รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สมุนไพรเหงือกปลาหมอ - ฐานข้อมูลสมุนไพร  (อ่าน 542 ครั้ง)

sdfnheaq5qa1squ4

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • ดูรายละเอียด


เหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอ ชื่อสามัญ Sea holly, Thistleplike plant
เหงือกปลาหมอ ชื่อวิทยาศาสตร์ Acanthus ebracteatus Vahl (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acanthus ilicifolius Lour., Acanthus ilicifolius var. ebracteatus (Vahl) Benoist, Dilivaria ebracteata (Vahl) Pers.) จัดอยู่ในสกุลเหงือกปลาหมอ(ACANTHACEAE)
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า แก้มแพทย์ (สตูล), แก้มหมอเล (กระบี่), อีเกร็ง (ภาคกึ่งกลาง), นางเกร็ง จะเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน ฯลฯ
เหงือกปลาแพทย์มีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์หมายถึงจำพวกที่เป็นดอกสีม่วง (Acanthus ilicifolius L.) ที่พบมากทางภาคใต้ และชนิดที่เป็นดอกสีขาว (Acanthus ebracteatus Vahl) ที่พบมากทางภาคกลางและภาคตะวันออก และเป็นพรรณไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรปราการ
เหงือกปลาแพทย์ สมุนไพรใกล้ตัวหรืออาจจะเรียกว่าเป็นสมุนไพรชายน้ำหรือชายเลนก็ได้ สามารถนำสรรพคุณทางยามาใช้สำหรับการรักษาโรคได้หลายแบบ ที่เด่นมากก็คือการนำมารักษาโรคผิวหนังได้แทบทุกจำพวก แก้น้ำเหลืองเสีย รวมทั้งการนำมาใช้รักษาริดสีดวงทวาร เป็นต้น โดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรก็ได้แก่ ส่วนลำต้นอีกทั้งสดแล้วก็แห้ง ใบทั้งยังสดแล้วก็แห้ง ราก เม็ด และอีกทั้งต้น (ส่วนทั้ง 5 ประกอบไปด้วย ต้น ราก ใบ ผล เม็ด)
รูปแบบของเหงือกปลาหมอ
ต้นเหงือกปลาแพทย์ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร แพร่พันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเม็ดแล้วก็การใช้กิ่งปักชำ เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้ง เจริญวัยได้ดิบได้ดีในที่ร่มและก็ในที่ที่มีความชุ่มชื้นสูง ชอบขึ้นตามชายน้ำหรือรอบๆริมฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำ ได้แก่ รอบๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกเหนือปากคลองมหาวงก์ และที่สถานที่เรียนนายเรือ เป็นต้น
ต้นเหงือกปลาหมอ
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบคนเดียว รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ริมขอบใบแล้วก็ปลายใบ ขอบของใบเว้าเป็นระยะๆผิวใบเรียบเป็นมันลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีชำเลืองสีขาวเป็นแนวก้าง เนื้อใบแข็งและก็เหนียว ใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ใบจะออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกัน ก้านใบสั้น
ใบเหงือกปลาหมอ
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว ดอกมีทั้งพันธุ์ดอกสีม่วง (หรือสีฟ้า) และจำพวกดอกสีขาว ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน บริเวณกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ดอกเหงือกปลาหมอ
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ผลเหงือกปลาหมอ รูปแบบของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอก รูปไข่ หรือกลมรี ยาวราว 2-3 ซม. เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเม็ด 4 เมล็ด
สรรพคุณของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี เส้นเลือดไม่อุดตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคลุกเคล้าผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าแม้กินต่อเนื่องกัน 1 เดือน จะทำให้สติปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่ทราบอิดโรย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงน่าฟัง / 9 เดือน หนังเหนียว (ทั้งต้น, ราก)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยทำนุบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุผิดปกติ (ทั้งยังต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมปกติ (ต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยทำให้เจริญอาหาร (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกษัย อาการผอมแห้งเหลืองทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงกินแต่ละวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนทั้งตัว เจ็บระบบตลอดตัว ตัวแห้ง เวียนศีรษะ หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอรวมทั้งเปลือกมะรุมอย่างละเสมอกัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วก็ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำเดือดจนกระทั่งงวดแล้วยกลง เมื่อเสร็จให้กลั้นหายใจกินขณะอุ่นๆจนถึงหมด อาการก็จะดีขึ้น (อีกทั้งต้น)ช่วยยั้งโรคมะเร็ง ต้านมะเร็ง (ทั้งยังต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งยังต้นรวมทั้งอาหารมื้อเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ในรูปร่างที่เท่ากัน นำมาต้มกับน้ำจนเดือดแล้วเอามาดื่มในขณะอุ่นๆครั้งละ 1 แก้ว ตอนเช้า กลางวัน เย็น อาการจะดียิ่งขึ้น (อีกทั้งต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้ลักษณะของการปวดศีรษะ (ต้น)
รากช่วยแก้และก็บรรเทาอาการไอ หรือจะใช้เม็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, เม็ด)
ช่วยแก้หืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นเอาแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ทั้งต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ต้นและก็รากนำมาต้มอาบแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
แก้อาการไอ เม็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด เอามาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสมหะ (ราก)
หากเป็นลมเป็นแล้ง ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างถี่ถ้วนเป็นผุยผงแล้วเอามาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นและก็พริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ทั้งต้น)

ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย นำมาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับเยี่ยว ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ใบและต้นเอามาตำเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ระดูมาไม่เป็นปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบเอามาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เมล็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนกินก็ได้ (เม็ด, ผล, ทั้งยังต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยรักษาแผล ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (อีกทั้งต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น เอามาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับผู้ป่วยเอดส์ที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง แม้ใช้ต้นมาต้มอาบรวมทั้งทำเป็นยากินต่อเนื่องกันโดยประมาณ 3 เดือนจะช่วยทำให้อาการของแผลพุพองทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่า รักษาขี้กลากเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคขี้เรื้อน คุดทะราด ด้วยการใช้ต้นนำมาตำมัวแต่น้ำดื่ม (ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้ผื่นผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดแล้วก็ใบสดล้างสะอาดราว 3-4 กำมือ นำมาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันติดต่อกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกชนิดอีกทั้งภายในภายนอก ด้วยการใช้ต้นและก็ใบทั้งสดและแห้งราวๆ 1 กำมือ เอามาบดอย่างละเอียด แล้วเอามาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือวิธีที่สองจะนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งเอาไว้ 10 นาที แล้วเอามาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารทีละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง โดยประมาณ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เม็ดเอามาคั่วให้ไหม้เกรียมแล้วป่นอย่างถี่ถ้วน ชงกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เม็ดใช้ปิดพอกฝี (เมล็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน คุณประโยชน์ช่วยถอนพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างรอบคอบ สามารถใช้พอกรอบๆแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกทั้งตัว ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ทั้งต้น)
ต้น ถ้าหากประยุกต์ใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะของการเจ็บหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบแก้ไขข้ออักเสบและแก้ลักษณะของการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรักษารากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบนำมาทาให้ทั่วหัว จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ)
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเหงือกปลาหมอ
ในปัจจุบันสมุนไพรเหงือกปลาหมอมีการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นยาแคปซูลสมุนไพร (เหงือกปลาหมอแคปซูล) หรือเป็นยาชงสมุนไพร (เหงือกปลาหมอผงสำเร็จรูป) หรือในรูปแบบของยาเม็ด
นอกจากการใช้เป็นยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับการอบตัวหรืออบด้วยไอน้ำ สมุนไพรเหงือกปลาหมอยังคงใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ สินค้าที่ใช้ในการเปลี่ยนสีผม จนตราบเท่าแชมพูของหมา ฯลฯ
แหล่งอ้างอิง
: เว็บสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, หนังสือพิมพ์ชาติบ้านเมือง (ชำนิชำนาญ หิมะคุณ), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4, ฐานข้อมูลพันธุ์พืช หน่วยงานส่วนพฤกษศาสตร์, ที่ทำการกองทุนสนับสนุนการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือยอดสมุนไพรยาอายุวัฒนะ (คุณครูยุวดี จอมปกป้อง), หนังสือการบริหารร่างกายแกว่งไกวแขน (โชคชัย ปัญจทรัพย์สิน) http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า