พิมพ์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
1 ชั่วโมง 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

[penpaka2tory]

ปัจจัยทางกายที่เป็นมูลเหตุส่งผลให้เป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ได้นั้น ซึ่งนอกจากสรีระโครงสร้างของแข้งขา ระดับอายุที่มาก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณหัวเข่าหรือการวิ่งออกกำลังที่ไม่เหมาะสม  การใช้อิริยาบถความประพฤติที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อหัวเข่าได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่ามีผลกระทบแก่เข่าเสื่อมอย่างมาก นั่นก็คือ อ้วน  หรือว่าน้ำหนักที่เกิน นั่นเอง
 
1.น้ำหนักตัวมีผลลัพธ์อย่างไรต่อเข่า
 
เข่าเป็นปัจจัยสำคัญของการรองรับน้ำหนักของร่างกาย ระหว่างที่ก้าวเดินขยับเขยื้อน ในหนึ่งๆ วัน คนเราเคลื่อนไหวขยับหัวเข่ากว่า 1.3-1.5 หมื่นครั้ง แม้แต่ในขณะหลับพักผ่อนเข่าของเราก็ยังเขยิบกระดุกกระดิกอยู่เสมอ มาจากสภาวะดิ้นเปลี่ยนท่านอนไปมา เข่าของคนเราต้องรองรับแรงกด 3 ใน 4 ของรูปร่างในขณะยืนขึ้นหรือว่าก้าวเดิน น้ำหนักตัวที่มากขึ้นจะมีผลกระทบทำให้กระดูกอ่อนข้อต่อเสื่อมอย่างเร็ว ซึ่งท่านผู้อ่านจะพบว่าโดยส่วนมากผู้ป่วย โรคข้อเข่าเสื่อม มักมีอาการเรื่องอ้วนน้ำหนักเกินอยู่ด้วย
 
ทั้งนี้ น้ำหนักตัวที่ลดลง 1 กก. สามารถลดโอกาสการแบกน้ำหนักของเข่าลงได้ถึง 4 กก. หากปรับลดได้ 10 โล ก็ลดโอกาสการแบกได้ถึง 40 กก. ทีเดียว การลดโอกาสน้ำหนักที่กดลงเท่ากับเป็นการลดความเสี่ยงความเสี่ยงเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ก็จะลดน้อยลงเช่นกัน ยิ่งไปกว่านี้การบำรุงดูแลร่างกายและคุมน้ำหนักตัวมีข้อดีต่อพลานามัยหลายๆอย่าง ทั้งลดต้นเหตุการเกิดโรคภัยหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่น หัวใจ โรคเบาหวานแบบที่ 2 ความดันเลือดสูง รวมทั้งโรคมะเร็งบางประเภท
 
2.แนวทางการลดน้ำหนัก
 
การลดน้ำหนักสำหรับป้องกัน โรคข้อเข่าเสื่อม มิได้เป็นสิ่งง่าย อีกทั้งนับว่าเป็นปมปัญหาระดับประเทศซึ่งหลายๆ คนกำลังประสบอยู่ ซึ่งก็แตกต่างกระตือรือร้นแสวงหาวิธีทำให้รูปร่างตัวเองผอมเพรียวขึ้น แต่แม้กระนั้นการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ มิได้พึงพายาลดอ้วนน้ำหนักเกิน  คือแนวทางแก้ไขปัญหา โรคข้อเข่าเสื่อม ที่ดีอย่างยิ่งรวมทั้งปราศจากผลข้างเคียงด้วย แล้วเพื่อนๆควรปฏิบัติยังไงบ้าง
 
1.แก้ไขนิสัยการกินซะใหม่ สัดส่วนของกินมิต้องมากเกินไปในแต่ละมื้อ ข้าวเช้ากินให้เต็มที่ อาหารกลางวันปรกติ สำหรับอาหารเย็นพยายามกำหนดปริมาณให้ลดน้อยลง พยายามกินให้ครบ 3 มื้อ อาหารเช้ามีความสำคัญอย่างมากช่วยส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญในตัวเราทำหน้าที่ได้อย่างปรกติ อย่ารับประทานรวดเร็วเกินไป เคี้ยวโดยละเอียด 20-30 เคี้ยวต่อ 1 คำ พร้อมทั้งควรงดการกินอาหารก่อนหลับ
 
2.อาหารการกินผู้ที่อ้วนและโภชนาการคนป่วยโรคเบาหวานมีแนวทางคล้ายกัน เพราะฉะนี้ ถ้าท่านต้องการลดอ้วนน้ำหนักเกิน เพื่อที่จะยับยั้งป้องกัน โรคข้อเข่าเสื่อม แล้ว สามารถศึกษาวิธีการการทานของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้ ซึ่งมีตำราและเอกสารจ่ายแจกเป็นความรู้จำนวนมาก นอกจากนี้ควรเพิ่มเติมผักสะอาดในมื้ออาหาร ละเว้นของกินจุ๊กจิ๊ก เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำชาทดแทน
 
3.บริโภคให้พอดีไม่มากจนเกินไป อีกทั้งควรจัดเตรียมอาหารกลางวันได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสั่งซื้อกิน ด้วยเหตุว่าสามารถเลี่ยงของกินซึ่งมีไขมันมากๆ ได้ พร้อมทั้งสามารถกำกับอาหารที่มีประโยชน์แก่สุขภาพได้ง่าย รวมทั้งสมควรบริหารร่างกายให้เพียงพอต่อพลังงานที่ได้ การออกกำลังไม่แน่นอนว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้มาก แต่พวกมันช่วยให้กระบวนการสันดาปที่มีประสิทธิภาพขึ้นเหล่านี้นั่นเอง
 
4.พยายามเดินย่อยช้าๆ ภายหลังมื้ออาหาร จากงานค้นคว้าค้นพบว่า การก้าวเดินย่อยหลังทานอาหารช้า สามารถช่วยลดน้ำตาลกับลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้ ทั้งนี้สมควรมุ่งเน้นเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ควรใช้ตาชั่งเพื่อคุมขนาดน้ำหนัก อีกทั้งพยายามนอนพักผ่อนให้พอเพียงซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการลดน้ำหนักไม่ให้เป็น โรคข้อเข่าเสื่อม อย่างยิ่ง  นำมาซึ่งการอยากอาหารลดน้อยลง การถูฟันโดยทันทีหลังทานอาหารก็สามารถช่วยได้ ซึ่งเป็นการปรับลดความต้องการอยากบริโภคขนมขบเคี้ยว หรือว่าของว่างระหว่างมื้อ
 
สิ่งสำคัญในการลดความอ้วน เพื่อป้องกัน โรคข้อเข่าเสื่อม นั่นก็คือ การโฟกัสเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันของเพื่อนๆ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วมักทำกันได้ไม่นาน สุดท้ายก็เลิกล้มกลับเป็นเหมือนเดิม แทนที่จะโฟกัสจุดมุ่งหมายที่น้ำหนัก เพื่อนๆควรปฏิบัติให้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเพื่อนๆไปเลยดีกว่า
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ปวดเข่า

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=ByUPaKsP4UA

Tags : ปวดเข่า