การเลือกใช้งานเครื่องพ่นยาไฟฟ้า และวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์ส่วนต่างๆเครื่องพ่นยาไฟฟ้า ถังพ่นยาไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเกษตรกร ชาวสวน ชาวนา ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก ดังนั้นในการเลือกซื้อ ก็ต้องเลือกซื้อเครื่องพ่นยาแบบที่เหมาะสมกับการทำงานของท่านเกษตร เพื่อที่จะได้ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย และช่วยประหยัดเวลาได้
เครื่องใช้ทางการเกษตร
เครื่องฉีดพ่นยา หรือ
ถังพ่นยาไฟฟ้า นั้นเป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับการใช้งานฉีดพ่นละอองสารเคมี หรือปุ๋ยน้ำต่างๆ โดยพ่นให้กับ ต้นไม้ เพื่อการดูแล ต้นไม้เหล่านั้น หรือเพื่อทำให้ไม้ใหญ่นั้นออกผลตามพึงปรารถนา สำหรับถังพ่นยาตามตลาดโดยทั่วไปจะมีค้าขายอยู่เยอะแยะหลายประเภท เช่น
เครื่องพ่นยาไฟฟ้า เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ เป็นถังพ่นยาสะพายหลังแบบที่ใช้แบตเตอรี่ชาร์จไฟฟ้า หรือแบตแห้งในการทำงาน ไม่ต้องใช้คันโยกให้เมื่อยแรงครับ โดยเครื่องพ่นยาแบบนี้จะมีแรงดันมากกว่าถังพ่นยาแบบที่ใช้มือโยก แต่สนนราคาก็จะสูงกว่า ส่วนในเรื่องอายุการใช้งานของเครื่องพ่นยาไฟฟ้านั้นก็จะขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยส่วนมากอายุการใช้งานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1-2 ปี โดยประมาณครับ
เครื่องพ่นยาแบบมือโยก สูบโยก หรือเครื่องพ่นยาสูบใน-สูบนอก เป็นเครื่องพ่นยาที่มีราคาถูก ประมาณเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น เครื่องพ่นยาแบบนี้จะมีความแข็งแรงทนทานสูง แต่ก็มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถใช้พ่นในระยะไกลๆ ได้ และการใช้คันโยกขณะฉีดพ่นยาก็ต้องโยกคันโยกที่ติดกับตัวเครื่อง เพื่อฉีดน้ำยาออกมา ก็จะทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้
เครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์ เครื่องพ่นยา 4 จังหวะ เป็นเครื่องพ่นยาแบบที่ใช้กำลังเครื่องยนต์ในการฉีดพ่นน้ำยา โดยเครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์สามารถฉีดพ่นน้ำยาออกมาได้ไกลและแรงที่สุดในบรรดาเครื่องพ่นยาประเภทอื่นๆ และก็มีราคาที่แพงที่สุดเช่นกัน โดยเครื่องพ่นยาชนิดนี้จะเหมาะกับเกษตรกร ชาวสวน ที่ต้องการฉีดพ่นยาในบริเวณพื้นที่ที่มีขนาดกว้าง เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็นอีก 3 แบบ คือ แบบที่พกพาได้ แบบที่สะพายหลังได้ และแบบเครื่องพ่นยา 3 สูบ ตั้งพื้น ซึ่งเครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์นั้นก็จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมัน(เบนซิน ออโตลูป) ในการทำงานเช่นกัน
สำหรับการดูแลรักษาเครื่องพ่นยาที่ผู้ใช้งานจะต้องให้ความสําคัญเป็นอันดับแรกเลยก็คือ
ความสะอาดของเครื่องพ่นยา จะต้องหมั่นดูแลให้เกิดความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ของเครื่องพ่นยาในทุกๆ ส่วน ไม่ควรจะไปโฟกัสดูแลอยู่แค่เฉพาะส่วนที่ีเกิดความเสียหายเท่านั้น ซึ่งการบํารุงรักษาที่ดีคือการกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง ถ้าหากว่าผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนอะไหล่เครื่องพ่นยาหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ส่วนที่เสื่อมคุณภาพได้ทันก่อนที่จะเกิดความเสียหายจนใช้งานไม่ได้ ก็จะไม่ทําให้อุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันเกิดความเสียหายตามมาครับ
ในเรื่องของการดูแลรักษาหัวฉีด ต้องระวังพวกสิ่งสกปรกแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในหัวฉีด อาจจะมีพวกตะกอนติดมากับน้ำที่ใช้ผสมสารพ่นยา ซึ่งสามารถเข้าไปอุดตันหัวฉีดได้ ถ้าตะกอนเหล่านั้นไปติดอยู่กับส่วนลิ้นลูกสูบ หรือส่วนที่มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา อุปกรณ์ส่วนนั้นของเครื่องพ่นยานั้นก็จะสึกหรอเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ดังนั้นในการผสมยาแต่ละครั้งควรพยายามใช้นํ้าที่สะอาดในการผสมเสมอ และการทำความสะอาดควรหมั่นล้างด้วยนํ้าสะอาดหลายๆ ครั้ง
และถ้าหากหัวฉีดเกิดอุดตันในขณะที่กำลังฉีดพ่นยา ถ้าเป็นไปได้ให้ถอดเปลี่ยนมาใช้หัวฉีดใหม่ที่สํารองไว้ทันที พอหลังจากฉีดพ่นยาเสร็จแล้วจึงค่อยนําหัวฉีดเก่ากลับไปตรวจเช็คทําความสะอาดในทันที แต่ถ้าหากว่าผู้ใช้ไม่ได้มีหัวฉีดใหม่สํารองไว้ก็ต้องหานํ้าสะอาดมาเพื่อที่จะล้างหัวฉีด และถ้าล้างแล้วยังฉีดไม่ค่อยออกให้ใช้วิธีการเคาะหัวฉีดเบาๆ อย่าใช้ปากเป่า หรือเอาเข็ม หรือตะปู หรือลวด มาใช้แทงรูหัวฉีดเด็ดขาด เพราะจะทําให้เกิดความเสียหายกับหัวฉีดได้
ที่มา : mct-product.blogspot.com