ลิ่นลิ่น หรือนุ่ม เป็นสัตว์กินนมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manis javanica Desmarestมีชื่อสามัญว่า Malayan pangolinจัดอยู่ในวงศ์ Manidaeชีววิทยาของลิ่นลิ่นมีลำตัวแล้วก็หายาว เวลาเดินหลังจะโค้ง ท่อนหัวรวมทั้งหางจะยืดตรง ความยาวของลำตัววัดจากปลายปากถึงโคนหาง ๕๐ -๖๐ เซนติเมตร หางยาว ๕๐ – ๘๐ ซม. มีน้ำหนักตัว ๖-๙ กิโลกรัม ส่วนหัวเล็ก ปากยาว ตาเล็ก ใบหูเล็ก ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดแข็ง
สมุนไพร ใต้เกล็ดแต่ละเกล็ดมีขนเป็นเส้นๆ เกล็ดละ ๒ – ๓ เส้น เกล็ดสีเหลืองถึงสีน้ำตาลเข้ม รอบๆใต้คาง ท้อง ด้านในขาจะไม่มีเกล็ด มีเล็บยาว ปลายแหลมแข็งแรง เหมาะสำหรับขุดคุ้ยดินแล้วก็รังปลวก ไม่มีฟัน มีลิ้นเป็นเส้นยาว หางปกคลุมด้วยเกล็ด ม้วนงอจับก้านไม้ได้ สัตว์ประเภทนี้โตเต็มกำลังแล้วก็ผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุราว ๑.๕ ปี มีท้องนานราว ๑๔๐ วัน ออกลูกครั้งละ ๑ – ๒ ตัว ลูกที่เกิดใหม่จะเกาะติดไปกับแม่ โดยใช้ขาหน้าและขาข้างหลังกอดโคนหางแม่ไว้แน่น ลูกลิ่นดูดนมแม่ตรงจั๊กกะแร้ โดยที่แม่นอนตะแคงหรือนอนหงาย รวมทั้งหย่านมเมื่ออายุราว ๓ เดือน ลิ่นอายุยงยืนราว ๑๐ ปี ลิ่นกินมด ปลวก รวมทั้งแมลงเป็นอาหาร ถูกใจออกหากินในกลางคืน ส่วนกลางวันหลบนอนอยู่ในโพรงดิน เวลาเข้านอนจะม้วนหรือม้วนตัวกลม ใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ได้ แล้วก็สามารถป่ายปีนต้นไม้ได้ โดยใช้เล็บตีนช่วย ประสาทรับกลิ่นรวมทั้งเสียงดีเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสาทรับกลิ่นซึ่งช่วยสำหรับการหาอาหาร แต่ว่าประสาทตาไม่ดีเจอได้ในทุกภาคของประเทศไย ในเมืองนอกเจอถึงที่เหมาะลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียสัตว์ในสกุลเดียวกันนี้ที่อาจพบในประเทศไทยอีก คือ ลิ่นจีน อันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Manis pentadactyla Linnaeus มีชื่อสามัญว่า Chinese pangolin
ประโยชน์ทางยาแพทย์แผนไยใช้เกล็ดลิ่นในตำรับยาน้อยมาก ต่างจากยาจีนซึ่งหมอมักใช้ลิ่นเข้าตำรับยา เกล็ดลิ่นเป็นเครื่องยาที่มนตำรับยาที่ประเทศจีนยืนยันไว้ มีชื่อยาในภาษาละตินว่า Squama Manitis มีชื่อสามัญว่า pangolin scale เกล็ดลิ่นที่ใช้ในยาจีนได้จากลิ่นจีน แม้กระนั้นในขณะนี้เกล็ดลิ่นจากประเทศไทย ภูมิภาคอินโดจีน และก็แหลมมลายู ถูกส่งเข้าไปขายในประเทศจีนปีละมากๆ โดยมากเป็นในรูปเกล็ดที่คั่วในทรายจนพองก็ดีแล้วการเตรียมเกล็ดลิ่นสำหรับใช้เป็นเครื่องยานั้น อาจทำได้ ๓ แนวทาง คือ ๑. ใช้เกล็ดแห้ง ล้างน้ำให้สะอาด แล้วผึ่งแดดให้แห้ง ๒. ใช้เกล็ดแห้งที่สะอาดแล้ว คั่วในกระทะทรายที่ร้อนจัด กระทั่งเกล็ดลิ่นพอง ทิ้งให้เย็น ล้างให้สะอาด แล้วทำให้แห้ง หรือ ๓. เอาเกล็ดลิ่นที่คั่วกับทรายที่พองเต็มที่แล้ว จุ่มลงไปในน้ำส้มสายยกทันที แล้วคัดออกทำให้แห้ง เมื่อจะนำมาใช้ปรุงยาก็ให้บดเป็นชิ้นเล็กๆ
ตำราเรียนยาจีนว่าเกล็ดลิ่นมีรสเค็ม เย็นบางส่วน แสดงฤทธิ์ต่อเส้นตับรวมทั้งกระเพาะอาหาร มีสรรพคุณ หมายถึง ๑. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตรวมทั้งทำให้รอบเดือนเป็นประจำ จึงใช้กับสตรีในสภาวะขาดระดูรวมทั้งมีก้อนในท้องเหตุเพราะเลือดคั่ง ๒. ไล่ “ลม” ที่ก่อโรคและก็ขจัดการอุดกั้นใน “เส้น” ก็เลยใช้แก้ลักษณะของการปวดแล้วก็ชะตามแขนขา ๓. กระตุ้นนม จึงใช้กับสตรีซึ่งไม่มีนมเลี้ยงลูก แล้วก็ ๔. ลดการบวมและช่วยขจัดหนองจึงใช้แก้แผลบวมช้ำต่างๆ แผลบวมมีหนอง มักใช้ในขนาด ๔.๕ – ๙ กรัม ต้มน้ำดื่ม นิยมใช้เกล็ดที่คั่วจนถึงพอดิบพอดีแล้ว แต่ว่าการใช้กับสตรีในระหว่างมีท้อง ควรใช้ด้วยความระแวดระวัง