รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงสำคัญมากกว่าความมั่งมีอย่างแน่แท้มาดูแลสุขภาพกันเลยดีกว่า  (อ่าน 394 ครั้ง)

ttads2522

  • บุคคลทั่วไป

สิ่งที่เราควรใส่ใจไว้เสมอว่า รวยสุขภาพดีกว่ามั่งมีเงิน อีกทั้งสุขภาพทางกายและก็สุขภาพเกี่ยวกับจิตการบรรลุเป้าหมายทางด้านการเงินจะไร้สาระอะไรเลยถ้าหากเสียสุขภาพไป แล้วก็ครั้งคราวต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่าหมอกระทั่งหมดคนบางคนมานะคิดบัญชีมาตลอดชาติ แต่ปลดปล่อยให้สุขภาพชำรุด และก็พบว่าเงินทั้งหมดที่หามาไม่สามารถที่จะซื้อสุขภาพไว้ได้ก็เลยจำต้องเสียชีวิตไปอย่างเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานแสนสาหัสโดยทั่วไปแล้วแม้ได้รับพรดีเลิศ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่มนุษย์เรามักจะอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพดีจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้แต่งงานที่ดีแล้วก็ขอให้มั่งคั่งแต่ว่าถ้ามีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงแต่ข้อเดียวสิ่งที่จะต้องเลือกเป็นอันดับต้นๆเป็นการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เพราะถ้าเกิดมีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือรวยแค่ไหนก็ไม่เป็นประโยชน์ ซ้ำยังเป็นภาระหน้าที่ให้คู่สามีภรรยาหรือครอบครัวจำต้องมารอดูแลรักษาอีกสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง คือการบรรลุเป้าหมายที่ตีค่ามิได้ แต่ว่าหาได้น้อยมากที่คนไหนกันจะหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างจริงจัง จวบจนกระทั่งจะเจ็บป่วยขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึกแต่ว่าก็มักจะสายเกินไปความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ชีวิต การเล่าเรียนการงาน การคลัง อื่นๆอีกมากมาย จะไร้คุณค่าอะไรเลยถ้าเกิดไม่มีสุขภาพที่ดี ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสามารถทำลายความสำเร็จทั้งหมดทุกอย่างที่เคยมีมาไดภายในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็ว
ความสุขของคนที่ยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสุขที่ได้มาจากการกระตุ้นประสาทสัมผัสนั่นเอง ทั้งรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย หัวใจ ก่อให้เกิดสุขเวทนา ตัณหา อุปาทานเพราะฉะนั้นเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสำราญที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปทันที จะมีประโยชน์อะไรถ้าหากมีเงินซื้อจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแต่ตามองมองไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรกับการท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ตนเองเดินมิได้ จะมีคุณประโยชน์อะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น หากตัวเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สุขภาพที่แข็งแรง คือการบรรลุผลที่สำคัญที่สุดคนสุขภาพดีจะมองแจ่มใส ใบหน้าผ่องใส มีพลังกายกำลังใจสูง ซึ่งจะมีผลทางอ้อมไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านอื่น ๆ อีกด้วยมนุษย์เรามักไม่ค่อยทราบว่า สิ่งที่เราเองครอบครองอยู่มีค่ามากแค่ไหนตราบจนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต แต่ว่าบางบุคคลไม่เคยฟูมฟักรวมทั้งรักษาเลย จนกระทั่งเมื่อป่วยขึ้นมาแล้วก็ค่อยใส่ใจ แต่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะเยียวยาหรือแม้จะบำบัดรักษาได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปจำนวนไม่ใช่น้อยบางคราวบางทีอาจเป็นเงินเก็บชั่วชีวิตเลยก็ได้
ถึงแม้ว่าโรคภัยไข้เจ็บบางประเภทจะมีเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมียีนซ่อนเร้นที่ส่งผลให้เกิดโรคแอบซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แต่ยีนนี้จะไม่ทำงาน หากไม่มีการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (Promoter) ดังเช่น ผู้ที่มียีนโรคมะเร็งปอดแอบแฝงอยู่ แต่ว่าถ้าดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะไม่ดูดบุหรี่ บากบั่นเลี่ยงควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปสุดท้าย ไม่อาจจะแสดงผลได้ โรคโดยมากมิได้ส่งผลมาจากพันธุกรรมร้อยเปอร์เซ็นต์ สภาพแวดล้อมก็เป็นต้นเหตุก่อโรคได้เช่นเดียวกัน หากรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่โรคประสาท เพราะมีประวัติคนในครอบครัวป่วยไข้ก็ต้องเฝ้าระวัง พยายามศึกษาเล่าเรียนหาข้อมูลการกระทำตน เพื่อหลบหลีกสิ่งที่จะทำให้มีการเกิดโรค มีโรคประจำตัวที่หลีกเลี่ยงมิได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นค่อยได้การจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้เราไว้อย่างกล้าแกร่งมากมาย ชู ดังเช่น “ฟัน” สามารถบดเคี้ยวได้ตรงเวลา 70 ปีโดยที่จะมีการสึกเพียงเล็กน้อย ถ้าเกิดนำเหล็กขนาดพอๆกับฟันมาสีกัน น่าไว้วางใจว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดกระทั่งหมดไป แม้กระนั้นเวลานี้ก็มีผู้ที่ฟันผุ ฟันเสียกันจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะว่าธรรมชาติออกแบบมาไม่ดี แต่เพราะว่าผู้ที่ใช้ละเลยดูแลรักษา เหมือนกันกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้กระทั้งเส้นโลหิต ถือว่าเป็นประติมากรรมขั้นสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้อย่างต่ำ 100 ปี แต่ว่าด้วยการดำรงชีพอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ทันทีทันใดกะทันหันคืออุบัติเหตุแม้จะมีร่างกายที่แข็งแรงแค่ไหนแต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในทันที แล้วก็ครั้งคราวถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยปกป้องได้ บากบั่นหมั่นฝึกฝนเจริญสติอยู่เสมอ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้กระนั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากกรรมเก่า มนุษย์เราสามารถเอาชนะกรรมได้ด้วยสติ ดังที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน”ตามแนวคิดของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นขั้นแรก เป็นต้นว่า ของกิน ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอนหลับ ฯลฯ ตราบใดที่สิ่งที่มีความต้องการในระดับที่ถือว่าต่ำสุดนี้ยังไม่ได้รับการโต้ตอบ จะไม่มีความฝันไปถึงความปรารถนาในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแม้ว่าจะประสบผลสำเร็จในชีวิตแค่ไหน ถ้าเกิดความจำเป็นพื้นฐานนี้มิได้รับการโต้ตอบก็จะใส่ความสุขมิได้ เป็นต้นว่า มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน ฯลฯ ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้กระทั้งความอยากได้ขั้นต้นอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การรวยเป็นพันล้านแต่ว่ามีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือจิตใจ ในที่สุดเงินที่มีก็ซื้อความสำราญไม่ได้
ความสบายที่แท้จริงมาจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า ภาวะแห่งสุข เมื่ออายุมากขึ้นจะรู้ดีว่าสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงมีค่ามากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ถึงแม้มีชีวิตที่ไม่ได้รวยอะไร แต่มีร่างกายแข็งแรงก็จะมีความสุข การดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน ถ้าเทียบเคียงแล้ว สะดวกสบายแล้วก็ดีกว่าฮ่องเต้ในสมัยก่อนด้วย สมัยนั้นไม่มีห้องอาบน้ำแบบบ้านในขณะนี้ จำต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม แอร์ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง มีแม้กระนั้นสมุนไพรซึ่งได้ผลการรักษาไม่แน่นอนซึ่งผู้ที่ทุกข์ยากลำบากที่สุดในโลกเดี๋ยวนี้ก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็ต้องการมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง อายุยืนยาว แล้วก็ดูอ่อนกว่าวัย จึงคัดเลือกเคล็ดลับสำหรับการชะลอวัย แล้วก็เสริมความแข็งแรงด้วยแนวทางต่างๆนานา ในขณะที่หลายคนอาจตั้งปัญหาว่า ที่เรารับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปมากมายก่ายกองนั้น โดยความเป็นจริงแล้วเราได้รับวิตามินมากจนเกินไป หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความรู้ความเข้าใจก่อนว่า ความนิยมชมชอบสำหรับเพื่อการกินวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปและก็อเมริกา ด้วยเหตุว่าผู้คนมีการกระทำการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ กระทั่งมีคนป่วยมากมายก่ายกอง จึงเท่ากับเปิดทางทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายใช้จุดอ่อนนี้เป็นแผนการตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนป่วยโดยตรง รวมทั้งในที่สุดก็เลยขยายมาสู่กลุ่มชนปกติทั่วไป โดยอ้างถึงว่าต้องได้รับอาหารเสริมแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยไม่กล่าวว่ามูลเหตุของวิตามินพวกนั้นมาจากการกินของกินอะไรบ้าง เมื่อหลายปีก่อนคุณอาจจะเคยได้ยินข่าวกระเทือนวงการอาหารเสริมในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมากมาย เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่เคยทราบต้นสายปลายเหตุขณะฝึกฝน ซึ่งเขาแก่เพียงแต่ 23 ปีเท่านั้น รวมทั้งพบอาหารเสริมประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา ก็เลยทําให้หน่วยงานอาหารแล้วก็ยา ทบทวนการใช้อาหารเสริมดังที่กล่าวมาข้างต้นด้วยเหตุดังกล่าว ถ้าคุณต้องการกินอาหารเสริมก็อย่าได้เชื่อเพียงแต่คำชวนเชื่อถึงประโยชน์อันมากมาย ควรระมัดระวังผลข้างเคียงด้วย เพราะหากรับประทานมากรวมทั้งรับประทานติดต่อนานเกินความจำเป็น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 ทุกวี่วันเกินวันละ 10 มิลลิกรัม บางทีอาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือและก็เท้าได้ หรือกินสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็บางทีอาจกระตุ้นโรคมะเร็งในผู้สูบบุหรี่ได้เช่นกัน อย่างที่เราทราบดีว่าถ้าเกิดรับประทานอาหารให้นานัปการ จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก แล้วก็แทบจะไม่มีความจําเป็นสำหรับการรับประทานอาหารเสริมเลย ช่วงเวลาที่ฝูงชนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกรุ๊ปผู้มีรายได้น้อย เพราะไม่สามารถที่จะเลือกรับประทานอาหารได้ครบสมบูรณ์ หรือบางรายก็รับประทานอาหารเดิมๆโดยเฉพาะอาหารจานด่วนทั้งหลายแหล่
มาถึงนี้หลายท่านบางทีอาจคิดสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายของเราควรได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็จำต้องไตร่ตรองจากของกินที่พวกเราเลือกกิน ควรจะกินให้มากมาย และก็ผักสดและก็ผลไม้ (แนวทางง่ายๆกินให้ครบ 5 สี) แต่ว่าถ้าเกิดไม่สามารถเลือกได้ ก็ให้เลือกกินวิตามินที่ไม่สะสมภายในร่างกาย เพราะเหตุว่าถ้าเกินความอยากได้จะสามารถขับทิ้งได้ อย่างเช่น วิตามิน B แล้วก็ C แม้กระนั้นวิตามินที่กินแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K ค่ะ
สำหรับคนที่รับประทานวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมลองพินิจปริมาณที่ควรกินต่อวันด้วย ได้แก่ วิตามินซีในปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นขนาดพอดีที่ร่างกายควรได้รับในทุกวัน หรือแคลเซียม 2000 มก.ต่อวัน เหมาะสมสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เพราะช่วยคุ้มครองปกป้องกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดแล้วก็กําลังมีท้อง ชี้แนะว่าให้กิน 1,500 มก.กำลังดีค่ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยทั่วไปในคนปกติควรจะได้รับ วันละ 8-15 มิลลิกรัม ส่วนคนป่วยโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรได้รับวันละ 50-100 มก.ค่ะ

เครดิตบทความจาก : https://thaihealth108.wixsite.com/mysite

Tags : อาหารเสริม วิตามิน,วิธีทําให้ ร่างกายแข็งแกร่ง
บันทึกการเข้า