รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรที่น่าอัศจรรย์  (อ่าน 588 ครั้ง)

jessica

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • ดูรายละเอียด


เหงือกปลาหมอ
บ้านเกิดเมืองนอนเหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอนับว่าเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของไทยเราด้วยเหตุว่ามีประวัติสำหรับในการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ซึ่งเหงือกปลาหมอนี้เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้งและมักจะพบได้บ่อยในบริเวณป่าชายเลน หรือตามพื้นที่ชายน้ำริมฝั่งคลอง เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่มรวมทั้งมีความชื้นสูง หรือในแถบที่ดินเค็มและไม่ถูกใจที่ดอน แถบภาคอีสารก็มีรายงายว่าปลูกได้ด้วยเหมือนกัน เหงือกปลาแพทย์ พบอยู่ 2 ประเภทเป็นประเภทดอกสีขาว Acanthus ebracteatus Vahl พบบ่อยในภาคกลางแล้วก็ภาคทิศตะวันออก จำพวกดอกสีม่วง  Acanthus ilicifolius L. เจอทางภาคใต้ อีกทั้งเหงือกปลาแพทย์ยังเป็นจำพวกไม่ลือชื่อของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย
ลักษณะทั่วไป
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงโดยประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบลำพัง รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ริมขอบของใบและปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นช่วงๆผิวใบเรียบเป็นเงาลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีชำเลืองสีขาวเป็นแถวก้างปลา เนื้อใบแข็งรวมทั้งเหนียว ใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และก็ยาวราวๆ 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวราว 4-6 นิ้ว ดังนี้สีของดอกขึ้นอยู่กับประเภทของต้นเหงือกปลาหมอเป็น ดอกมีชนิดดอกสีม่วง หรือสีฟ้า และประเภทดอกสีขาว แต่ลักษณะอื่นๆเหมือกันเป็น  ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน ส่วนกลีบดอกไม้เป็นท่อปลายบานโต ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร รอบๆกึ่งกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้แล้วก็เกสรตัวเมียอยู่
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอกกลมรี รูปไข่ ยาวราวๆ 2-3 ซม. เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ข้างในฝักมีเมล็ด 4 เม็ด
เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในแบบเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์เด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสก็จะเบาลงลง
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสเอดส์ แม้ว่าจะร้ายแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยังยารับประทานและต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดน้อยลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยาและก็วิธีใช้ยาก็มีหลายแนวทาง เป็น
วิธีต้มยารับประทานและอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆทีละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง ยามเช้า-เย็น ก่อนกินอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำเป็นต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้า-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แต่ถ้าหากมีเหงือกปลาหมอเยอะๆ บางทีอาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาหมอทั้งยัง 5 ครั้งตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่กินทีละ 2 เม็ด เด็กบางทีก็อาจจะรับประทานทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุรวมทั้งน้ำหนัก รับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะกินอาหาร รุ่งเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยๆตราบจนกระทั่งจะหาย แต่หากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิคุ้มกันผิดพลาดก็จำเป็นต้องรับประทานตลอดไป

วิธีการทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินเป็นผงละเอียดเสมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่กินทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนที่จะกินอาหาร เด็กลดน้อยลงตามส่วน
 เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเยอะมาก เช่น
-ราก มีคุณประโยชน์ในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสลด
-ต้น มีสรรพคุณรักษาโรคหลายอย่าง โดยใช้ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค อาการผอมเกร็ง ถ้าเกิดใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาไม่เหมือนกันออกไปอีก
-ทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังทำลายพิษ ต้มกินแก้พิษโรคฝีดาษ ฝีทั้งสิ้น ผลรับประทานเป็นยาขับโลหิตระดู นอกเหนือจากนั้น ถ้าเกิดตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" อีกทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาทั้งตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำดื่มกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงรับประทาน โรคเรื้อน คุดทะราด ไม่สบายจับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผ่ายผอมเหลืองตลอดตัว กินทุกวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือนิดเดียว หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำกระทั่งเดือดให้งวดจึงชูลง อั้นลมหายใจกินขณะอุ่นจนถึงหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนหมดทั้งตัว วิงเวียน ตามัว เจ็บระบมตลอดตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" ทั้งยัง 5 รวมราก กับ อาหารมื้อเย็นเหนือ อาหารมื้อเย็นใต้ ปริมาณเท่ากัน กะตามต้องการ ต้มกับน้ำจนถึงเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้า ตอนกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดียิ่งขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย แล้วก็ต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นกินทุกวี่ทุกวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค ปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกจำพวกหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 พวก หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงเพราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งผองที่บอกเป็นตำรายาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรดูถูกเหยียดหยาม ทราบไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า