รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 509 ครั้ง)

asd524ohp

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด


กระเทียม
กระเทียมกับประโยชน์ต่อร่างกาย
กระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเช่นเดียวกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงทำครัว กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างแตกต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก นอกจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ อาทิเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) และซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีสาเหตุจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว อัลลิซินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่หลายคนเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจแล้วก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ดังนี้ข้อยืนยันหรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองสรรพคุณ ประโยชน์ รวมทั้งความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยในการรักษาโรคพวกนี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือสินค้าเสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในเส้นเลือดและนำมาซึ่งการทำให้หลอดเลือดขยายตัวแล้วก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่มีระดับความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. ตรงเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดต่ำลงมากกว่าเมื่อเทียบกับคนไข้ที่กินยาหลอก จึงอาจกล่าวได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาคนเจ็บความดันโลหิตสูงได้ดีกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียมสำหรับการลดระดับความดันโลหิตได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเนื่องจากว่าผลของการทดสอบบางทีอาจยังไม่แม่นเพียงพอที่จะสรุปประสิทธิภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิตในผู้เจ็บป่วยความดันโลหิตสูง จึงยังจำเป็นจะต้องเรียนเพิ่มอีกเพื่อยืนยันประสิทธิภาพที่ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมแล้วก็ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังกำกวมแล้วก็ยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งปวงศชายแล้วก็ผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดลองเป็นเวลา 5 ปี แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี มีการทำการศึกษาอีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้วางใจถึงที่เหมาะจะช่วยส่งเสริมความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งหน้าอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งมีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ส่งเสริมว่าการบริโภคกระเทียมอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นผักที่อาจมีคุณสมบัติต้านทานโรคมะเร็ง แต่ว่ายังมีต้นเหตุอื่นๆอย่างเช่น ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกระเทียม หรือจำนวนความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะก่อให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก รวมทั้งเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ภายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้คุณภาพของกระเทียมสิ้นสุดไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์แล้วก็เชื้อไวรัส รวมทั้งมีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองป้องกันและบรรเทาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมชนิดเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แม้กระนั้นระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของ 2 กรุ๊ปมีความไม่เหมือนกันเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ถึงผลการทดลองข้างต้นจะบอกให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังน้อยเกินไปและจึงควรศึกษาเพิ่มเพื่อรับรองคุณภาพของกระเทียมให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ลดน้ำหนักและก็มวลไขมัน ในคนป่วยภาวะไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง และก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นอาจไม่เพียงพอ หากไม่ดูแลเรื่องการกินอาหารควบคู่ไปด้วย การกินกระเทียมก็เลยอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติปกป้องภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนไข้ไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปวงศชายรวมทั้งผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งมวล 110 คน รับประทานกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งด้านในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถรับประทานอาหารได้ตามเดิม แต่กินกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดสอบทำให้เห็นว่า น้ำหนักแล้วก็มวลร่างกายลดน้อยลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก จึงอาจกล่าวได้ว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่มิได้มีเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่การเรียนในอนาคตยังควรต้องออกแบบการทดสอบให้ดีขึ้นรวมทั้งควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับเพื่อการทดสอบเพื่อยืนยันความสามารถของกระเทียมให้แจ้งชัดยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับสมรรถนะของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน จึงทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบแล้วก็การเรียนรู้โดยการทบทวนงานค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่องปริมาณ 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้เล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร จึงยังจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเพื่อหาบทสรุปและรับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ชัดเจนเพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยในการกินกระเทียม
การรับประทานกระเทียมออกจะไม่เป็นอันตรายถ้ากินในจำนวนที่เหมาะสม แต่อาจส่งผลให้เกิดผลข้างๆได้ ดังเช่นว่า ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องอืด อาเจียน อ้วก หรือท้องเสีย อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด อีกทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งเคืองได้
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับในการกินกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังท้องหรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการท้องค่อนข้างจะปลอดภัยถ้ารับประทานเป็นอาหารหรือในจำนวนที่สมควร แต่ว่าอาจไม่ปลอดภัยถ้ากินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการท้องหรือให้นมบุตร
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่สมควรและในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่มีอันตรายสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนและก็ระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจจะก่อให้เกิดการเคืองที่ดินเดินของกินได้
คนที่มีความดันเลือดต่ำ การกินกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันเลือดลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าธรรมดา
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดกินกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์เนื่องจากอาจจะก่อให้เลือดออกมากแล้วก็มีผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และก็ผู้ที่มีภาวการณ์เลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เพราะบางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ดังเช่น ไอโซไนอะสิด เพราะว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและส่งผลต่อประสิทธิภาพหลักการทำงานของยา รวมถึงไม่ควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุมกำเนิด
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม
บันทึกการเข้า