รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา  (อ่าน 541 ครั้ง)

กาลครั้งหนึ่ง2560

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 120
    • ดูรายละเอียด
ลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
« เมื่อ: กันยายน 12, 2017, 10:51:16 AM »



ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
ขายลูทีน การมองเห็นถือเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความสำคัญต่อมนุษย์พวกเราเป็นอย่าง ยิ่ง และก็อวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากภายนอกให้พวกเราได้รับรู้ก็คือดวงตา กลไกสำหรับการแลเห็นก็คือ เมื่อมีแสงสว่างตกกระทบกับวัตถุ แสงสว่างขายส่งลูทีนจะสะท้อนเข้าสู่ดวงตาพวกเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา แล้วก็ไปตกที่จอรับภาพตาในลักษณะของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่เรา แลเห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารจำเป็นสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลากหลายประเภท ด้วยกัน คือ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงสารอาหารที่มีงานศึกษาเรียนรู้อย่างมากมายว่ามีคุณประโยชน์กับดวงตาโดยตรงก็ คือ ลูทีน แล้วก็ ขายลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายอย่าง เป็นสารในเครือญาติของสารแคโรทีนอยด์ รวมทั้งพบได้ในรอบๆดวงตา โดยยิ่งไปกว่านั้นตรงบริเวณเลนส์ตาแล้วก็จอสำหรับรับภาพตาในธรรมชาติแม้ว่าจะมีแคโรทีนอยด์ มากกว่า 600 ชนิด แม้กระนั้นมีเพียงสาร 2 ชนิดนี้แค่นั้น ที่เจอในจุดรับภาพของเรตินา สารทั้งสองจำพวกนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรองหรือคุ้มครองป้องกันขายลูทีนรังสีจากแดดที่เป็น อันตรายต่อดวงตา และก็ช่วยปกป้องรักษาเซลล์ของหน้าจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว ด้วยเหตุนี้ผู้ใดที่ต้องการถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็จำต้องรับประทานผักและรับประทานผลไม้ สีเหลือง และก็สีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป แล้วก็ยังมีแหล่งที่เจอ ลูทีน และก็ ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกเหนือจาก จะพบได้บ่อยในดอกดาวเรือง และก็โกจิเบอร์ปรี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังเจอใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บคอยกวัวลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงกวาเปลือก ซูกินีทั้งยังเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง เป็นต้นการบริโภคพืชผักที่มีการรับผลิตลูทีนและก็ชีแซนทีน หรือแม้กระทั้งอาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้ จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อร่างกายของดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายประเภทร่วมกัน ที่สำคัญเป็น โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยให้ตาแข็งแรง ปกป้องประสาทตาเสื่อม สร้างเสริมการมองมองเห็นโดยช่วยคุ้มครองปกป้องการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆตรงกลางของที่รับแสงในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงของตา คุ้มครองขายส่งลูทีนไม่ให้แสงตะวันทำลายเรตินา คุ้มครองปกป้องโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือหน้าจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยคุ้มครองปกป้องแคปซูลลูทีนและก็ลดอาการของโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านทานอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมถอยของตา รวมทั้งเพิ่มสมรรถภาพสำหรับการแลเห็นเจริญในที่มืดได้ดิบได้ดีขึ้น
    ขายลูทีน การกินสารในกลุ่มแคโรทีนในปริมาณที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงต่ำยิ่งกว่าร้อยละ 43 สำหรับภาวะการเสื่อมของจอประสาทตาตามอายุอย่างฉับพลัน เมื่อเปรียบการกินในจำนวนที่ต่ำที่สุด จากการศึกษาเล่าเรียนกลุ่มทดลองจำนวน 876 คนซึ่งมีอายุ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนรวมทั้งซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดความเสี่ยงของหน้าจอประสาทตาเสื่อมอย่างเฉียบพลันได้
ส่วนประกอบสำคัญ
 

ทอลีน
 
เบต้าแคโรทีน
 
วิตามิน บี2
 
สารสกัดบิลเบอร์รี่
 
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
 
สารสกัดใบแปะก๊วย

ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
 และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
 และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง
 ป้องกันประสาทตาเสื่อม
สรรพคุณอื่นๆ
สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง แก้เอ็นพิการ และก็แก้อาการปวดปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งประชาชนนำมาใช้เป็นยารักษาทุเลาลักษณะของการปวดปวดเมื่อยร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน
หนังสือเรียนยาท้องถิ่น: ใช้เถา ขับฉี่ แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำกินแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว แก้เส้นเอ็นพิการ แก้เมื่อยขบภายในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มกินถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสลด ไม่ถ่ายอุจจาระรับผลิตลูทีนเหมาะที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กได้ดี แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เอ็นอ่อนลง ขับเยี่ยว แก้ฉี่ทุพพลภาพ บางตำราเรียนขายส่งลูทีนกล่าวว่าทำให้มีพอดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
o เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นส่วนประกอบเสริมเติมจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่ออยากอบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น
o เถามีรสเฝื่อนแคปซูลลูทีนเหม็นเบื่อ ใช้ต้มรับประทานเป็นยาขับฉี่ แก้เยี่ยวผิดปกติ แก้ปัสสาวะกระปริบกะปรอย ส่วนรากมีรสเฝื่อนฝาดเหม็นเบื่อมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะรับผลิตลูทีนเช่นกัน (เถา,ราก)แล้วก็ยังมีข้อมูลกล่าวว่าการใช้สมุนไพรประเภทนี้จะทำให้ฉี่ได้บ่อยครั้งกว่าธรรมดา จึงอาจขายลูทีนมีประโยชน์ต่อคนป่วยที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย
o คนโบราณจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวชนิดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว) (เถา)
o เถามีคุณประโยชน์ในการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ
ต้นแบบ ขนาดวิธีการใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาพัฒนาจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษากรุ๊ปอาการทางกล้ามและกระดูก กำหนดรับผลิตลูทีนรูปแบบและขนาดวิธีการใช้ยาดังต่อไปนี้

  • ขับเลือดเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงทั้งห้าแบบสดๆนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (ทั้งห้า)แคปซูลลูทีน
  • ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดนำมาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนหน้าท้อง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
  • ใช้เถาเอามาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำกินต่างชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อนยาน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้ลักษณะของการปวดปวดเมื่อย แก้เหน็บชา (เถา)
  • ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์แล้วก็กระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผงผสมกับน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วก็ใช้เป็นยาใช้ภายนอกนวดบริเวณที่เป็นทุกวี่ทุกวันจนกระทั่งหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (รพ.)ข้อบ่งใช้ : ทุเลาลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบของกล้ามขนาดและก็วิธีการใช้ : กินครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังอาหารทันทีข้อที่ไม่อนุญาตใช้ : ห้ามใช้ในหญิงท้องยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : ทุเลาอาการปวดข้างหลังส่วนล่าง (low back pain) และก็อาการปวดจากข้อหัวเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดรวมทั้งการใช้ : กินครั้งละ 400 มก. วันละ 2 ครั้ง หลังรับประทานอาหารโดยทันทีข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้กับหญิงตั้งท้องยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง OAขนาดและก็วิธีใช้ : กินทีละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารในทันทีข้อบังคับใช้ : ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์รับผลิตลูทีน

    สรรพคุณชะพลู
    ชะพลูด้านการใช้เป็นของกิน ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น และก็กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เลยนิยมนำมาทำอาหารได้นานัปการรายการอาหาร หน้าที่ของชะพลูในจานของกินครอบครัวประจำถิ่นมีล้นหลามขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมกินกับอาหารรสอร่อยทั้งหลาย ยกตัวอย่างเช่น ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่จำเป็นในของกินจานพื้นเมืองต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า”ใบผักแค” เลยทีเดียว หรือไม่ก็เป็นด้วยเหตุว่าใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงเฉพาะตัว ก็เลยเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นไปได้สิ่งเดียวกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่ไว้ภายในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกึ่งกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมเอามารับประทานร่วมกับข้าวมันตำส้ม ชนิดที่เรียกว่าถ้าขาดใบชะพลู รสชาติของข้าวมันตำส้มก็อร่อยไปเลย รสชาติใบชะพลูระหว่างที่กัดและเคี้ยวรับประทานจะมีกลิ่นหอมหวนในปารสจัด บดนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยควรจะเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเหลือเกิน ใบจึงจะนุ่ม หอม แล้วก็เผ็ดพอดี อย่างไรก็แล้วแต่ ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนแม้แก่มากมายก็กินได้ เนื่องจากเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวจนถึงกัดไม่ขาด เพียงแต่ใบจะหยาบคายสักหน่อย และก็กลิ่นจะผลักเล็กน้อย
    ในใบชะพลูมีสารเบตา-แคโรทีนสูงมาก ใบนำมากินกับเมี่ยงคำ เอามาแกงใส่น้ำกะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ด้านในแกงกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดจันทบุรีใส่ไว้ภายในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา

    Tags : รับผลิตลูทีน
บันทึกการเข้า