รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้สมองอักเสบ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 572 ครั้ง)

BeerCH0212

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด


โรคไข้สมองอักเสบ เจอี (Japanese Encephalitis)
โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี เป็นอย่างไร ไข้สมองอักเสบ (encephalitis) คือ การอักเสบของเนื้อสมอง หรือเฉพาะที่บางส่วน เนื่องจากว่าเนื้อสมองอยู่ชิดกับเยื่อหุ้มสมอง จึงบางทีอาจพบการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองร่วมกับการอักเสบของสมองได้ด้วย  โดยโรคไข้สมองอักเสบบางทีอาจเกิดขึ้นได้จากหลายกรณีส่วนมากมักจะมีเหตุที่เกิดจากการตำหนิดเชื้อจากเชื้อไวรัส โดยสามารถเกิดได้จากเชื้อไวรัสหลายประเภทหรือบางทีบางทีอาจเจอเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคฝึกฝน คางทูม ไข้ผ่องใส แต่ว่าไข้สมองอักเสบประเภทที่อันตราย/รุนแรงที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้ คือ โรคไข้สมองอักเสบ เจอี(Japaneseencephalitis, JE) พบบ่อยที่สุดในทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทยและก็เล็กน้อยของแปซิฟิคตะวันตก โดยมากชอบเจอการเกิดโรคในช่วงฤดูฝน แต่ในแต่ว่าล่ะประเทศจะเจอช่วงเวลาที่มีการเกิดโรคได้ไม่เหมือนกันซึ่งพบได้ตลอดทั้งปี โดยในบริเวณแหล่งระบาดมักจะพบในผู้เจ็บป่วยอายุน้อยกว่า 15 ปี เพราะเหตุว่าในผู้ใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันอยู่ก่อนแล้ว  แต่แม้เป็นรอบๆที่ไม่เคยกำเนิดโรคมาก่อนก็จะพบในกรุ๊ปของคนที่มีอายุสูงขึ้นได้
โรคไข้สมองอักเสบเจอี เป็นโรคที่เกิดอันตรายถึงชีวิตแล้วก็เป็นโรคสุดที่รักษายาก ที่สำคัญเมื่อเป็นแล้วมีอัตราการตายสูง ถ้าหากมีชีวิตรอดมักมีความพิการหรือเปลี่ยนไปจากปกติทางสมองตามมา อัตราเจ็บไข้ตายอยู่ระหว่างจำนวนร้อยละ 20-30 ประมาณสองในสามของคนรอดพ้นจากความตาย จะมีความพิกลพิการคงเหลือ ในทวีปเอเชียพบผู้ป่วยโรคนี้ประมาณปีละ 30,000-50,000 ราย โรคนี้เรียกว่า Japanese ด้วยเหตุว่าสามารถแยกเชื้อได้จากผู้ป่วยในประเทศญี่ปุ่นทีแรกเมื่อปี พุทธศักราช2468
สาเหตุของโรคไข้สมองอักเสบ เจ อี ด้วยโรคไขสมองอักเสบเจอีเปนโรคที่มีอัตราตาย รวมทั้งความพิกลพิการตามมาสูง ซึ่งสวนใหญชอบเปนในเด็ก ส่วนเชื้อที่กอโรคไดมึง Japanese encephalitis virus (JEV) ซึ่งเปน arbovirus จัดอยูใน family Flaviviridae, genus Flavivirus โดยมียุงรําติดอยู่ญ Culex tritaeniorhynchus เปนพาหะนําโรค โรคนี้เจอในเขตเมืองนอชูวาชนบท มีอัตราตายรอยละ 10-35 แล้วก็มีอัตราการเกิดความพิการ ตามมาสูงถึงรอยละ 30-50 โดยไวรัสชนิดนี้ถูกศึกษาค้นพบทีแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นและก็ได้กระจัดกระจายทั่วๆไปทุกภาคและทุกฤดู ซึ่งประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี ได้แก่ บริเวณทวีปเอเชียใต้ ประเทศอินเดียและศรีลังกา ตลอดจนประเทศในเอเซียอาคเนย์ รวมทั้งในภาคทิศตะวันออกของเมืองจีน แล้วก็พบได้ในประเทศ ไต้หวัน ประเทศเกาหลี แล้วก็ประเทศญี่ปุ่น
ปลายคริสตศตวรรษที่ 18 มีการระบาดใหญ่ของโรคไขสมองอักเสบเจอีในประเทศญี่ปุน โดย ในป พุทธศักราช 2468 สามารถแยกเชื้อไวรัสเจอีไดเปนครั้งแรกจากสมองของผูปวยชายอายุ 19 ปที่มี อาการสมองอักเสบแล้วก็เสียชีวิตในกรุงโตเกียว ถัดมาสามารถแยกเชื้อไวรัสไดจากยุงเบื่อหน่าย Culex และก็มีรายงาน การระบาดของโรคไขสมองอักเสบเจอีในประเทศต่างๆในทวีปเอเชียตามมา ซึ่งนับคือปัญหาที่สําคัญที่สุดในบรรดาโรค สำหรับเมืองไทยพบการระบาดหนแรกในป พ.ศ. 2512 ที่จังหวัดเชียงใหมหลังจากนั้นมีการพบผูปวยเรื่อยๆมาและก็มีการระบาดใหญ่เปนครั้งคราว ผู้ปวยโรคนี้สามารถเจอไดบอยทางภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาไดแก ภาคกลาง และก็ภาคใต
ปจจุบันพบผูปวยโรคไขสมองอักเสบ เจ อี นอยลง เพราะเหตุว่ามีการฉีดยาปองกันโรคไขสมอง อักเสบเจอีในเด็กทั่วประเทศ ในป พ.ศ. 2552 สํานักระบาดวิทยาไดรับรายงานผูปวยโรคไขสมองอักเสบรวมทั้งสิ้น 543 ราย คิดเปนอัยี่ห้อปวย 0.86 ตอแสนสามัญชน จําแนกเปนโรคไขสมองอักเสบเจอีจํานวน 106 ราย (รอยละ 19.52) คิดเปนอัตราปวย 0.17 ตอแสน ราษฎร ไมมีรายงานผูเสียชีวิต  สวนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยนอยกวา 15 ป พบผูปวยสูงสุดในกลุมอายุยง 0-4 ป คิด เปนอัยี่ห้อปวย 1.1       ตอแสนประชากร รองลงมาคือ กลุมอายุยง 5-9 ป มากกวา 15 ป รวมทั้ง 10-14 ป โดยมี อัตราปวย 0.3, 0.09 แล้วก็ 0.08 ตอแสนพลเมืองตามลําดับ กระจัดกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ
อาการโรคไขสมองอักเสบ เจ อี   ไวรัสเจอีนี้ เมื่อไปสู่ร่างกายจะแพร่กระจายไปสู่สมองและก็จะทำลายเนื้อสมองตั้งแต่น้อยไปจนตราบเท่าอย่างมากแตกต่างกันไปในแต่ละคน (Japanese encephalitis virus)  โดยส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อโรคจะไม่มีอาการ มีเพียงแต่ 1 ใน 300 คนแค่นั้น ที่จะออกอาการ โดยในรายที่รุนแรงจะออกอาการแบบสมองอักเสบ (encephalitis) โดยมีลักษณะอาการกางงเปน 3 ระยะดังต่อไปนี้ 1. Prodromal stage ในช่วงนี้ผู้ปวยจะมีลักษณะไขสูงรวมกับอาการออนเพลีย ปวดหัว คลื่นไสคลื่นไส้ ตอนนี้จะกินเวลาประมาณ 1-6 วัน 2. Acute encephalitic stage ผูปวยยังคงมี ไข้รวมทั้งเริ่มมีลักษณะระคายของเยื่อหุมสมอง มีการเปลี่ยนของระดับความรูสึกตัว มีลักษณะชักเกร็ง สามารถตรวจพบ pyramidal tract signs, flaccid paralysis และพบ deep tendon reflex ต่ำลงไดรอยละ 10 อาจเจออัมพาตครึ่งส่วนและก็ความผิดปกติของเสน ประสาทสมองได ระยะที่ 1 และ 2 ของโรคมักใช้เวลา ไมเกิน 2 สัปดาห ผูปวยที่มีอาการรุนแรงมักเสียชีวิต ในตอนนี้ 3. Late stage and sequele ในระยะนี้ไข้จะลดลง อาการทางสมองจะคงเดิมหรือดีขึ้น ผูปวยที่เสียชีวิตในช่วงนี้มักมีต้นเหตุมาจากโรคแทรกซ้อนซอนที่ตามมา อาทิเช่น ปอดอักเสบ โรคติดเชื้อทางเท้าปัสสาวะ ติดเชื้อโรคในกระแสโลหิต อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคนเจ็บโรคไข้สมองอักเสบ บางรายอาจมีอาการ ความประพฤติเปลี่ยนหรือเป็นอาการด้านจิตได้ อาการชักมักเป็น แบบชักเกร็งกระตุกทั่วตัว ซึ่งพบบ่อยมากมายโดย เฉพาะเด็กเล็ก บางทีอาจจะมาด้วยนิ้วกระตุก, ตาเหล่, หรือหายใจผิดจังหวะได้หรืออาจจะมีอาการคล้าย โรคพาร์กินสัน คือมีลักษณะอาการตัวเกร็ง, หน้าไม่แสดง อารมณ์,มือสั่นแล้วก็เคลื่อนทุกข์ยากลำบาก
กระบวนการรักษาโรคไข้สมองอักเสบ การวิเคราะห์ การวิเคราะห์อาศัยความเป็นมา การตรวจรางกายและการ ตรวจทางหองปฏิบัติงาน การตรวจนับเม็ดเลือดพบบ่อยวาจํานวนเม็ดเลือดขาวรวมทั้งคารอยละของนิวโตรฟล เพิ่มขึ้นในระดับปานกลางถึงสูงมาก การตรวจน้ำไขสันหลัง สวนใหญจะพบวาน้ำไขสันหลังมีลักษณะใส ไมมี สีความดันของน้ำไขสันหลังอยูในเกณฑปกติมีเซลล เม็ดเลือดขาวไดตั้งแต 10-1,000 เซลล/ลบ.มิลลิเมตร ซึ่งส่วนใหญเปนประเภทโมโนนิวเคลียรเซลล ในระยะต้นของโรคบางทีอาจไมพบเซลลในน้ำไขสันหลังหรืออาจพบนิวโตรฟลเดนได โปรตีนมักสูงกวาธรรมดาเล็กนอย ระดับน้ำตาลมักอยูในเกณฑปกติเมื่อเทียบกับระดับน้ำตาลในเลือด
การส่งตรวจวิเคราะห์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะมีคุณภาพสูงยิ่งกว่าการตรวจด้วยเครื่อง เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์โดยจะเห็นความไม่ดีเหมือนปกติใน ตำแหน่ง thalamus,basalganglia, midbrain, pons, และก็ medullaตามหน้าที่ที่เจอร่วมมาก ที่สุดคือตำแหน่ง thalamus การส่งไปตรวจแยกเชื้อ (serology) ซึ่ง เป็นการวิเคราะห์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือตรวจหาIgM antibodyเฉพาะต่อไวรัสเจอีในนํ้าไขสันหลังและก็ ในเลือด โดยการตรวจพบ JEV-specific IgM antibody ในนํ้าไขสันหลังสามารถช่วยรับรองการ ติดโรคในครั้งนี้ได้แต่ว่าถ้าตรวจเจอJEV-specific IgMantibodyในเลือดอาจเป็นการติดเชื้อโรคหรือขึ้น จากการได้วัคซีนก็ได้ การตรวจค้น antibody ในนํ้าไขสันหลัง จะสามารถตรวจพบได้ปริมาณร้อยละ 70-90 ในคนป่วยที่ ติดเชื้อโรค โดยจะสามารถตรวจเจอได้เมื่อประมาณ วันที่5-8ภายหลังจากเริ่มมีลักษณะ การตรวจหาantibodyในเลือดจะสามารถ ตรวจเจอได้ปริมาณร้อยละ60-70 ในคนป่วยที่ติดเชื้อโดย จะสามารถตรวจพบได้อย่างต่ำ 9 วันหน้าจาก เริ่มมีลักษณะ ในตอนนี้ยังไม่มีการดูแลและรักษาที่เฉพาะเจาะจง  การดูแลและรักษา    เปนเพียงการดูแลและรักษาตามอาการ ที่สําคัญ คือ ลดอาการบวมของสมอง ดูแลระบบทางเดินหายใจ ใหยายับยั้งชัก บางรายบางทีอาจจําเปนตองให mannitol เพื่อควบคุมความดันในกะโหลกศีรษะ แล้วก็คุ้มครองป้องกันอาการเข้าแทรกตามมา การใช dexamethasone ในขนาดสูงเพื่อลดการบวมของสมองในผูปวยไขสมองอักเสบเจอี พบวาไมสามารถลดอัตราการตายและอัตราการฟนจากโรคได มีรายงานจากการเล่าเรียนแบบ controlled clinical trials ขนาดเล็กเกี่ยวกับ Neutralizing murine monoclonal antibodies ซึ่งผลิตในประเทศจีน นํามาใชรักษาผูปวย ไขสมองอักเสบเจอี เจอวาการดูแลรักษาดังกลาวใหผลของการ รักษาที่  บางรายงายการศึกษาพบว่าได้มีการตรวจสอบและลองใช้ยาต่อต้าน เชื้อไวรัส ribavirin แต่ไม่เจอความไม่เหมือนของผล การดูแลและรักษาของการใช้ยาต้านไวรัสกับยาหลอกแล้วก็ พบว่าcorticosteroidsและinterferonalpha2a ไม่ช่วยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาการและไม่ช่วย ในเรื่องของผลของการรักษา
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ ด้วยเหตุว่าเชื้อไวรัส Japanese encephalitis ที่เป็นตัวการของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี จะอยู่ในสัตว์เลือดอุ่นหลายประเภท อย่างเช่น หมู แล้วก็ยุงจะเป็นพาหะนำเชื้อประเภทนี้มาสู่คน โดยยิ่งไปกว่านั้นหมูที่มีอายุที่มากขึ้น ตัวสัตว์เองก็จะมีภูมิคุ้มกันพอสมควร ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้ามีเชื้อไวรัสอยู่ในตัวก็จะโดนควบคุมไม่ให้มีปริมาณมาก ส่วนลูกหมูชอบมีภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เมื่อโดนยุงกัด แล้วมีเชื้อไวรัส ไวรัสจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะเป็นแหล่งกระจายเชื้อมาสู่ยุงไปสู่คน  ด้วยเหตุดังกล่าวไข้สมองอักเสบเจอี ก็เลยพบได้บ่อยในแหล่งที่มีการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการเลี้ยงหมูเยอะมากๆ อย่างเช่น ในบ้านนอก รวมทั้งบริเวณปริมณฑล และก็พบได้มากในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม แม้กระนั้นก็บางทีอาจเจอเล็กน้อยได้ตลอดทั้งปี คนที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้นว่า เกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงหมู ผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดในเขตแดนที่มีการระบาด ทหารที่เข้าไปปฏิบัติงานหรือปฏิบัติงานในแคว้นที่มีการระบาดของโรค ผู้ย้ายที่อยู่ไปอาศัยอยู่ในต่างแดนที่มีการระบาด
การติดต่อของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี เชื้อ JEV (Japanese encephalitis Virus) จัดอยู่ในตระกูลฟลาวิเชื้อไวรัส (family flaviviridae) สกุลฟลาวิเชื้อไวรัส (genus flavivirus)อยู่ในกรุ๊ปเดียวกับเชื้อไวรัสเด็งกี่(Dengue virus)และไข้เหลือง(yellowfever) ฉะนั้นเชื้อไวรัสเจอี จึงมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับฟลาวิเชื้อไวรัสตัวอื่นๆซึ่งเป็น เชื้อไวรัสที่มีแมลงรับประทานเลือดเป็นพาหะนำ โรคจะติดต่อ ในวงจรจากสัตว์สู่คน โดยมียุงเป็นตัวพาหะนำ เชื้อโรค โดยมีหมูเป็นรังโรคที่สำคัญ หมูที่ติดโรค JE จะไม่มีอาการ แม้กระนั้นมีเชื้อ JE ในเลือด เมื่อยุงไปกัด หมูในระยะนี้เชื้อจะเข้าไปเพิ่มจำนวนในยุง เมื่อ มากัดคนจะกระจายเชื้อเข้าสู่คน ส่วนสัตว์อื่นๆที่จะติด เชื้อ JEเช่นม้า วัวควายนก แต่สัตว์พวกนี้เมื่อติดเชื้อโรคแล้วจะไม่มีอาการมีแต่ม้าและคนเท่านั้นที่มีลักษณะอาการ เมื่อได้รับเชื้อ แล้วประมาณ 1 ใน 300-500 ของผู้ติดเชื้อจะมี อาการสมองอักเสบ หมูมีความสำคัญในวงจรการ แพร่ไปของโรค เพราะว่าจะมีเชื้ออยู่ในกระแส เลือดได้นานกว่าสัตว์อื่นๆก็เลยจัดว่าเป็นamplifier ที่เป็นรังโรคที่สำคัญ ยุงที่เป็นพาหะเป็นชนิด Culex tritaeniorhynchus  Culex golidus , Culex fascocephalus ยุงพวกนี้เพาะพันธุ์ใน ท้องทุ่งที่มีนํ้าขัง จำนวนยุงจะเพิ่มมากในช่วงฤดูฝน ยุงตัวเมียสามารถถ่ายทอดเชื้อผ่านรังไข่ไปสู่ลูกยุงได้ ซึ่งมีระยะฟักตัวในยุงประมาณ 9-12 วัน ยุงกลุ่มนี้จะออกมากัดกินเลือดในช่วงเวลาเย็นหรือ ตอนคํ่า หมูรวมทั้งนกนํ้า ได้แก่ นกกระสา นกยาง เป็นรังโรคที่สำ คัญเนื่องจากจะมีเชื้อสำหรับในการแส เลือดได้นานและก็มีการเพิ่มจำนวนเชื้อได้สูง ซึ่งใน ประเทศไทยประชากรส่วนใหญ่ เลี้ยงชีพทำการเกษตรและมีจำนวนของการ เลี้ยงหมูจำนวนมากด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคไข้สมองอักเสบมากมายตามมา
การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคไข้สมองอักเสบ เจอี

  • รับประทานยาตามหมอสั่ง รวมทั้งกระทำตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด
  • รักษาสุขภาพของร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อคุ้มครองโรคแทรก
  • ไปพบแพทย์จากที่หมอนัดหมายให้ตามกำหนด
  • เมื่อพบว่าอาการแย่ลงหรืออาการทรุดลง หลังจากรับประทานยาที่หมอสั่งให้รีบไปพบหมอโดยด่วน
  • ใช้ยาใช้ภายนอกกันยุงแล้วก็นอนในมุ้งเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อให้กับคนที่อยู่รอบกาย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 กลุ่ม รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การคุ้มครองป้องกันตนเองจากโรคไข้สมองอักเสบ เจอี

  • ผู้ที่จับไข้ตัวร้อนควรไปพบหมอในทันที เมื่อมีลักษณะเหล่านี้ร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น ปวดศีรษะร้ายแรง รับประทานยาพาราแล้วไม่ดีขึ้น คลื่นไส้มาก มีลักษณะอาการชักร่วมด้วย ซึม ไม่ค่อยรู้สึกตัว หรือหมดสติ แขนขาเป็นอัมพาต ปากเบี้ยว กลืนทุกข์ยากลำบาก หรืออ้าปากตรากตรำ (ขากรรไกรแข็ง) หรือก้มคอไม่ลง (คอแข็ง)
  • ควรจะกำจัดยุงรวมทั้งแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง
  • เมื่อมีการระบาดของโรคไข้สมองอักเสบ เจอี ควรจะยินยอมให้ข้าราชการฉีดยาทำลายยุงในบริเวณพื้นที่ มีการระบาดของโรคโดยการพ่นสารเคมีเพื่อฆ่ายุงตัวแก่
  • คุ้มครองปกป้องไม่ให้ยุงกัด โดยนอนกางมุ้ง หรือติดมุ้งลวดในบ้านและตามห้องต่างๆ
  • ย้ายคอกสัตว์ ดังเช่น หมู วัว ควาย ให้ห่างจากแหล่งที่อยู่ที่อาศัย เพื่อลดความเสี่ยงของรังโรค
  • ฉีดยาคุ้มครองโรคไข้สมองอักเสบ
  • วิธีที่เยี่ยมที่สุดในตอนนี้ ดังเช่นว่าการฉีดวัคซีนคุ้มครองโรคนี้ให้แก่เด็กๆของพวกเราก่อนจะติดโรคเองตามธรรมชาติ
  • วัคซีนคุ้มครองโรคไข้สมองอักเสบเจอี (JEV) เริ่มมีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 ในประเทศรัสเซียรวมทั้งญี่ปุ่น ต่อมาได้เพิ่มขั้นตอนการทำให้วัคซีนบริสุทธิ์ขึ้นเพื่อป้องกันผลเข้าแทรกจากการปนเปื้อนของเยื่อสมองหนู และก็ได้รับการพัฒนาต่อบ่อยมาจนกระทั่งมีใช้กันอย่างมากมายในปัจจุบัน
  • ส่วนในประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งระบาดของ เชื้อนั้น มีการฉีดวัคซีนเพื่อคุ้มครองป้องกันโรค ตั้งแต่ปี 2533 โดยเริ่มในภาคเหนือ และเบาๆขยาย ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 โดย ให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปีคนละ 2 ครั้งและกระตุ้น 1 ครั้ง เมื่ออายุ2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี วัคซีนที่ใช้เป็นประเภทเชื้อตาย (JE SMBV: mouse brain-derivedinactivatedJEvaccine)วัคซีน ป้องกันไข้สมองอักเสบเจอีที่ขึ้นทะเบียนและก็ จัดจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมี2ชนิดตัวอย่างเช่น (1.) วัคซีนจำพวกเชื้อตายที่เพาะเชื้อในสมอง หนู(suckling mouse brain vaccine หรือ SMBV) (2.) วัคซีนจำพวกเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ (SA 14–14–2) ที่เพาะเชื้อในเซลล์เพาะเลี้ยง เป็นวัคซีน ใหม่ที่พึ่งจะขึ้นบัญชีในประเทศไทยปีพุทธศักราช2550


สมุนไพรที่ใช้ป้องกันตนเองจากโรคไข้สมองอักเสบ เอจี โรคไข้สมองอักเสบ เจอี เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาเฉพาะการดูแลรักษายังจะต้องใช้การรักษาแบบเกื้อหนุน รักษาตามอาการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่มีสมุนไพรประเภทไหนที่สามารถรักษาได้ แค่มีสมุนไพรที่สามารถช่วยคุ้มครองการเกิดโรคไข้สมองอักเสบ เจอี ได้น่าฟังไข้สมองอักเสบ เจอี นั้นมียุงเป็นยานพาหนะนำเชื้อ ด้วยเหตุดังกล่าวสมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคชนิดนี้นั้น จึงเป็นสมุนไพรที่ใช้ไล่ยุงต่างๆอย่างเช่น
พืชกรุ๊ปสกุล (genus) Cymbopogon
ตะไคร้หอม (Cymbopogon nardus (L.) Rendle) มีการเล่าเรียนฤทธิ์ไล่ยุงของตำรับน้ำมันตะไคร้หอม (citronella oil) ที่มีส่วนประกอบที่สำคัญเป็น citronella, geraniol แล้วก็ citronellol ในรูปแบบของครีม พบว่าตำรับที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 17% ปกป้องยุงลายได้นานโดยประมาณ 3 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันตะไคร้หอม 14% ลดจำนวนยุงเบื่อหน่ายที่มาเกาะข้างใน 1 ชั่วโมงหลังทาครีม นอกจากนั้นสารสกัดเอทานอลของตะไคร้หอมผสมกับน้ำมันที่สกัดจากมะกอกสามารถไล่ยุงลายและก็ยุงเบื่อหน่ายได้นาน 2 ชั่วโมง ครีมที่มีน้ำมันหอมระเหยจากใบตะไคร้หอมที่ความเข้มข้น 1.25, 2.5 แล้วก็ 5.0% คุ้มครองป้องกันยุงก้นปล่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ตอนที่ความเข้มข้น 10% ได้ผลได้เป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง
ตะไคร้ (Cymbopogon citratus (DC.) Stapf) น้ำมันตะไคร้ (lemongrass oil) ใน liquid paraffin ความเข้มข้น 20 รวมทั้ง 25% ส่งผลคุ้มครองปกป้องยุงลายได้ 100% ใน 1 ชั่วโมงแรก แล้วก็น้อยลงเหลือประมาณ 95% ด้านใน 3 ชั่วโมง การเตรียมผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ 15% ในรูปของครีมและก็ขี้ผึ้งพบว่าได้ผลคุ้มครองป้องกันยุงกัดได้ โดยคุณสมบัติขององค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ส่งผลต่อการปลดปล่อยน้ำมันหอมระเหย และมีผลต่อสมรรถนะสำหรับเพื่อการปกป้องยุงด้วย น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่มี geraniol ปริมาณ 0.2 มิลลิกรัม/ซม2 สามารถลดอัตราการกัดจากยุงหงุดหงิดรำคาญ เป็น 10, 15 แล้วก็ 18% ที่เวลา 1, 2 แล้วก็ 3 ชั่วโมงเป็นลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ได้ทาน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ สบู่อาบน้ำที่มีส่วนประกอบของน้ำมันตะไคร้หอม 0.1% น้ำมันตะไคร้ 0.5% แล้วก็น้ำมันสะเดา 1% สามารถไล่ยุงได้ในช่วง 8 ชั่วโมง
พืชกลุ่มสกุล (genus) Ocimum
น้ำมันหอมระเหยจากพืชกลุ่มนี้ 5 จำพวก ตัวอย่างเช่น แมงกะแซง (O. americanum L.) โหระพา (O. basilicum L.) แมงลัก (O. africanum Lour. ExH) ยี่หร่าหรือโหระพาช้าง (O. gratissimum L.) แล้วก็ใบกะเพรา (O. tenuiflorum L.) พบว่ามีฤทธิ์ทั้งฆ่าลูกน้ำและไล่ยุงลายได้ ฤทธิ์ฆ่าลูกน้ำยุงลายของน้ำมันหอมระเหย เรียงลำดับดังต่อไปนี้ โหระพา > ยี่หร่า> ใบกะเพรา > แมงลัก = แมงกะแซง โดยมีค่าความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่ให้ผลคุ้มครองยุงได้ 90% (EC90) พอๆกับ 113, 184, 240, 279 แล้วก็ 283 ppm เป็นลำดับ สำหรับฤทธิ์ไล่ยุงของน้ำมันหอมระเหยที่ความเข้มข้น 10% พบว่า โหระพาช้างมีฤทธิ์แรงที่สุด คุ้มครองป้องกันยุงกัดได้นาน 135 นาที รองลงมาคือ ใบกะเพรา และแมงลัก ที่ปกป้องยุงกัดได้นาน 105 แล้วก็ 75 นาที เป็นลำดับ ในตอนที่แมงกะแซง และโหระพาได้ผลต่ำที่สุดเพียงแค่ 15 นาที
พืชกรุ๊ปสกุล (genus) Citrus
มะกรูด (Citrus hystrix DC.) น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูดมีฤทธิ์คุ้มครองปกป้องยุงได้นาน 95 นาที และตำรับยาใช้ภายนอกกันยุงที่มีน้ำมันมะกรูดความเข้มข้น 25 และ 50% สามารถไล่ยุงได้นาน 30 รวมทั้ง 60 นาที ตามลำดับ น้ำมันหอมระเหยผสมจากมะกรูด 5% รวมทั้งจากดอกชิงเฮา (Artemisia annua L.) 1% คุ้มครองป้องกันยุงลาย ยุงก้นปล่อง และก็ยุงหงุดหงิดได้นาน 180 นาที ในห้องทดลอง ในความเข้มข้นเดียวกันสามารถคุ้มครองยุงลาย และยุงเสือ ได้ 180 นาที แล้วก็ยุงหงุดหงิดรำคาญได้นานถึง 240 นาทีในภาคสนาม
มะนาวฝรั่ง (Citrus limon (L.) Burm.f.) น้ำมันหอมระเหยจากมะนาวฝรั่งมีฤทธิ์ไล่ยุงก้นปล่องได้ 0.88 เท่าของสารเคมีสังเคราะห์ N,N-diethyl-3-methylbenzamide
นอกจากสมุนไพรที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีสมุนไพรอื่นๆที่มีการเรียนรู้ฤทธิ์ในการปกป้องยุง ได้แก่ ข่า ไพล ขึ้นฉ่าย ว่านน้ำ กานพลู หนอนตายหยาก ดอกกระดังงาไทย สารไพรีทรัม (pyrethrum) และก็ไพรีทริน (pyrethrins) ที่เจอได้ในพืชตระกูลดอกต้นเบญจมาศ (chrysanthemum flowers) เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง

  • รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ.ไข้สมองอักเสบ จากเชื้อไวรัส เจอี.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่ 174.คอลัมน์ แนะยา-แจงโรค.ตุลาคม.2536
  • Halstead SB, Jacobson J. Japanese encephalitis vaccines. In: Plotkin SA, Orenstein WA, Offit PA, editors. Vaccines. 5th ed. Elsevier Inc.; 2008. p.311-52. http://www.disthai.com/
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Japanese encephalitis. In: Dupont HL, Steffen R, editors. Textbook of Travel Medicine and Health. 2nd ed. Hamilton: B.C. Decker Inc.; 2001. p.312-4.
  • นศ.พ.เฉลิมเกียรติ สุวรรณเทน.รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า. Japanese Encephalitis. วารสารสมาคมประสาทวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.ปีที่ 6.ฉบับที่4.ตุลาคม-ธันวาคม 2554.หน้า 93-100
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Diseases caused by arboviruses: dengue haemorrhagic fever and Japanese B encephalitis. Med J Aust. 1994;160:22-6.
  • โอฬาร พรหมาลิขิต.วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี.ตำราวัคซีน.สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย.หน้า 127-135
  • Thisyakorn U, Nimmannitya S. Japanese encephalitis in Thai children, Bangkok, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health. 1985;16:93-7.
  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โครงการเสริมภูมิคุ้มกันโรคและวัคซีนไข้ สมองอักเสบเจอีในประเทศไทย. ประจำปี Available from:
  • Thisyakorn U, Thisyakorn C. Studies on Flaviviruses in Thailand. In: Miyai K, Ishikawa E, editors. Progress in Clinical Biochemistry: Proceedings of the 5th Asian-Pacific Congress of Clinical Biochemistry; 1991 Sept 29-Oct 4; Kobe, Japan. Amsterdam: Excerpta Medica; 1992. p.985-7.
  • อุษา ทิสยากร, สุจิตรา นิมมานนิตย. Viral meningitis และ encephalitis ในเด็ก. วารสารโรคติดเชื้อ และยาตานจุลชีพ. 2528;2:6-10.
  • สุจิตรา นิมมานนิตย, อุษา ทิสยากร, อนันต นิสาลักษณ, Hoke CH, Gingrich J, Leake E. Outbreak of Japanese encephalitis-Bangkok Metropolis. รายงาน การเฝาระวังโรคประจําสัปดาห. 2527;15:573-6.
  • นพ.คำนวน อึ้งชูศักดิ์.โรคไข้สมองอักเสบจากไวรัสเจอี ถึงจะร้ายแต่ก็ป้องกันได้.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่108.คอลัมน์กันไว้ดีกว่าแก้.เมษายน.2531
  • สำนักระบาดวิทยา.สรุปรายงานการเฝ้าระวัง โรคประจำปีนนทบุรี:สำนักระบาดวิทยา กองควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; รายปี2552: 21-23.
  • สมบุญ เสนาะเสียง, อัญชนา วากัส, ฐิติพงษ์ ยิ่งยง. Situation of encephalitis and Japanese B Encephalitis, Thailand, 2009. Weekly Epidemiological Surveillance Report. 2010;41:33-5.
  • อุษา ทิสยากร. ไขสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส แจแปนนิส. ใน: อุษา ทิสยากร, จุล ทิสยากร, บรรณาธิการ. กุมารเวชศาสตรเขตรอน. กรุงเทพฯ: ดีไซร จํากัด; 2536. น.89-97
  • วรรณี ลิ่มปติกุล, อุษา ทิสยากร. การติดเชื้อ Japanese Encephalitis Virus ที่โรงพยาบาลสงขลา. วารสารวิชาการเขต 2541;9:65-71.
  • Weekly epidemiological record. Japanese Encephalitis. 2015;90:69-88.
  • อ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ.โรคไข้สมองอักเสบ.บทควา
บันทึกการเข้า