บ้านแฝด คือสิ่งปลูกสร้างสำหรับการอยู่อาศัยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับบ้านเดี่ยว โดยจะมีโครงสร้าง เช่น ผนังหรือคานข้างใดข้างหนึ่งในส่วนประกอบของอาคาร เชื่อมติดกับตัวบ้านอีกหนึ่งหลัง และมีการเว้นระยะห่างของตัวบ้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตรขึ้นไป มีกำแพงคั่นระหว่างกลาง เพื่อให้ตัวประตูรั้วทั้งสองบ้านประกบปิดเหมือนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งบ้านแฝดจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 4 ประเภท 1.บ้านแฝดที่ใช้ผนังร่วมกัน โดยโครงสร้างของตัวบ้านทั้ง 2 หลังจะใช้กำแพงอันเดียวกัน ใช้ผนังร่วมกัน อาจทำให้ได้ยินเสียงของกันและกันในระหว่างการทำกิจกรรมภายในบ้านได้ 2.บ้านแฝดที่ใช้ผนังร่วมกันเฉพาะฟังก์ชัน จะมีโครงสร้างส่วนใดส่วนหนึ่งภายนอกตัวบ้าน เป็นพื้นที่เชื่อมกับบ้านที่อยู่คู่กัน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น เช่น คาน โรงจอดรถ เป็นต้น 3.บ้านแฝดที่ใช้คานด้านบนเชื่อมต่อกัน บ้านแฝดที่ใช้ มักเป็นจุดเชื่อมตรงบริเวณลานจอดรถหรือช่วงคานด้านบน เพื่อเว้นระยะของตัวบ้านฝั่งตรงข้ามให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น 4.บ้านแฝดที่ใช้คานใต้ดินเชื่อมต่อกัน จะมีลักษณะพื้นที่บ้านส่วนบนไม่มีร่องรอยของสิ่งปลูกสร้างเชื่อมต่อกันกับบ้านคู่เลย ทำให้การอยู่อาศัยเหมือนบ้านเดี่ยวมากที่สุด แต่มักจะมีพื้นที่น้อย ปัจจุบันบ้านแฝดถือเป็นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะบ้านแฝดมักมีราคาต่ำกว่าบ้านเดี่ยวเมื่อเทียบกับขนาดและพื้นที่ใช้สอยที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านขนาดใหญ่ในงบประมาณจำกัด นอกจากนี้ยังมีให้เลือกมากมายหลายโครงการ เช่น โครงการบ้านแฝด ของ
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ , โครงการ Sansiri, APthai และอื่นๆ อีกมากมาย โดยบ้านแบบแฝดจะมีลักษณะหรือจุดเด่นดังนี้
ลักษณะของบ้านแฝด
• โครงสร้างที่เชื่อมต่อ: บ้านแฝดประกอบด้วยบ้านสองหลังที่ติดต่อกันโดยมีกำแพงร่วมหรือโครงสร้างที่เชื่อมต่อกัน แต่ละหลังมักจะมีทางเข้าและพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง
• พื้นที่ใช้สอยและการออกแบบที่คล้ายคลึง: แม้ว่าแต่ละหลังในบ้านแฝดอาจมีการตกแต่งภายในที่แตกต่างกัน แต่โครงสร้างภายนอกและขนาดพื้นที่ใช้สอยมักจะคล้ายคลึงกันเพื่อสร้างความสมดุลและความเป็นเอกภาพ
• ทางเข้าแยกกัน: แม้บ้านแฝดจะเชื่อมต่อกัน แต่โดยปกติแล้วแต่ละหลังจะมีทางเข้าและที่จอดรถแยกกัน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว
• การจัดสรรที่ดิน: บ้านแฝดมักสร้างบนที่ดินที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนที่เท่ากันหรือเกือบเท่ากัน โดยแต่ละส่วนมีเจ้าของแยกกัน
• พื้นที่กลางแจ้ง: บ้านแฝดมักมีพื้นที่กลางแจ้งหรือสวนขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของแต่ละหลัง ซึ่งสามารถใช้สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งหรือพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย
• ความเป็นส่วนตัว: แม้ว่าบ้านแฝดจะแชร์กำแพงร่วมกัน แต่การออกแบบมักคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว เช่น การวางตำแหน่งหน้าต่างหรือทางเข้าให้มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด
• ความยืดหยุ่นในการออกแบบ: แม้ว่าภายนอกของบ้านแฝดมักจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งภายในได้เองทั้งหมด
กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับบ้านแฝด
กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับบ้านแฝดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือแม้แต่ในแต่ละเขตพื้นที่ภายในประเทศเดียวกัน แต่โดยทั่วไป กฎหมายจะครอบคลุมด้านต่างๆ ดังนี้
1. การแบ่งพื้นที่ กฎหมายอาจกำหนดว่าบ้านแฝดต้องมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างชัดเจน รวมถึงการกำหนดพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัวให้แยกจากกันอย่างชัดเจน
2. กำแพงร่วม มักมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการสร้างกำแพงร่วมที่เชื่อมต่อระหว่างสองหลังของบ้านแฝด รวมถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัยและการกันเสียง
3. การจดทะเบียนที่ดิน บ้านแฝดอาจต้องมีการจดทะเบียนแยกกันสำหรับแต่ละหลังในทะเบียนที่ดิน เพื่อระบุขอบเขตและสิทธิ์ในการใช้พื้นที่
4. ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมและความหนาแน่น บางพื้นที่อาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับความหนาแน่นของที่อยู่อาศัย และบ้านแฝดอาจต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ รวมถึงกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
5. มาตรฐานการก่อสร้าง กฎหมายอาจกำหนดมาตรฐานการก่อสร้างสำหรับบ้านแฝด เช่น คุณภาพของวัสดุที่ใช้ และความทนทานของโครงสร้าง
6. การปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลง อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงบ้านแฝด โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อหลังอื่นในคู่บ้านแฝด
แต่ทังนี้ทั้งนั้นในการเลือกซื้อ
บ้านแฝด นอกจากดูในเรื่องของกฎหมายข้อบังคับ และลักษณะของบ้านแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ จะต้องพิจารณาถึงพื้นที่ในใช้สอยให้เหมาะสมด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะในราคาเบาๆ บ้านแฝดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณไม่ควรที่จะมองข้ามค่ะ