รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ของกินสำหรับคนชราที่มีภาวะโลหิตจาง  (อ่าน 470 ครั้ง)

wyvernads

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • ดูรายละเอียด


ของกินสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะโลหิตจาง



 
เราคงจะเคยได้ฟังคำว่า “ You are, What you eat” กันมามากพอควร ซึ่งถ้าเกิดแปลเป็นภาษาไทย ก็คือ “กินอะไรก็เป็นแบบสิ่งนั้น” เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตและเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการสนับสนุนสุขภาพและก็ป้องกันโรค ฉะนั้น ถ้าเกิดเราเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพพวกเราก็จะมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ถ้าพวกเราเลือกกินอาหารทำร้ายสุขภาพเราก็จะป่วยเป็นโรคต่างๆตามมานั่นเอง โดยเหตุนั้น ของกินก็เลยเป็นทั้งต้นสายปลายเหตุมูลเหตุ และก็เป็นต้นสายปลายเหตุสนับสนุนสำหรับในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของคนเราพวกเรา
 
 


ในทุกๆวันเราทานอาหารเข้าไปล้นหลาม โดยที่อาหารทุกคำที่พวกเรานำเข้าปากนั้น หากพวกเราพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนจะเห็นได้ว่า มีสารอาหารมากมายก่ายกองที่มีทั้งคุณประโยชน์และก็โทษ ซึ่งอาหารนั้นจะเป็นประโยชน์สูงสุดเมื่อเรารู้วิธีการและรู้เรื่องหลักโภชนาการว่า “ของกินเป็นยารักษาโรค” เพราะว่ายาและก็อาหารเสริมต่างๆล้วนสกัดมาจากสารในอาหารที่พวกเราสามารถรับประทานได้ ส่วน “ยา”หมายถึงสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ทางเคมีโดยมีเป้าประสงค์ที่กระจ่างแจ้งสำหรับในการรักษาโรค และ “อาหารเสริม” นั้น สารอาหารที่ร่างกายเราควรได้รับในทุกวัน แต่เราไม่อาจจะจัดหาของกินที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ครบรวมทั้งพอเพียง พวกเราอาจจำเป็นต้องรับประทานเพิ่ม

ด้วยเหตุดังกล่าวอาหารทุกประเภทถ้าเกิดพวกเรามีความรู้ความเข้าใจในหลักการทานอาหารก็จะสามารถเอามาบำบัดหรือรักษาโรคและเยียวยา ฟื้นฟูสุขภาพของเราได้ อย่างเช่น คนที่มีสภาวะโลหิตจาง สามารถใช้ของกินสำหรับในการบำบัดแล้วก็รักษาภาวการณ์โลหิตจางในระยะเริ่มต้นได้ เว้นเสียแต่คนที่สูญเสียเลือด หรือมีภาวะโลหิตจางร้ายแรง การบำบัดรวมทั้งรักษาภาวการณ์โลหิตจางนั้นบางครั้งอาจจะไม่สามารถที่จะกระทำบำบัดได้ทัน จำต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยวิธีการอื่นควบคู่กับการรับประทานอาหาร เช่น การให้ยาบำรุงเลือด หรือ ให้เลือด ฯลฯ
ภาวะโลหิตจางเกิดขึ้นได้อย่างไร
เลือด หรือ โลหิต คือ สารเหลวที่ไหลเวียนไปตามอวัยวะทั่วร่างกายผ่านทางเส้นเลือดต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย เซลล์เม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทาน และกำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย เกล็ดเลือด ช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อมีบาดแผล ป้องกันภาวะมีเลือดออก และสุดท้ายคือ น้ำเลือด มีหน้าที่ขนส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้น หากการทำงานของระบบเลือดผิดปกติ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ และมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพผู้สูงอายุซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่เรื่องระบบการไหลเวียนเลือดมากกว่าวัยอื่นๆ
ภาวะโลหิตจางจึงเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่เม็ดเลือดแดงในกระแสโลหิตมีน้อยกว่าธรรมดา หรือมีแต่มีคุณภาพน้อยกว่าธรรมดา ทำให้ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่ปฏิบัติหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปสู่เยื่อมีปริมาณน้อยลง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เม็ดเลือดแดงมีจำนวนต่ำลงมากยิ่งกว่าปกติ หรือมีคุณภาพน้อยกว่าธรรมดานั้นมีหลายสาเหตุ แม้กระนั้นต้นเหตุที่พบได้บ่อยในคนแก่และคนทุกเพศทุกวัย คือ การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะการขาดธาตุเหล็กซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่พบได้มากทุกเพศทุกวัย โดยยิ่งไปกว่านั้นในผู้สูงอายุ และคนไข้เรื้อรัง ที่อาจมีข้อจำกัดสำหรับในการรับประทานอาหาร อย่างเช่น คนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องอาการเหน็ดเหนื่อย ไม่อยากอาหาร หรือ คนวัยแก่ที่มีปัญหาการบดบด เป็นต้น

 
 
ดังนั้นสาเหตุหลักๆ ของโรคโลหิตจางมีดังนี้
1. การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะการขาดแร่ธาตุเหล็กหรือได้รับไม่
เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พบบ่อยในผู้สูงอายุที่มีปัญหาบดเคี้ยว ไม่มีฟัน มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยและดูดซึม จึงส่งผลให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ รับประทานอาหารน้อยลงจึงได้รับสารอาหารน้อยลงตามไปด้วย
2. ผลกระทบจากโรคเรื้อรังและยาบางชนิด เช่น ผู้สูงอายุที่มีโรค
ประจำตัวจำเป็นต้องได้รับยารักษาโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยาบางตัวขัดขวาง0การดูดซึมธาตุเหล็ก และยับยั้งกระบวนการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย เช่น ยาลดกรด แคลเซียม ยาเคลือบกกระเพาะ เป็นต้น
3. การสูญเสียเลือด ทำให้สูญเสียธาตุเหล็กไปพร้อมกับเลือด เช่นการ
สูญเสียเลือด จากปัญหาเลือดออกในทางเดินอาหาร ริดสีดวงทหาร มีพยาธิปากขอในร่างกาย เป็นต้น
เราจึงสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มี
อาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลตและธาตุเหล็ก หมุนเวียนกันในแต่ละมื้อและรับประทานให้ครบทุกวัน ซึ่งผู้สูงอายุควรรับประทานอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางและภาวะแทรกซ้อนจากโรคโลหิตจางที่จะตามมาอีกมากมาย
การเยียวยาและฟื้นฟูสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุนั้น มีความจำเป็นจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อร่างกายรับเอาสารอาหารที่จำเป็นสู่ร่างกายนั้น จะต้องผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึม เข้าสู่เซลล์แล้ว สารอาหารจำเป็นต่างๆ ที่ร่างกายได้รับจึงจะสามารถเข้าไปช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย หลักการจัดอาหารที่สำคัญที่สุดของผู้สูงอายุจึงต้องจัดอาหารให้ครบทุกหมู่ หลากหลาย และง่ายต่อการดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกายต่อไป
สินค้า อาหารเสริม ผู้สูงอายุ Seniorina By Senior Balance50+ มีส่วนผสมของราชาสมุนไพร 4 ประเภท คือ เห็ดหลินจือ ถังเช่า โสม ใบแปะก๊วย และสารสกัดจากต้นพฤกษ์ธรรมชาติที่ได้รับการชื่นชมให้เป็นราชินีผักแล้วก็ผลไม้ 5 สี ได้แก่ เม็ดต้นอ่อนข้าวสาลี ผักโขม มะเขือเทศ ทับทิม ถั่วเหลือง งาดำ บิลเบอรี่ เสาวรส แครอท รวมทั้งอื่นๆ รวมทั้งวิตามินรวมและแร่ธาตุที่จำเป็นจะต้องแก่ร่างกายของผู้สูงวัย

 

อาหารเสริมผู้สูงอายุซีเนียรินา! เราเกิดมาเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงวัย!และวัย 50 ปี
 
วัยทองเป็นวัยเริ่มสู่วัยคนชรา จะต้องมีการเตรียมพร้อมร่างกายเพื่อปรับนิสัยกับความเคลื่อนไหว ถั่วเหลืองเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับในการบำรุงสุขภาพช่วยทำให้ผู้ที่จะเข้าสู่วัยทองสามารถปรับสมดุลของร่างกายแล้วก็ฟื้นฟูสุขภาพ ข้างหลังที่ฮอร์โมนเพศเริ่มลดลง ได้ดังนี้
1. ช่วยปรับสภาพของฮอร์โมนเพศในสตรีให้สมดุล ได้แก่ ช่วยลด
ความรู้สึกไม่สบายตัว อาการร้อนวูบวาบในระยะหมดประจำเดือนของสตรี รวมไปถึงอาการหงุดหงิด เหงื่อแตก ช่องคลอดแห้ง อารมณ์แปรปรวน หรือมีอาการทางผิวหนังและเยื่อบุบริเวณช่องคลอดแห้งหรืออักเสบ และช่วยลดอาการผิดปกติของหญิงวัยหมดประจำเดือนได้
2. ช่วยป้องกันการขาดแคลเซียม ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ช่วยลดความรุนแรงของโรคกระดูกผุช่วยลดการสลายของกระดูก และป้องกันโรคกระดูกพรุน ในวัยทอง
3. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยในการเผาผลาญอาหารในกระเพาะอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเผลาผลาญไขมันไม่อิ่มตัว
4. ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน และ ปวดศรีษะ ตามตำราแพทย์ของจีนระบุว่า ถั่วเหลืองมีฤทธิ์บำรุงม้ามและลมปราณในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และมีบางการศึกษาระบุว่า การบริโภคถั่วเหลืองเป็นประจำ อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย และมะเร็งเต้านมในเพศหญิงวัยที่ยังมีประจำเดือน
5. ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง เนื่องจากถั่วเหลืองมีธาตุเหล็กสูง โดยการจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้จะต้องรับประทานร่วมกับอาหารชนิดอื่น ๆ เช่น เนื้อสัตว์หรือวิตามินซีจากผลไม้ เป็นต้น

นอกจากวัยทองแล้ว ถั่วเหลืองยังสามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย โดยที่จุดเด่นที่สำคัญของถั่วเหลือง คือ ผู้ที่รับประทานถั่วเหลืองอย่างต่อเนื่องนั้น จะสามารถลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังและโรคมะเร็งได้ เช่น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และ เส้นใยอาหารจากถั่วเหลือง สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ ช่วยบำบัดและรักษาผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต เนื่องจากถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวน ที่ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น เป็นต้น
ทราบประโยชน์ของถั่วเหลืองแล้ว อย่าลืมรับประทานถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ของถั่วเหลืองให้ได้อย่างน้อยวันละ 25 กรัม ก็จะสามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพและปรับสมดุลเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยทองได้อย่างมั่นใจแน่นอน


สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 
Line : @longlifebalance
 
Fanpage : https://www.facebook.com/seniorbalance50/
 
Website : https://www.longlifebalance.com/


Tags : สมุนไพรสำหรับผู้สูงอายุ,อาหารเสริมผู้สูงอายุ เบื่ออาหาร,สมุนไพรสามัญประจำบ้าน
บันทึกการเข้า