น้ำมันเหลืองพวกเราชี้นำง่ายๆเพียงแค่ 2 ขั้นตอนหมายความว่า"กด" + "ทา" โดยจะนวดหรือเปล่านวดก็ได้ ทาบริเวณที่มีลักษณะอาการในเวลานี้น้ำมันเหลืองได้รับความนิยมใช้อย่างมากมายมาก เนื่องจากว่าคุณประโยชน์ไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว ลูกค้าโดยมากต้องการใช้สินค้าที่ทำมาจากธรรมชาติจริงๆเพราะนอกจากจะรู้สึกไม่เป็นอันตรายแล้ว ใช้นานหรือบ่อยมากแค่ไหนก็ไม่มีการสะสม
คนใดกันแน่ที่ชอบใจใช้ น้ำมันเหลือง บ่อยๆห้ามพลาด เพราะวันนี้เรานำ
น้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วๆไปนั้นมีการทำกันกลายสูตรมากไม่น้อยเลยทีเดียว สุดแล้วแต่ว่าคนไหนกันถูกใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งหมดมักใช้แก้ปวด แก้มึนหัว แก้ตะคริว รักษาโรคหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้อาการท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรกระบวนการทำกันเลย
สิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช้1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร เป็นต้นว่า ขวดบรรจุกาแฟ ขวดแก้ว
กระบวนการทำ1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนถึงน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรตัวทอดต่อให้หมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนประกอบทั้งยัง 3 ประเภท ในอัตราส่วนที่ระบุเป็น(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนผสมทั้งสิ้นละลายเป็นของเหลว (แม้ไม่ใช่ไม้คนอาจใช้ขั้นตอนการเขย่าขวดให้ส่วนประกอบละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
น้ำมันเหลือง ผลของการวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนหลับก้าวหน้าขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิมลักษณะการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า คนเจ็บโรคมะเร็งระยะแพร่ไป จะทรมาทรกรรมจากอาการเจ็บปวดลดน้อยลง คลื่นไส้น้อยครั้ง หรือไม่อาเจียนเลย รู้สึกแจ่มใสขึ้น ความดันดียิ่งกว่าเดิม และก็เครียดจากลักษณะการป่วยลดน้อยลง ภายหลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
การเลือกน้ำมันเหลืองการเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน และคุณประโยชน์ต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนมากน้ำมันฐานรากที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงยิ่งกว่าน้ำมันที่ทำจากถั่วเหลือง และก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และจากนั้นก็ทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ปกป้องการเกิดมะเร็ง ยิ่งไปกว่านี้น้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชื่นบาน
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณลักษณะ แล้วหลังจากนั้นก็คุณค่าที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้
Tags : น้ำมันเหลือง