รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 496 ครั้ง)

าร

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
    • ดูรายละเอียด


เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนไข้โรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวมาข้างต้นมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งหลักการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการค้นคว้าวิจัยมากไม่น้อยเลยทีเดียวถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในคนป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ส่งเสริมให้ใช้เห็ดหลินจือในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเทียบจากการรวบงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าผู้ป่วยสนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบรรเทาหรือรังสีบำบัดเจริญขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับเพื่อการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่ามีงานศึกษาวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจชมรมต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดีขึ้น และในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานค้นคว้าวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้และก็นอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงอาจจะบอกได้ว่า ข้อยืนยันทางคุณลักษณะและประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดสอบในคนเจ็บบางกรุ๊ปแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติงานทดลองถัดไปเพื่อให้ได้ได้ผลลัพ์ที่แน่ชัดและเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาคนเจ็บโรคมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต และก็การเจ็บป่วยในระบบทางเดินเยี่ยว
มีขั้นตอนทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนไข้เพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการปัสสาวะติดขัด หลังการทดลองกว่า 12 อาทิตย์ ผลที่ได้คือ คนไข้ต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดีขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของคนป่วยจากการตอบปัญหา แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
โดยเหตุนั้น การทดสอบดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างเพียงพอ จึงควรมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่แจ้งชัดสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดสอบทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนป่วยโรคเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะส่งเสริมผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้เจ็บป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
ด้วยเหตุผลดังกล่าวจำเป็นจะต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงประสิทธิภาพของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อปกป้องและก็การดูแลรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจต่อไป และให้ได้เรื่องแจ้งชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวมาแล้วเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลดีต่อวิธีการรักษาป้องกันโรคเส้นโลหิตหัวใจและอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไปในอนาคต
จำนวนที่เหมาะสมในการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งแจ่มชัด เนื่องประสิทธิผลและผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนี้ ผู้บริโภค ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งขอความเห็นแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เนื่องจากหากแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีและก็ส่วนประต่างอาจส่งผลข้างๆที่เกิดอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้เหมือนกัน

โดยธรรมดา ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันเป็นต้นว่า
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ว่าคนซื้อก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านปริมาณแล้วก็แบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าบางทีอาจเกิดผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในภายหลัง
โดยสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังในการบริโภคเห็ดหลินจือดังเช่น
ผู้บริโภคทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจก่อกำเนิดผลข้างเคียงเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่พึงระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร หากแม้ยังไม่มีการพิสูจน์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ใช้นี้แม้กระนั้นผู้ที่ตั้งครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนรวมทั้งลูกน้อย
คนที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉะนั้น เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุนั้น คนไข้ภาวะความดันโลหิตต่ำควรต้องเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพราะฉะนั้นคนเจ็บสภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกผิดปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวการณ์เลือกออกไม่ปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า