น้ำมันระกำ (Methyl Salicylate)น้ำมันระกำเป็นอย่างไร น้ำมันระกำ เมทิลซาลิไซเลต (Methyl salicylate หรือ Wintergreen oil หรือ Oil of wintergreen) เป็นสารอินทรีย์ในธรรมชาติเจอได้จากพืชหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชในกรุ๊ปวินเทอร์กรีน (Wintergreen) รวมทั้งพืชอีกหลายประเภทที่ผลิต เมทิลซาลิไซเลต ในปริมาณน้อย อย่างเช่น
- สปีชี่ส่วนใหญ่ของตระกูล Pyrolaceae โดยยิ่งไปกว่านั้นในสกุล Pyrola
- บางสปีชี่ของสกุล Gaultheria ในตระกูล Ericaceae
- บางสปีชี่ของสกุล Betula ในวงศ์ Betulaceae โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสกุลย่อย Betulenta
แต่ว่าในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ สามารถสังเคราะห์สารเมทิลซาลิไซเลตแบบที่เจอในน้ำมันระกำได้เช่นเดียวกัน รวมทั้งถูกประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตน้ำหอม อาหาร เครื่องดื่ม และก็ยาในบ้านพวกเรา น้ำมันระกำมักถูกเอามาเป็นส่วนผสมของ ครีม ขี้ผึ้ง น้ำมันทาถูนวด สำหรับลดลักษณะของการปวดของกล้ามเนื้อและปวดข้อ ซึ่งสารเมทิลซาลิไซเลตในน้ำมันระกำมักใช้ได้ผลในด้านดีกับอาการปวดจำพวกกะทันหันไม่ร้ายแรง แต่อาการปวดจำพวกเรื้อรังจะได้ผลน้อย
สูตรเคมีและก็สูตรส่วนประกอบ น้ำมันระกำ (Methyl Salicylate) เป็นสารอินทรีย์ในสูตรโครงสร้างมีหมู่ เอสเทอร์ (Esters) วงแหวนเบนซินซึ่งสามารถกลืนรังสีอุลตร้าไวโอเลตได้ เป็นองค์ประกอบหลักแล้วก็มีชื่อทางเคมีตาม IUPACหมายถึงmetyl 2-hydroxybenzoate มีสูตรเคมี C6H4(HD)COOCH3 มีน้ำหนักโมเลกุล 152.1494g/mal มีจุดหลอมเหลวที่ -9 องศาเซลเซียส (ºC) จุดเดือดอยู่ที่ 220-224 องศาเซลเซียส (ºC) สามารถติดไฟได้ รวมทั้งสามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอลล์ กรดอะสิตำหนิก อีเทอร์ ส่วนในน้ำละลายได้เล็กน้อย
สูตรองค์ประกอบทางเคมีของเมทิลซาลิไซเลท
ที่มา : Wikipedia ที่มา : Brahmachari (2009)
แหล่งที่มา/แหล่งที่พบ น้ำมันระกำ หรือ เมทิลซาลิไซเลต ในอดีตนั้นสามารถสกัดได้จากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน เมื่อแวดวงวิทยาศาสตร์เจริญขึ้น นักวิทยาศาสตร์ก็เลยสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ ซึ่งสามารถแยกที่มาของ
น้ำมันระกำได้คือ
- ได้มากจากธรรมชาติ จะได้มาจากการกลั่นใบของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มี ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gaultheria procumbens Linn. ชื่ออังกฤษ wintergreen, Checkerberry, Teaberry Tree, อยู่ในวงศ์ ERICAEAE ลักษณะ เป็นไม้พุ่มเล็กๆแผ่ไปตามดิน ยอดจะชูขึ้นสูงโดยประมาณ10-15 ซม. มีอายุเกิน 1 ปี ใบ โดดเดี่ยวออกสลับกัน ใบสีเขียวแก่ รูปไข่ ยาว 1-2 ซม. ใบมีกลิ่นหอมสดชื่นหวานรสฝาด ดอก สีขาวเป็นรูประฆัง ยาว 5 มม. ออกที่ข้อด้านข้างใบ ผล เป็น capsule สีม่วง มีส่วนของกลีบรองกสีบดอก สีแดงสดติดอยู่ ซึ่งในใบจะมีสาร methyl Salicylate อยู่ถึง 99% เลยทีเดียว โดยพืชประเภทนี้เป็นพืชพื้นบ้านของทวีปอเมริกาเหนือและ
- ได้มาจากการสังเคราะห์สารเคมี โดยการสร้าง น้ำมันระกำทางวิทยาศาสตร์ได้จากการสังเคราะห์สารมีชื่อทางเคมีว่า Salicylyl acetate เป็นอนุพันธ์เอสเธอร์ ของ Salicylic acid และก็ methyl salicylate โดยใช้ปฏิกิริยาคอนเดนเซซั่น ของกรดซาลิไซลิก กับ เมทานอล โดยทำให้กรดซัลฟิวริกผ่าน esterification กรด Salicylic จะละลายในเมทานอลเพิ่มกรดกำมะถันแล้วก็ความร้อน เวลาสำหรับการทำปฏิกิริยาคือ 3 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 90-100 ℃ เมื่อปลดปล่อยให้เย็นถึง 30 ℃ แล้วใช้น้ำมันล้างด้วยสารละลายโซเดียมคาร์บอเนตที่มีค่า pH 8 ด้านบนแล้วล้างด้วยน้ำ 1 ครั้ง น้ำ. ส่วนการกลั่นด้วยเครื่องสุญญากาศ 95-110 ℃ (1.33-2.0kPa) กลั่นให้ได้เมทิลซาลิไซเลต 80% หรือปริมาณเมทิลเซลิเซียลในอุตสาหกรรมทั่วไปเท่ากับ 99.5%
ประโยชน์รวมทั้งสรรพคุณ ผลดีรวมทั้งสรรพคุณของน้ำมันระกำ (Methyl Salicylate) คือ ใช้เป็นยายับยั้งปวดชนิดใช้เฉพาะที่สำหรับทุเลาลักษณะของการปวดต่างๆที่ไม่ร้ายแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามจากสภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ บอบช้ำ หรือปวดหลัง เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆอุ่นขึ้น ซึ่งช่วยเบี่ยงเบนความพึงพอใจจากการรู้สึกถึงลักษณะของการปวด ยิ่งไปกว่านี้ ยังอาจใช้รักษาโรคอื่นๆตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย น้ำมันระกำมีกลไกการออกฤทธิ์ โดยตัวยาจะเป็นตัวกระตุ้นปลายประสาทที่รับความรู้สึกถึงความร้อน - อบอุ่น ทำให้ร่างกายมีการสนองตอบถึงการบรรเทาอาการปวดต่ำลง ก็เลยทำให้มีความรู้สึกถึงฤทธิ์การรักษาตามสรรพคุณ ในการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชยังพบอีกว่าน้ำมันระกำสามารถปรับปรุง ต้านการปวดบวมแล้วก็อักเสบ แถมมีฤทธิ์เป็นยาชาแบบอ่อนๆรวมทั้งมี pH เป็นกรด ออกจะแรง และก็มีโมเลกุลแบบ BHA ด้วย มีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะแบบอ่อนๆทำให้ทำลายแบคทีเรียที่ผิวหน้าได้มักใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยา แอสไพริน ซาลิโซเลต แล้วก็ยาฆ่าเชื้อ
นอกเหนือจากนี้ยังคงใช้เมทิลซาลีไซเลตในอุตสาหกรรมอื่นๆอีกยกตัวอย่างเช่น เป็นส่วนผสมในสินค้าต่างๆดังเช่น ยาสีฟัน แป้งฝุ่น ยาหม่อง อุตสาหกรรมย้อม น้ำหอม เป็นต้น
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา รายงานทางเภสัชวิทยาของน้ำมันระกำนั้นไม่ค่อยรายงานมาก ผู้เขียนสามารถเก็บมาได้เพียงนิดหน่อยเพียงแค่นั้น เช่น กรดซาลิไซลิก มีฤทธิ์สำหรับการต้านทานเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ต้านสะเก็ดเงิน โดยสมุนไพรที่เจอกรดซาลิไซลิก จะพบได้ทั่วไปในพืชสกุล Salix ดังเช่นว่า สนุ่น willow ยิ่งกว่านั้นยังเจอในต้น wintergreen (Gaultheria procumbens) ที่นำมาทำน้ำมันระกำเป็นต้น แล้วก็การใช้น้ำมันระกำ(เมทิลซาลิไซเลต)ทาร่วมกับการรับประทานยาต้านทานการแข็งตัวของเลือดดังเช่นว่า Warfarin, Dicumarol สามารถทำให้เลือดออกตามร่างกายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยเหตุนี้ถ้าหากแจ้งให้หมอทราบก่อนใช้ยา หมอจะปรับขนาดรับประทานของ Warfarin และ Dicumarol ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีๆไป
การเรียนทางพิษวิทยามีรายงานการเรียนความเป็นพิษเฉียบพลันในน้ำมันระกำ (Methyl Salicylate) โดยให้ทางปากแก่ตัวทดลอง พบว่าค่า LD50=1110 มก./น้ำหนักตัว (กิโล) และก็เมื่อฉีดเข้ากล้ามตัวทดลองพบว่า ค่า LD50=887 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (โล) สารเมทิลซาลิไซเลตหรือน้ำมันระกำบริสุทธิ์จัดเป็นสารเคมีที่มีพิษ ร่างกายมนุษย์ไม่สมควรได้รับเมทิลซาลิไซเลต เกิน 101 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กก. ในปี ค.ศ. 2007 (พุทธศักราช 2550) มีรายงานของนักกีฬาที่วิ่งข้ามประเทศเสียชีวิตเหตุเพราะร่างกายของเขามีการซับเมทิลซาลิไซเลตมากเกินความจำเป็นด้วยการใช้ยาทา แก้ปวด ด้วยเหตุผลดังกล่าวควรต้องทำความเข้าใจกับคนซื้อ/คนป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยาทาเมทิลซาลิไซเลตกับเด็กเล็กซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าผู้ป่วยในกลุ่มอื่นๆซึ่งก่อนจะมีการเลือกใช้เภสัชภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยานี้จำเป็นต้องขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการใช้ยาทุกคราว
ขนาด/จำนวนที่ควรจะใช้ น้ำมันระกำตามตลาดในบ้านเราโดยมากนั้นมักจะเห็นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีส่วนผสมของน้ำมันระกำ หรือ เป็นส่วนผสมของยาเช็ดนวดที่ใช้ทาข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่าร่างกายมนุษย์ไม่สมควรได้รับเมทิลยาลิไซเลตเกิน 101 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (โล) โดยถ้าหากใช้เป็นยาใช้ภายนอกก็บางครั้งก็อาจจะใช้ทาได้ในรอบๆที่ปวดวันละ 3-4 ครั้ง ก็คงจะพอเพียงแล้ว
ข้อเสนอ/ข้อพึงระวัง- เหตุเพราะน้ำมันระกำมีฤทธิ์คล้ายแอสไพรินด้วยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องแจ้งให้แพทย์รู้ก่อนใช้ยาถ้าหากมีประวัติแพ้ยาหรือองค์ประกอบของยาประเภทนี้ แพ้ยาแอสไพรินหรือยาในกลุ่มซาลิไซเลต แล้วก็ยาจำพวกอื่น ของกิน หรือสารอะไรก็ตาม
- คนที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรจะหลบหลีกการใช้ทาบริเวณเต้านม
- ห้ามให้เด็กอายุต่ำลงยิ่งกว่า 12 ปี ใช้โดยมิได้หารือหมอ
- ห้ามป้ายยานี้ในบริเวณที่เป็นแผลเปิด แผลไหม้
- ถ้าป้ายยานี้แล้วมีลักษณะอาการแสบร้อนมากขึ้นให้ล้างออกด้วยน้ำสบู่แล้วถูเบาๆเพื่อทำความสะ อาดกำจัดยาออกไป
- ห้ามป้ายยานี้บริเวณ ตา ของลับ โพรงปาก ด้วยเหตุว่ายาจะมีผลให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างมากต่อเนื้อเยื่อพวกนั้น
- หลีกเลี่ยงการใช้เพื่อสูด เพราะว่าบางทีอาจก่อการระคายเยื่อเมือกบุทางเท้าหายใจได้
- ถ้าใช้ยาประเภทครีม เจล โลชั่น ออยล์ ขี้ผึ้ง หรือสเปรย์ ให้ทาบางๆในรอบๆที่มีอาการปวด รวมทั้งนวดเบาๆให้ยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง
- การใช้ยาชนิดน้ำหรือแท่ง ให้ป้ายยารอบๆที่มีลักษณะปวด จากนั้นนวดช้าๆจนกระทั่งยาซึมลงผิวหนัง
- การใช้ยาชนิดแผ่นติด ให้ลอกแผ่นฟิล์มออก ต่อจากนั้นติดบริเวณที่มีลักษณะปวดให้แนบสนิทไปกับผิวหนัง โดยใช้วันละ 1-2 ครั้ง ตามต้องการ
ส่วนผลกระทบจากการใช้น้ำมันระกำ Methyl Salicylateอาจจะก่อให้เป็นผลใกล้กัน เช่น ผิวระคาย แสบ แดง มีลักษณะชา รู้สึกปวดเหมือนเข็มทิ่มตามผิวหนัง เกิดภาวะภูไม่ไวเกิน เป็นต้น
อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเกิดเจอผลกระทบร้ายแรงจากการใช้น้ำมันระกำ (Methyl Salicylate) ดังต่อไปนี้ ควรจะหยุดใช้ยาแล้วก็ไปพบหมอทันที เป็นต้นว่า
- มีลักษณะแพ้ยา อาทิเช่น เป็นลมพิษ หายใจติดขัด หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม เป็นต้น
- มีลักษณะแสบอย่างหนัก เจ็บ บวม หรือพุพองในรอบๆที่ใช้ยา แม้เจออาการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วให้รีบล้างยาออกก่อนรวมทั้งไปพบแพทย์โดยทันที
เอกสารอ้างอิง- สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.สอบถามเกี่ยวกับสมุนไพร.กระดานถาม-ตอบ
- Brahmachari, G. 2009. Natural products: chemistry, biochemistry and pharmacology. Alpha Science International Ltd, Oxford. http://www.disthai.com/
- ต้นน้ำมันระกำมีประโยชน์อย่างไร.ไทยเกษตรศาสตร์.(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
- Methyt Salicylate (เมทิลซาสิไซเลต)-รายละเอียดของยา.พบแพทย์ดอทคอม(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
- เมทิลซาสิไซเลต.วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก
- Yü-Liang Chou 1952. Floral morphology of three species of Gaultheria: Contributions from the Hull Botanical Laboratory. Botanical Gazette 114:198–221 First page free
- Gibbons, Euell. "Stalking the Healthful Herbs." New York: David McKay Company. 1966. pg. 92.
Tags : น้ำมันระกำ