รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 501 ครั้ง)

sdfi5dsf1q2d1

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • ดูรายละเอียด


เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานค้นคว้าวิจัยที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีส่วนสำหรับเพื่อการยัยยั้งลักษณะการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาวิจัยเยอะมากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลพอเพียงที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบงานค้นคว้าวิจัยที่เล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าผู้เจ็บป่วยตอบสนองต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อทดสอบการใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนการค้นคว้าวิจัยพบว่ามีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์เกื้อหนุนว่าเห็ดหลินจืออาจสมาคมต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของผู้เจ็บป่วยให้ และก็ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานค้นคว้าหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
โดยเหตุนั้น จึงอาจจะกล่าวว่า สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ทางคุณลักษณะและก็คุณประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดสอบในคนไข้บางกลุ่มเท่านั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นประเด็นการค้นคว้าที่ควรดำเนินการทดลองถัดไปเพื่อให้ได้ได้ผลลัพ์ที่แจ่มกระจ่างรวมทั้งมีคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาคนป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบทางเดินเยี่ยว
มีขั้นตอนทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนไข้เพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการเยี่ยวขัดข้อง หลังการทดลองกว่า 12 อาทิตย์ ผลสรุปที่ได้เป็น คนเจ็บต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบทางเดินปัสวะของคนเจ็บจากการตอบคำถาม กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ฉะนั้น การทดสอบดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่ชัดเจนพอเพียง จำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่เด่นชัดในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาสภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพใดๆที่เกี่ยว
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองทางการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนไข้เบาหวานประเภท 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะช่วยเหลือผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้เจ็บป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเดิน หรือท้องผูก
ด้วยเหตุดังกล่าวควรต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือสำหรับเพื่อการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองและการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจต่อไป และให้ได้ความแจ่มชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงแล้วมากขึ้น อันเป็นผลดีต่อกรรมวิธีรักษาคุ้มครองปกป้องโรคเส้นโลหิตหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งชัดเจน เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุผลดังกล่าว คนซื้อ ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และหารือหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เพราะแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่สารเคมีและส่วนประต่างอาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้เช่นเดียวกัน

โดยปกติ ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันดังเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้บริโภคก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะ ควรระมัดระวังในด้านจำนวนและก็รูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะบางทีอาจเป็นผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในคราวหลัง
โดยข้อควรระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจืออาทิเช่น
ผู้บริโภคทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้มีอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจทำให้เกิดผลกระทบได้ ดังเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจทำให้เกิดผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การสูดหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจก่อให้กำเนิดอาการแพ้
ผู้ที่ต้องระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร แม้ยังไม่มีการพิสูจน์ผลกระทบที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แม้กระนั้นคนที่ตั้งครรภ์และคนที่กำลังให้นมลูกควรจะเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อร่างกายของตนแล้วก็ลูกน้อย
คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางรายที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อลดการเสี่ยง คนเจ็บควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุผลดังกล่าว คนเจ็บสภาวะความดันโลหิตต่ำควรต้องหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ฉะนั้นคนไข้สภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะเลือกออกแตกต่างจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า