รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: พริกไทย ใบของต้นขทางมีลักษณะเป็นใบลำพัง  (อ่าน 555 ครั้ง)

าร

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
    • ดูรายละเอียด


พริกไทย ใบของต้นขทางมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ก้านใบสั้น ใบติดตามข้อสลับกัน ลักษณะใบเป็นรูปไข่หัวกลับ มีขอบใบหยัก และมีขนาดกว้าง 1-5 เซนติเมตร ยาว 2-9 เซนติเมตร(1) ใบขทางสดมีรสหวานและก็มีความฝาด (astrijyyukjyukyngentio;io;io;io;)พริกไทย นิดkykykหน่อย คนท้องถิ่นนิยมio;io;i;ลวกใบขทางรับปjtyjtyjระทานกับน้ำพyukริuilกแ;;op';ละใช้ทำo'uหารพื้นเมืo'องukยกyตัวอย่างเช่นยำรวมทั้งแกงคั่ว(4) ใบtyjtkyขทางสด 100 กรัม มีคุop'ณค่าทางโภชนาการดั'o'งนี้o5) โปรตีน 1.8 กรัม ไขมัio;ioน 0.5 กรัม ใยอาyukหารแบบลyukะลายน้ำ 0.5 กรัม ใยอาหารแyukบบไyuละลายน้ำ 0.9 กรัม คาร์u;ioi;oโio;น}เบต้าio-แคโรทีนที่เจอในใบ;ioขทางสด 100 กรัมเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงเคียงเทียบเท่ากับhrtjปริมาณแhrtคลเtyยมที่ได้จากkyulกjkuilารดื่มน้ำoio;io;iนม 1 แi;ก้ว (8 ออนซ์)(6) รวมทั้งปริมาณเบต้า-แคโรทีนที่ได้ที่เกิดขึ้นจากด้านyulการกินเนื้อฟักทองสุก 100 กรัม(7) เป็นลำดับ เบต้า-แคโรทีนเป็io;รงควัตถุสีเหลืองที่i;พบในพืชรวtyjykuu;i;oมทั้งมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระที่ดี luilแม้กระนั้นใio;บของต้นขทาio;งที่ขึ้นตามธรรมชาติในป่าชายเลนอาจมีปริมาณโoi'po'opyk'opซเดียมสูง''มากมายเพราop''ะว่าต้นขทางopได้รับเกuilลือpo'โซเดียมคลอไรด์ (NahrtjytjCl) p'op'ที่มาจาiulกความเค็yo'uyukwefyukykมของดิน(8) ดังนั้นผู้ที่op'{ป่วop'ย|iuluopiไม่คuilวรรัop'บประทานใบขทางในจำนวนมาก แพทย์แผนโบราณใช้ใบขทางop'สดพอกรักษาแผลที่op'เกิดจากอาการเนื้อตาย (gangreous ulcer)(9)'op หรือนำใบขลู่มาชงชาuilหรือต้o'มเพื่op'อใช้รักษาอาการนิ่วในไต (ยาขับเยี่gยว) อาการอักเสบ อาการปวดข้างหลัง และ อาการตกขาว(9,10) ในประเทศอินโดนีเซียtyjมีรายงานถึงการกินน้ำต้มใบขลู่เพื่อช่erghวยทำให้ปรับyukyuiluiio;op'opเจริญอาหารแio;op;op';ล้วก็ช่วยการย่อยของอาหารยิ่งไปop'กว่านี้uยังมีรายงานuilการyukใช้น้ำสุกใบขทางเป็นยา'opต่อต้านจุลินทรีย์tyj ยาแก้ท้องเดิน และยาบรรเทาอาการไอ รวมถึงมีการใ'opช้เป็นส่วนผสมในสินค้าสำหรับดูแลผิวช่วยให้ผิวนุ่ม(11) ใบขลู่มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพกลุ่มที่สำคัญคือกลุ่มฟีโนลิกแล้วก็ฟลาโวนอยด์ ใบขลู่ 100 กรัมมีกรดคลอโรจีนิก 20 มก. กรดคาเฟอิก 8.65 มิลลิกรัม และก็เคอร์ซิติน 5.21 มก.(11)พริกไทย ผลจากการวิจัยของ Andarwulan และแผนกในปีพ.ศ. 2553 ได้ทำให้เห็นว่าyukจาjtyjtyกใบขลู่มีฤทธิ์ที่ดีสำหรับเพื่อการต้านอนุมูลอิyukสระแล้วก็สามารถยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของลิปิดได้ดิบได้ดีมากมาย ซึ่งนoi;oi;อกเหนือjแyuล้io;ได้มีรายงานทyukางเภสัชyukวิทยาหลายฉบับรับรองฤทธิ์ทางชีวภาพของใบขลู่ สรุปสาระสำคัญอย่างย่อได้ดังนี้ สารสกัดจtyากใบขทางด้jtyวยกjtyjiารแช่ในเอทานอลเข้มykข้น 70% เป็นเวลา 2loi;io วัน พบว่าyuk yukมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ พริกไทยรวมทั้งjtyjtyลดการปวดในjtytyสัตว์ทดลอง(12) ซึ่งฤทธิ์jtyต้านการอักเสบได้รัykuบการรับรองซ้ำจากผลการศึกio;ษาวิจัยการใช้สารสกัjtyดใบขทางเฉพาะส่วนซึ่yukงสามารถละลายได้อีกทั้งในเอyukทานอลรวมทั้งเอธิลอะซิเตต(13)yukyuk สำหรับสารสกัดจากใบขลู่พริกไทยด้วยการแช่yukในเมทานอลเข้มyukข้น 80% เป็นเวลา 7-14 วัน พบว่ามีฤทธิ์ต้านโรควัณโรค(14)
บันทึกการเข้า