รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: มารู้จัก “ทับทิม” ผลไม้เพื่อสุขภาพ  (อ่าน 579 ครั้ง)

kkjofkgkuy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
มารู้จัก “ทับทิม” ผลไม้เพื่อสุขภาพ
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 03:49:15 AM »


ทับทิม
มารู้จัก “ทับทิม” ผลไม้เพื่อสุขภาพ
นักระบุของกินจดทะเบียนวิชาชีพประเทศอเมริกา
ในยุคที่คนไหนก็ห่วงสุขภาพ รักการบริหารร่างกาย หมั่นกินผัก ผลไม้ต่างๆเมื่อเอ่ยถึง “ทับทิม” หลายท่านอาจรู้จักดีกันดีกับผลไม้ที่มีกลิ่นหอม รสอร่อยเชื้อเชิญติดใจ ทับทิมนั้นมีต้นกำเนิดมาจากอินเดียและก็เปอร์เซีย โดยในบันทึกโบราณทางด้านการแพทย์ระบุว่า ทับทิมถูกใช้เป็นยารักษาโรคและก็ใช้เพื่อการดูแลสุขภาพมานานนับพันๆปี
เดี๋ยวนี้ทับทิมจัดคือผลไม้ในกรุ๊ป ซุปเปอร์ฟรุ๊ต ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน ธาตุสารพฤกษเคมีแล้วก็สารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งมีปริมาณสูงเลิศในทับทิมโดยสูงเป็น 3 เท่าของอาหารอื่นที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง ทั้งยังมีใยอาหารสูงมากมาย นอกจากนั้นยังมีวิตามินซีสูง มีวิตามินบี 5 (กรดแพนโทธีนิค) วิตามินเอ วิตามินอี ส่วนแร่ธาตุที่มีมากมายคือ แคลเซียม โพแตสเซียม รวมทั้งธาตุเหล็ก
จากการศึกษาเล่าเรียนพบว่าทับทิมมีสารที่มีฤทธิ์สำหรับในการต่อต้านขบวนการออกซิเดชันที่เกี่ยวกับการอักเสบ ซึ่งบางทีอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในทับทิมสูงกว่า ไวน์แดงแล้วก็ใบชาเขียวถึง 3 เท่า แล้วก็ยังมีจำนวนสารโพลีฟีนอลในทับทิมสูงกว่าน้ำผลไม้อื่นๆอาทิเช่น ส้ม องุ่น แคนเบอร์ปรี่ ลูกแพร แอปเปิ้ล อีกด้วย
ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกรุ๊ปสารโพลีฟีนอล ที่สำคัญคือ สารพูนิค้างลาจิน พูนิคาลิน และกรดกัลลาจิก ทั้งผองนี้อาจมีผลต่อการคุ้มครองป้องกันอันตรายต่อเยื่อในร่างกายที่จะมีผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังรังต่างๆการศึกษาวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในทับทิมอาจช่วยยับยั้งการเจริญก้าวหน้าของเซลล์ของโรคมะเร็ง ทับทิมยังมีสารอโรมาเทสอินฮิบิเตอร์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเอสโทรเจนที่บางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม นอกจากนี้สารอาหารและก็สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมสกัดยังเป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ อาจต่อต้านการเกิดริ้วรอย ช่วยทำให้มีผิวพรรณอ่อนกว่าวัยรวมทั้งมีร่างกายแข็งแรง นอกเหนือจากนั้นทับทิมยังจัดคือผลไม้ที่มีพลังงานต่ำ จึงอาจให้ประโยชน์ต่อการลดพลังงานในการควบคุมน้ำหนัก โดยการรับประทานทับทิมแทนขนมหวาน
ด้วยสารสำคัญต่างๆในทับทิม นักวิจัยก็เลยสนใจทำการศึกษาถึงผลดีต่อสุขภาพ โดยมีรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า สารสกัดจากทับทิมช่วยชะลอการเจริญก้าวหน้าของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งในห้องทดลองได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีการศึกษาค้นคว้าชี้ว่า น้ำทับทิมสกัดยังสามารถช่วยลดแอลดีแอลคอเลสเทอคอยล ซึ่งเป็นคอเลสเทอรอคอยลไม่ดี ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัน และก็ยังช่วยลดความดันเลือด มีผลในการช่วยปกป้องโรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตสมองตีบรวมทั้งหัวใจวาย
ด้วยประโยช์จากทับทิมที่มีต่อสุขภาพรวมทั้งมาจากธรรมชาติ ทำให้ทับทิมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วทั้งโลก ปัจจุบันมีการนำทับทิมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำทับทิมสกัดแบบพร้อมดื่ม เพื่อความสะดวกสำหรับลูกค้าสุดที่รักแล้วก็กังวลในการดูแลสุขภาพ
การค้นคว้าวิจัยของ Sharma, Mc Clees and Afaq ปัจจุบันในปี 2017 ระบุว่า สารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ยั้งการเกิดเซลล์กลายพันธุ์ที่ก่อเกิดเซลล์มะเร็ง
ด้วยคุณประโยชน์จำนวนมากดังที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทับทิมได้รับการตั้งชื่อว่าเป็น “ซุปเปอร์ฟรุต” (Super fruit) ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั้งโลก เนื่องด้วยมีวิตามินและแร่
ความเชื่อและตำนาน
ชาวกรีกโบราณมั่นใจว่า ต้นทับทิมเกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส (Di-onysus) ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเทวดาทั้งสิ้นและเทวีนาน่า(Nana) ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ ตั้งครรภ์ขึ้นโดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้กำเนิดทวยเทพเทวดาแอตว่ากล่าวส (Attis) ขึ้น ดังนั้น คนที่ชื่นชมเทพแอตว่ากล่าวสก็เลยไม่รับประทานผลทับทิม ชาวยิวในยุคพระเจ้าโซโลมอนก็จัดว่า ทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน แขกฮินดู ในอินเดียมั่นใจว่า พระพิฆเนศทรงโปรดทับทิม คนที่ยกย่องพระพิฆเนศจึงนิยมนำผลทับทิมไปถวาย นอกเหนือจากนั้น ยังคงใช้ดอกทับทิมเส้นไหว้บูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี อีกด้วย
ชาวจีนจัดว่า ต้นทับทิมเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคล (โดยเฉพาะทับทิมชนิดดอกสีขาว) รวมทั้งถือว่าทับทิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลานเยอะแยะ (เพราะว่าผลทับทิมมีเมล็ดมากมาย) จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่คู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงาน (เพื่อมีลูกหลานมากๆ) ในพิธีแต่งงานนิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมเจ้าสาว แล้วก็ปักยอดทับทิมไว้ที่ข้าวของเซ่นไหว้เจ้า คนจีนยังมั่นใจว่า ใบหรือกิ่งทับทิมมีอำนาจไล่ภูตผีปีศาจได้ ก็เลยนิยมปลูกทับทิมเอาไว้ในรอบๆบ้าน และใช้ใบทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ ข้างหลังกลับจากงานฌาปนกิจศพ (เพื่อมิให้ปีศาจติดตามมา)
ในญี่ปุ่นคงรับความเลื่อมใสเกี่ยวกับทับทิมไปจากจีน กลายเป็นเครื่องหมายของเจ้าแม่ที่รอคุ้มครองปกป้องรักษาเด็กๆให้ไม่มีอันตราย และก็เชื่อว่าเมื่อเด็กๆได้รับประทานผลทับทิมแล้วจะไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากภูตผีปีศาจทั้งสิ้น คนประเทศไทยก็คงจะได้รับถ่ายทอดความศรัทธาเกี่ยวกับทับทิมมาจากคนจีนบ้าง ดังปรากฏว่า มีศาลเจ้าหลายแห่งในประเทศไทย ชื่อเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งคงเป็นเจ้าแม่ที่มีกำเนิดจากจีนแล้วเปลี่ยนเป็นชื่อไทยคราวหน้า
บันทึกการเข้า