รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: คู่มือการเลือกซื้อบ้าน บางใหญ่สำหรับมือใหม่ที่ต้องรู้  (อ่าน 290 ครั้ง)

nanasee

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
    • ดูรายละเอียด


ทำเลแถวบางใหญ่ ถือเป็นศูนย์กลางใหม่ของที่อยู่อาศัยชานเมืองในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก มีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะแก่การอยู่อาศัย เชื่อมต่อได้ทั้ง ถ.กาญจนาภิเษก, ถ.ราชพฤกษ์, ถ.รัตนาธิเบศร์ และ ถ.ชัยพฤกษ์ ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้กับสถานที่สำคัญต่าง ๆ จึงทำให้เป็นอีกย่านที่น่าจับตามอง และเป็นทำเลทองสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีโครงการบ้านแถวบางใหญ่ อยู่เยอะ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัย เพราะมีตัวเลือกให้ได้เลือกเยอะ ทำให้สามารถเลือกบ้านที่ถูกใจกับตนเองให้มากที่สุดได้ ซึ่งการเลือกซื้อบ้านนอกจากความชอบแล้วก็อย่าลืมดูข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญดังต่อไปนี้ด้วย

คู่มือการเลือกซื้อบ้าน บางใหญ่สำหรับมือใหม่ที่ต้องรู้

1.   ต้องดูงบประมาณ เพื่อประเมินรายจ่ายต่อเดือน
อันดับแรกเลยต้องดูที่งบประมาณและความสามารถในการผ่อนบ้านของตนเองก่อน ว่ามีความสามารถในการผ่อนในระดับไหน เพราะถ้ามันเกินตัวเกินไป ก็อยู่ลำบาก และถ้ากู้ไม่ผ่านก็เสียเงินดาวน์ไปฟรี ๆ สิ่งที่ควรรู้สำหรับมือใหม่ คือ สินเชื่อ การผ่อนบ้าน และการกู้ซื้อบ้านค่ะ ถ้าจ่ายเงินสดเลย ก็อาจจะไม่มีปัญหานี้ แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้มีเงินสดขนาดนั้น อาจจะต้องไปกู้สินเชื่อบ้านที่ธนาคาร โดยปกติแล้ว การกู้ต้องอิงจากเงินเดือนของเรา ธนาคารจะปล่อยให้กู้ วงเงินและภาระหนี้สินไม่เกิน 30-40% ของรายได้ เช่น ถ้าบ้านราคา 2 ล้านบาท อาจจะต้องผ่อนบ้านเดือนละ 14,000 บาทต่อเดือน ถ้าหากมีเงินเดือน 20,000 บาท 30-40% ของรายได้เราคือ 8,000 บาท เป็นต้น

2.   ดูและเทียบโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารให้ละเอียด
ระหว่างที่เก็บเงินเพื่อจ่ายค่าดาวน์บ้าน 10% ของราคาบ้าน ก็ลองเทียบโปรโมชั่น หรือเทียบดอกเบี้ยเมื่อต้องกู้ซื้อบ้าน หรือกู้สินเชื่อบ้าน เพื่อผ่อนบ้านกับทางธนาคารดู ปกติแล้วทางธนาคารจะให้กู้สูงสุดในระยะผ่อนจ่ายไม่เกิน 30 ปี ถ้ายิ่งจ่ายน้อย ก็จะผ่อนนานขึ้น ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ดอกเบี้ยบ้านแพงมาก ๆ บางครั้งอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงมากกว่าค่าบ้านด้วย การศึกษาและเทียบโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร จะทำให้ลดภาระในการจ่ายหนี้ลงไปได้นิดหน่อย แต่ถ้ากู้คนเดียวไม่ไหว ก็ลองไปปรึกษาทางธนาคาร และลองศึกษาวิธีการกู้ร่วม ที่เป็นอีกวิธีหนึ่ง เพื่อให้กู้สินเชื่อบ้านผ่านได้ง่ายขึ้นค่ะ

3.   เลือกบ้านโดยยึดจากไลฟ์สไตล์ หรือวัตถุประสงค์
ในการเลือกซื้อบ้าน หรือการเลือกซื้อคอนโด สิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกหนึ่งอย่างคือวัตถุประสงค์ หรือไลฟ์สไตล์ของคนในบ้าน อย่างเช่น อยู่คนเดียว อยู่กับครอบครัว ซื้อไว้อยู่เอง หรือซื้อไว้ขาย ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ ซื้อคอนโดอาจจะไม่เหมาะ เพราะแคบ พื้นที่ใช้สอยน้อย 

4.   เลือกดูจากทำเล และทิศที่ตั้งของหน้าบ้าน
อย่าง กรณีถ้าไม่มีรถส่วนตัว และที่ทำงานอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า อาจจะต้องเลือกซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงาน แต่บางครั้งก็อาจจะต้องดูรีวิว หรือสถานที่จริงก่อน อย่าเชื่อคำโฆษณาที่บอกว่าติดสถานีรถไฟฟ้า แต่ต้องไปอ้อมไกล ๆ หรือไม่สามารถเดินไปได้ หรือเลือกบ้านในทำเลที่ติดกับตลาด ติดกับโรงเรียน เป็นแหล่งชุมชนที่มีครบครัน ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปซื้อของไกล ๆ แต่ก็อาจจะแลกมากับการที่รถติด หรือการแออัดในช่วงบางเวลา และถ้าจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด สิ่งที่ต้องดูอีกหนึ่งอย่างคือ ทิศที่ตั้งอยู่ตรงไหน ห้องนอนอยู่ทางทิศไหน ทิศตะวันออกตะวันตก ไม่ใช่เพื่อฮวงจุ้ยอะไร แต่เพื่อดูว่าแสงจะส่องไปทางไหน ถ้าส่องโดนตรง ๆ อาจจะทำให้ห้องร้อน และต้องใช้ไฟมากกว่าเดิมได้ และถ้าอยู่ตรงทางเข้าออก ก็อาจจะเสียงดังได้ เป็นต้น

5.   สังเกตสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้าน
การสังเกตสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้าน ก็ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเพื่อนบ้านของเรานั้นเป็นอย่างไรค่ะ เช่น เอารถมาจอดหน้าบ้าน หรือข้างบ้าน ทิ้งขยะยังไง วางของแกะกะหน้าบ้านหรือเปล่า ปลูกต้นไม้ล้ำมาบ้านคนอื่นไหม ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดบริเวณรอบ ๆ บ้าน บันไดหนีไฟ การออกแบบ หรือดีไซน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตอบโจทย์ในการใช้งาน สนามหญ้าบริเวณบ้าน โครงสร้างบ้านต่าง ๆ บริเวณภายนอก และควรจะมาสังเกต หรือมาดูบ้านมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งตอนที่ฝนตก เพื่อดูว่ามีปัญหาน้ำรั่วไหม

6.   ดูความน่าเชื่อถือของโครงการ
การเลือกซื้อบ้านหรือการเลือกซื้อคอนโดนั้น บางครั้งจะมีการพรีเซล หรือการขายบ้าน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เสร็จ ราคาบ้านก็จะถูกลงกว่าการซื้อตอนที่บ้านเสร็จแล้ว หรือถ้าใครที่อยากเลือกซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดซักห้อง ก็ควรจะดูไปถึงบริษัทที่สร้างว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ควรเลือกโครงการที่น่าเชื่อถือ และมีความรับผิดชอบ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น ทางโครงการต้องรับผิดชอบให้เรา ยิ่งถ้าโครงการใหญ่ และมีชื่อเสียง ก็จะเสี่ยงน้อยกว่า เพราะทางโครงการไม่อยากเสียเครดิต หรือเสียความน่าเชื่อถือ

7.   ดูปริมาณที่จอดรถ
สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่มีรถ บ้านบางโครงการ สามารถจอดรถได้แค่คันเดียว และอีกคันต้องจอดหน้าบ้าน ทำให้ถนนแคบลงไปอีก หรือถ้าซื้อคอนโด ควรถามเอเจนซี่ หรือถามทางโครงการว่ามีปริมาณที่จอดรถเพียงพอไหม เพราะปกติแล้วคอนโดมักจะทำที่จอดรถ 40-50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด อย่างเช่น คอนโด 1,000 ห้อง อาจจะมีที่จอดรถ 500 คัน ถ้าใครมีรถมากกว่า 2 คัน ก็ควรจะเลือกคอนโดที่มีปริมาณที่จอดเยอะ ๆ หน่อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จอดรถไม่พอทีหลัง

8.   ถ้าเลือกซื้อบ้านมือสอง ต้องเช็คประวัติดี ๆ
ถ้าใครคิดว่าบ้านมือหนึ่งราคาสูงเกินไป และอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน บ้านมือสองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ แต่ก็ควรเช็คประวัติดี ๆ ว่าทำไมถึงขาย เพราะข้างบ้านมีปัญหา เสียงดังหรือเปล่า มีปัญหาน้ำท่วมมาก่อนไหม หรือมีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อย น้ำประปาไม่ค่อยไหลให้รู้สึกหงุดหงิด กวนใจ จนต้องขายทิ้งแบบด่วน ๆ และในบ้านต่อเติมตรงไหนไปแล้วบ้าง ถ้ายังไม่ได้ต่อเติม สามารถต่อเติมหรือรีโนเวทใหม่ได้มากขนาดไหน ส่วนใครเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องวิญญาณ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่ ถ้าไม่อยากมีปัญหาจุกจิกกวนใจ ก็ควรจะเช็คดูให้ดี ๆ เพราะเรื่องแบบนี้ สำหรับคนที่สัมผัสได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพจิตแน่นอนค่ะ รายละเอียดต่าง ๆ ควรจะดูรีวิวประกอบ ถามคนขายหรือเอเจนซี่ได้เลย 

ทั้งนี้หากใครที่กำลังมองหาบ้านที่มีทำเลดี ๆ ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิต และเดินทางได้สะดวก ลองเปิดใจเลือกบ้านแถวบางใหญ่ดู หรือจะดูโครงการบ้าน บางใหญ่ ก็น่าสนใจไปอีกแบบ เพราะด้วยความที่มีการเชื่อมต่อที่ดีกับถนนหลัก และทางด่วนบางใหญ่ทำให้สะดวกในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง นอกจากนี้ย่านนี้ยังมีระบบขนส่งสาธารณะที่แข็งแกร่งรวมถึงรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงอีกด้วยค่ะ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้าน บางใหญ่ได้ที่ : https://www.lalinproperty.com/zone-bangyai/
บันทึกการเข้า