พญายอพญายอเป็นไม้พุ่งปนเลื้อย เถาและก็ใบมีสีเขียวใบไม้ไม่มีหนาม ใบยาวเรียวปลายแหลม ออกตรงกันข้ามเป็นคู่ ดอกออกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3-6 ดอก กลีบดอกไม้เป็นดอกปลายแยกสีแดงอมส้ม
พญายอขึ้นได้งามในดินที่สมบูรณ์ แดดปานกลาง พบได้มากตามป่าในประเทศไทย หรือปลูกกันตามบ้าน ปลูกโดยใช้ลำต้นปักชำ ฯลฯไม้ที่ปลูกง่าย ตัดกิ่งออกมาซัก 2-3 คืบ ปักขำให้รากออกมาก็ดีแล้วก็ย้ายไปปลูกลงในแปลง รักษาราวกับ พืชไม้ทั่วๆไป
ใบ เป็นยา ให้เก็บขนาดกลางที่สมบูรณ์ ไม่แก่ไหมอ่อนจนกระทั่งเหลือเกิน ใบของพญายอสามารถลดอาการักเสบของหูได้ดี โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนที่สกัดด้วยสารละลาย “บิวทานอล” ตระกูลสถิต ฉั่วกุล รวมทั้งแผนกได้เรียนรู้พบว่าสารสำคัญตัวหนึ่งเป็น “เฟลโอ้อวดนนอยต์” ส่วนด้านที่มีการต่อต้านพิษงูยังไม่ชัดแจ้ง แต่ว่าไม่มีอันตรายพอที่จะใช้
ใบพญายอรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่ (ปวด, บวม, แดง ร้อนแต่ไม่มีไข้) จากแมลงที่เป็นพิษกัดต่อย ตัวอย่างเช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน รักษาโดยการเอาใบสดจากพญายอนี้มาสัก 10-15 ใบ (มากน้อยตามรอบๆที่เป็น) ล้างให้สะอาด ใส่ลงในครกตำยา ตำอย่างถี่ถ้วน เติมแอลกอฮอล์พอชุ่มยา ตั้งทิ้งเอาไว้ 1 สัปดาห์ หมั่นคนยาทุกเมื่อเชื่อวัน กรองน้ำยา ใช้น้ำ และกากทาบบริเวณที่ปวดบวม หรือที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย
พญายอ หรือ เสลดพังพอน เหตุเพราะเสมหะพังพอนมีหมดทั้งตัวผู้ละตัวเมีย แต่ว่าเพศผู้ไม่นิยมประยุกต์ใช้เนื่องจากว่ามีฤทธิ์อ่อน รวมทั้งเพื่อไม่ให้งงจึงเรียกเสมหะพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ" ส่วนมากนำมาทำเป็นยาสมุนไพรไทยจัดอยู่ในกรุ๊ปพืชถอนพิษ “พญายอ” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาใช้ภายนอกรักษาข้างนอก มีคุณประโยชน์บรรเทาการอักเสบของผิวหนังได้ดิบได้ดี มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส
คุณลักษณะของผงพญายอสำหรับเพื่อการบำรุงผิวพรรณ- ใช้แก้สิวเม็ดผดผื่นคัน ด้วยการนำมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวและเม็ดผื่นผื่นคัน
- ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ผสมกับเหล้าใช้เป็นยาแก้ผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ผื่นคัน แผลไฟเผาน้ำร้อนลวก
- ใช้รักษาแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก พญายอมีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อนได้ดิบได้ดี
- อีกตำรากล่าวว่านอกเหนือจากการที่จะใช้รักษาแผลไฟเผาน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลเปื่อยเนื่องมาจากถูกแมงกะพรุนไฟ แผลหมากัด และแผลที่เกิดขึ้นมาจากการเช็ดกกรดได้อีกด้วย
- ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย เอามาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองได้ดี ทำให้แผลแห้งไว
- ใช้แก้ฝี ด้วยการผสมกับเกลือและก็สุรา ใช้พอกบริเวณที่เป็น แปลงยาทุกเช้ารวมทั้งเย็น
- ใช้เป็นยาขับพิษ ทำลายพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ได้แก่ งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง อื่นๆอีกมากมาย
-
พญายอ ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังจำพวกเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ไฟลามทุ่ง แล้วก็ใช้เป็นยาทำลายพิษต่างๆเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลและเอากากพอกบริเวณแผล
- มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ ลดการอักเสบ สามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้
- มีฤทธิ์ลดความเจ็บปวด ช่วยลดลักษณะของการปวด
- มีฤทธิ์ต้านไวรัสได้ดีและไม่เป็นพิษต่อเซลล์
กรรมวิธีการพอกขัดผิวด้วยผงพญายอ- ชำระล้างผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้ารวมทั้งเช็ดเครื่องแต่งตัวให้สะอาดก่อนแนวทางการขัดพอกผิว
- ใช้ผสมกับน้ำที่สะอาด (หรือ ผงสมุนไพรอื่นๆน้ำผึ้ง น้ำนม หรือโยเกิร์ต เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น)
- สามารถใช้พอกหรือขัดได้ทั้งผิวหน้าแล้วก็ผิวกาย บ่อยๆ สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง
- สำหรับผิวหน้า
พญายอแม้เป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาด ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลามไปทั่วใบหน้า และเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวหน้ามากเกินความจำเป็น พอกทิ้งไว้โดยประมาณ 15 นาที
- หากใช้ขัด (สำหรับคนที่ไม่เป็นสิว แล้วก็ผิวกาย) ให้ขัดให้เบาไม้เบามือที่สุด ประมาณแค่ลูบคลำเพียรพยายามจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย ห้ามกดแรงลงบนนิ้วขณะขัด รวมทั้งให้ขัดแค่ 5 นาทีก็เพียงพอที่สารสำคัญจะออกฤทธิ์แล้ว เมื่อครบ 5 นาทีให้พอกทิ้งเอาไว้กระทั่งแห้ง (บางทีอาจใช้ระยะเวลาพอกทิ้งเอาไว้ราวๆ 15 นาที)
- พญายอ ภายหลังแห้งแล้ว ให้ทำความสะอาดโดยการล้างด้วยน้ำปกติ (ไม่ควรใช้น้ำอุ่น) ล้างแบบเบาที่สุดหรือให้เปิดฝักบัวเบาๆและจากนั้นก็ปลดปล่อยให้น้ำรดผ่านผิวไปสัก 2-3 นาที แล้วก็ใช้ฝ่ามือลูบให้ค่อยที่สุด โดยใช้หลักการล้างเดียวกับการขัดหน้าหมายถึงเพียรพยายามจะไม่ให้นิ้วโดนผิวหน้าเลย
- ล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ดูดซับหน้าให้แห้ง
Tip เพื่อการบำรุงที่เพิ่มขึ้น เมื่อพอกหรือขัดผิวด้วยผงสมุนไพรแล้ว ให้เอาน้ำผึ้งผสมน้ำดื่มธรรมดาในอัตราส่วน 1 ช้อนชาเสมอกัน ทาให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดวนเบาๆทั่วบริเวณใบหน้าสักน้อย ทิ้งน้ำผึ้งไว้ 10 นาที ก็ล้างออก เพื่อเป็นการคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิว อีกทั้งช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและก็กระจ่างขาวใส ดูอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้น
http://www.disthai.com/Tags : สมุนไพรเสลดพังพอน (พญายอ)