาวชัดแจ้ง ด้านในต้นขามีทาสีขาว เห็นได้ชัดขณะเกาะยืน เมื่ออายุน้อยลำตัวมีสีน้ำตาลออกแดงหรือน้ำตาลเข้ม ไม่มีแถบขาวเลย กินซากสัตว์เป็นของกิน สร้างรังบนยอดไม้สูง ในพ.ย.และธ.ค.จนถึงกุมภาพันธ์ ออกไข่ครั้งละ ๑ ฟอง อีกทั้ง ๒ เพศช่วยกันสร้างรังและก็กกไข่ จำพวกนี้มีเขตผู้กระทำระจายพันธุ์กว้าง ตั้งแต่ประเทศอินเดีย ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยเคยพบชุกชุมรอบๆที่ราบ แต่ว่าปัจจุบันนี้หาดูได้ยากมากมาย เข้าใจว่าเกือบสิ้นพันธุ์ไปแล้ว
๒.อีแร้งปากเรียว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps indicus (Scopoli) มีชื่อสามัญว่า long – billed vulture อีแร้งสีน้ำตาลประเทศอินเดีย ก็เรียก เป็นอีแร้งขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวราว ๙0 ซม. ตัวสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่ขนทุกเส้นมีขอบสีจางกว่าสีพื้น หัวและก็ลำคอมีขนอุยสีน้ำตาลออกขาวปกคลุม ท้องสีน้ำตาลอ่อน มีจะงอยปากที่เรียวกว่านกแร้งจำพวกอื่นๆตัวที่อายังน้อยมีสีแก่กว่าตัวโตเต็มวัย และก็พบมากที่ขนอุยคงเหลือบนขนหัว ตามปรกติอยู่เป็นฝูงเล็กๆ ร่วมกับอีแร้งประเภทอื่นๆรวมทั้งร่วมลงกินซากสัตว์ด้วยกัน พบบ่อยจิกแล้วก็แย่งซากสัตว์กันตลอดเวลา แนวทางการทำรังรวมทั้งตกไข่คล้ายกับอีแร้งจำพวกอื่นๆสร้างรังตอนเดือนพฤศจิกาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ชอบอยู่ดังที่เตียนโล่ง ปริมณฑล หากินตามลำห้วยใหญ่ๆ ในป่าเต็งรังรวมทั้งปาป่าเบญจพรรณ มีเขตการกระจายพันธุ์จากอินเดียถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยเคยพบมาก แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้มั่นใจว่าสิ้นพันธุ์ไปจากบ้านเราแล้ว
สมุนไพร๓.อีแร้งเทาหิมาลัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps himalaiensis Hume มีชื่อสามัญว่า Himalayan griffon vulture อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย ก็เรียก เป็นอีแร้งขนาดใหญ่มากมาย ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๑๒๒ ซม. มีลักษณะเหมือนอีแร้งปากเรียว แม้กระนั้นตัวใหญ่กว่ามากมาย ตัวผู้แล้วก็ตัวเมียมีสีเช่นกัน ลำตัวด้านบนมีสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลปนขาว ด้านล่างสีเนื้อปนสีน้ำตาลอ่อน มีลายขีดขนาดใหญ่สีขาว ขนรอบคอยาว สีน้ำตาล มีลายขีดสีขาว มักพบอยู่กระโดดๆหรืออยู่เป็นคู่ หรือ ๒-๓ ตัว ตามทุ่งโล่งหรือป่าบนเทือกเขา มักร่อนเป็นวงกลมตามช่องเขาหรอภูเขาเพื่อหาอาหาร เป็นนกที่หลงเข้ามา หรือย้ายถิ่นมาในประเทศไทยช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ หายากและปริมาณน้อย เคยมีรายงานว่าพบในจังหวัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบเหมาะคิรีหมู่